8 ส.ค.2566- ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงการรวมพรรคของพรรคเพื่อไทย (พท.)และพรรคภูมิใจไทย (ภจ.)ในการจัดตั้งรัฐบาลว่า วุฒิสภาต้องรอให้แต่ละพรรคการเมืองที่ไปจัดตั้งรัฐบาลรวมตัวกันให้เสร็จ เพราะต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพต้องได้เสียงเกินกว่า 250 คนขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ได้ 200 กว่าแล้ว คงต้องดูว่าแต่ละพรรคที่จะมารวมตัวกันมีพรรคใดบ้าง เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและคนที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คงต้องไปตกลงกันว่าจะนำชื่อท่านใดที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แม้พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ แต่ระยะเวลายังมีอยู่ ก็คงต้องรอต่อไปว่าสุดท้ายการเสนอชื่อในสภาจะเป็นชื่อใดกันแน่
เมื่อถามว่าแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ยังเป็นนายเศรษฐาอยู่ ทางสว.จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์พิจารณามากกว่า เพราะการเสนอชื่อมาแล้วต้องอยู่ในมาตรฐานที่เราเคยตัดสินใจไปแล้วว่า 1. ต้องไม่แตะมาตรา 112 หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวดมาตราพระมหากษัตริย์ ถือเป็นหลักสำคัญในการพิจารณาครั้งก่อน 2. ดูคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนที่ได้รับการเสนอชื่อมีการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 3. ดูนโยบายของแต่ละพรรคเพื่อนำมาประกอบในการตัดสินใจ ถือว่ามีส่วนสำคัญเพราะมีผลกระทบกับประชาชน
ถามว่า ทางส.ว.จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐาในกรณีเลี่ยงภาษีที่ดินหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ตอนนี้มีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พชปร.)มายื่นตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการจะพิจารณารายละเอียดในการประชุมกรรมาธิการในวันนี้ ซึ่งจะดูในเรื่องที่เขาร้องเรียนมาเพราะยังไม่ทราบว่าเขายื่นเรื่องใดบ้าง เกี่ยวข้องกับกรรมาธิการหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องก็พิจารณา ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ
ซักว่า จำเป็นต้องตรวจสอบให้เสร็จก่อนการโหวตนายกฯครั้งต่อไปหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ควรตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะเป็นเหตุผลสำคัญของคนที่จะมาบริหารประเทศ อย่างไรก็ตามต้องวางแนวทางว่าต้องไม่อคติและต้องดูตามเหตุผลไป
ถามต่อว่า นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ที่ระบุว่านายกฯคนต่อไปไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทยทำให้หลายคนมองว่าเป็นธงของส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่ ตนคิดว่าเป็นเหตุผลของนายกิตติศักดิ์เอง คงเป็นดุลยพินิจของบุคคล เราคงฟันธงตอนนี้ไม่ได้ เพราะในที่สุด ยังไม่รู้เลยว่าพอถึงเวลาจริงการเสนอชื่อในสภาต้องใช้เสียง 1 ใน 10 ซึ่งจะเป็นท่านใด ต้องรอกันนิดหนึ่ง
เมื่อถามว่า ส.ว.อยากให้นายเศรษฐามาแสดงวิสัยทัศน์ด้วยตัวเอง นายเสรี กล่าวว่า ใช่ ตนเรียนไว้แต่แรก คำถามหรือข้อสงสัยถึงความเหมาะสมในการเป็นนายกฯจะขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ ซึ่งคนที่ได้รับการเสนอชื่อต้องขออนุญาตประธานสภามาแสดงวิสัยทัศน์ ต้องตอบคำถามของสมาชิกที่อยากจะทราบข้อมูลในหลายๆเรื่องโดยจะเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้รับการเสนอชื่อด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)และพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาลจะมีผลต่อการรวมคะแนนเสียงของ ส.ว.หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า แล้วแต่บุคคล มีผลหรือไม่ตนคิดว่าทุกพรรคที่เสนอชื่อมา ส.ว.ต้องพิจารณาทั้งหมด คงไม่เลือกพรรคในการพิจารณา แต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญในแต่ละพรรคที่ต้องตกลงกันเอง
ถามย้ำว่า การลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ นายกฯไม่เกี่ยว แต่อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ต้องดูให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความเข้มแข็ง แต่ละพรรคที่มาร่วมต้องไม่สร้างปัญหาในมวลหมู่ทางการเมืองหรือไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าในสถานการณ์ปัจจุบันมีการแสดงออกทางการเมืองที่ก้าวร้าว รุนแรง แต่บางพรรคไปอยู่เบื้องหลังยุยงส่งเสริมให้ทำเรื่องเหล่านี้ บ้านเมืองก็ไม่สงบอย่างที่เห็น แต่พรรคนี้ไปแสดงออกซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ไปสนับสนุน ก็คงมองเห็นว่าใครสนับสนุนใครซึ่งไม่ดีต่อบรรยากาศของประเทศโดยรวม เพราะฉะนั้นความเป็นนักกการเมืองและพรรคการเมืองต้องมีความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่จะไปก้าวร้าวกับใครก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ ตนคิดว่าทำให้การเมืองเราไปสู่ทางตัน บ้านเมืองก็เสียหายเพราะเล่นการเมืองแบบไม่รับผิดชอบกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา
ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ
'จตุพร' ให้จับตา '22พ.ย.' จุดเปลี่ยนการเมืองไทย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า วันที่ 22 พ.ย.นี้จะเป็นปฐมบทของคนรักชาติได้ห
'อดีตบิ๊กศรภ.' ชี้ 'ทักษิณ' ยังมีโอกาสอยู่เกินปีใหม่แน่ แต่ไม่น่าจะเกินต้นปีหน้า
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ทักษิณ
สุดลิ่ม! ‘วันชัย’ มั่นใจ ‘ทักษิณ-พท.’ ตั้งหลักได้อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ปล่อยนักร้องอกแตกตาย
ถ้าคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยตั้งหลักได้เมื่อไร อะไรก็รั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ถึงกับกล้าประกาศว่าเลือกตั้งคราวหน้าจะคว้าให้ได้ถึง 200 เสียงขึ้น
มีสะดุ้ง! เทพไท บอก ‘ทักษิณ’ อยู่ดีไม่ว่าดี ให้เด็กรุมถอนหงอก
การปราศรัยปะทะคารมกันครั้งนี้ จะมีผลต่อการเลือกนายกอบจ. อุดรธานีหรือไม่ ไม่สามารถวัดได้ แต่ถ้าการเมืองระดับชาติ การปราศรัยตอบโต้กันแบบนี้ ถือว่าพรรคประชาชนได้เปรียบ ทักษิณขาดทุน