
ชูวิทย์ เมิน ‘เศรษฐา’ ฟ้อง ลั่นแคนดิเดตนายกฯต้องตรวจสอบ ชี้เป็นศรีธนญชัยจงใจอำพรางการเลี่ยงภาษี จ่อเดินหน้าฟ้อง ปปช. ต่อ
7 ส.ค.2566-ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ให้สัมาษณ์ระหว่างศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ962/2566 นายชูวิทย์ เป็นโจทก์ ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดนนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มอบหมายทนายความฟ้องร้องดำเนินคดี หลังออกมาเปิดเผยเรื่องการเลี่ยงภาษีที่มีนายเศรษฐาเกี่ยวข้องว่า รู้สึกขนลุกตอนนี้ตนมี 21 คดีแล้ว
นายชูวิทย์กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเปิดโปงต่างๆก็ทำเพื่อชาติบ้านเมือง นายเศรษฐาซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะและกำลังเสนอตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน นายเศรษฐามีความเป็นนายทุนเมื่อเป็นนายทุน ได้ใช้รถไฟความเร็วสูงสายยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าไปในพรรคเพื่อไทย แต่คุณสมบัติของนายเศรษฐา เป็นสิ่งที่ประชาชนอย่างตนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะหากอ้างอิงตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 160 บุคคลที่เป็นนายก จะต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ประเด็นนี้ตนได้ปรึกษาทนายมาเสมอว่า คุณสมบัติ ความซื่อสัตย์ คือความหมายเดียวกันหรือไม่ และคุณสมบัติในที่นี่เป็นการพูดถึงเรื่องในอดีต,ปัจจุบัน หรือ อนาคต
“ก่อนที่นายเศรษฐาจะเป็นนายกฯ จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ห้ามมีพฤติการณ์น่าสงสัย พฤติกรรมของเศรษฐามาจากการวางแผนกระทำการร่วมมือสนับสนุนในฐานะผู้ซื้อ และมีผู้ขายที่เป็นคู่สัญญาทำการหลบเลี่ยงภาษี”
ถามถึงประเด็นนี้นายเศรษฐาจะฟ้องนั้น นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนเองก็ได้ปรึกษากับทนายความแล้วว่าจะฟ้องกลับนายเศรษฐาอีกรอบเลยดีหรือไม่ เพราะนี่ถือเป็นการกลั่นแกล้งให้ตนปิดปากและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเดียว ตนมีประเด็นอื่นที่จะต้อง แถลงต่อไป ดังนั้นสิ่งที่ตนพูด นายเศรษฐาจะต้องชี้แจงต้องอธิบายให้ประชาชนรับทราบการที่จะทำการมาฟ้องเพื่อปิดปาก ถือว่าทำไม่ได้เพราะนายเศรษฐากำลังจะถูกเสนอชื่อโหวตนายกฯ ลำดับต่อไปตนจะไปยื่นหลักฐานต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
“ที่มีทนายบางคนออกมาตอบโต้ผม ก็ไม่เป็นไรเพราะเราอย่าลืมคำว่าจริยธรรม คนที่เป็นนายกจะต้องดี 100% ไม่ใช่ดีเพียง 50% เพราะคำว่าจริยธรรมเป็นเพียงเส้นบางๆระหว่าง เล่ห์เหลี่ยมของนายทุน กับความซื่อสัตย์ของนายกรัฐมนตรีสิ่งที่ทำนี้ ถ้าคิดว่าถูกกฎหมาย ก็ต้องไปประกาศ ว่าสิ่งที่ทำเป็นกฎของนายเศรษฐา การแบ่งแยกโอน 12 คน 12 วัน เปรียบเหมือน ศรีธนญชัย ซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณวางแผนอะไรกัน”
เมื่อถามว่าเมื่อไปยื่นเรื่องที่สรรพากรได้คำตอบแล้วหรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนเป็นคนชอบขุด ชอบทำหลุมพราง คนอยากบอกว่าการนิติกรรมอำพรางลักษณะนี้ เคยมีการดำเนินคดีมาแล้วมีการตัดสินคดีมาแล้ว มีบทเรียนมาแล้ว มีโทษตามกรรม เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายร่วมทำนิติกรรมอำพรางด้วยกันก็จะต้องรับโทษตามกฎหมาย
“คนใส่สูทเวลาจะปล้นไม่ได้ใช้ปืนแต่ใช้กฎหมายเว้นวรรค”
ด้านนายอนันต์ไชย กล่าวว่า หลักมีอยู่ว่าการกระทำความผิดในคดีอาญาต้องมีเจตนาเล็งเห็นผลได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กรณีที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองและมีการตรวจสอบโดยประชาชน ถือว่าประชาชนมีสิทธิ์ตรวจสอบ ถ้ามีผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหลายคนก็จะต้องคุยให้จบทุกคน จากนั้นเป็นขั้นตอนสู่การโอน ซึ่งการ ลดภาษีก็มีช่องทางวิธีการทำอยู่ ทั้งนี้กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช.เปิดเซฟ 6 รมต.ค่ายน้ำเงินล็อตแรก ‘ศุภมาศ’ อู้ฟู่พันล้าน
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำ
เปิดขุมทรัพย์ แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ‘จุลพันธ์’ 86 ล้าน ‘สุริยะ’ รวยจริง 1.6 พันล. ซื้อเครื่องบิน 30 ล้าน
-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำ
ป.ป.ช.เปิดเซฟ 'สหายอ้วน' พ้นรมต. มี 49 ล้าน 'ทวี' อู้ฟู่ 60 ล.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรง
ชูวิทย์ ฟันธงเลือกตั้งครั้งหน้าคนเท ‘พรรคส้ม’
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสส. หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ
จับตาสว.เคาะ2ป.ป.ช. ผุดกมธ.คุ้ยชีวิต2กกต.
จับตาสภาสูงโหวต 2 ป.ป.ช.ใหม่พุธนี้ วัดใจ สว.สีน้ำเงินให้ผ่านหรือตีตกสองบิ๊กตุลาการ
คดีค้างอื้อ! เบรกสว.สีน้ำเงินลงมติห็นชอบ ชี้ขัดกันแห่งผลประโยชน์
สว.อิสระค้าน พุธนี้สภาสูงลงมติเห็นชอบป.ป.ช.-ตั้งกมธ.สอบประวัติว่าที่กกต. ยกเหตุเพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หลังสว.เกินครึ่งมีเรื่องค้างที่ตึกป.ป.ช.-กกต.

