'ก้าวไกล' แถลงติง 'ปธ.วันนอร์' ชิงปิดสภาไม่สง่างาม

‘ก้าวไกล’ เสียดาย ‘ปธ.วันนอร์’ สั่งปิดประชุม ทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุป หลังชงทบทวนมติตีความเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำไม่ได้ ยันทำเพื่อทุกพรรค ไม่ต้องสลับขั้วร่วมรัฐบาลเดิม

4 ส.ค. 2566 – ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อม สส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังจากประธานรัฐสภาใช้อำนาจตามข้อบังคับการประชุมที่ 22 เลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันนี้ไปก่อน และสั่งปิดการประชุม

โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า สส.พรรคก้าวไกล ขอยืนยันว่า

1.ญัตติที่ สส.พรรคก้าวไกล เสนอให้ทบทวนมติที่รัฐสภาเคยพิจารณาว่า การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามญัตติทั่วไปตามข้อบังคังที่ 41 เป็นญัตติที่ถูกต้อง ซึ่งประธานรัฐสภาควรเปิดให้มีการลงมติว่าเห็นชอบหรือไม่กับญัตตินี้ เรื่องนี้ทางพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายสนับสนุนให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้เป็นประธานรัฐสภา เรามีข้อกังวลว่าการปิดประชุมนี้ อาจไม่สง่างาม อาจถูกมองว่าเสียง สว. อาจไม่มากพอ ทำให้ไม่ไปสู่การลงมติ

2.การปิดประชุมสภาทำให้การดำเนินการวาระการประชุมทั้ง 2 วาระในวันนี้ ไม่เกิดขึ้น อย่างการเลือกนายกฯ เรายืนยันว่า สามารถเลือกได้โดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อบอกให้เลื่อนไปก่อน ก็ยังมีวาระการเสนอยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถ้าผ่านวาระ 1 ก็จะทำให้การเลือกนายกฯ ไม่ไปสู่ทางตัน หวังว่าการประชุมครั้งต่อไปจะดำเนินการไปได้โดยเร็วที่สุด

ด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเสนอวันนี้ มีนักวิชาการเข้าชื่อในแถลงการณ์ 115 คน มีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การพิจารณาในประเด็นผู้ที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งถูกเลื่อนหลายครั้ง เราไม่จำเป็นต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยอำนาจของสภา เมื่อเราเสนอแล้ว มีผู้รับรองถูกต้อง ประธานรัฐสภาต้องให้พิจารณาเรื่องนี้ เราไม่ได้มีเจตนาในการประวิงเวลา ใช้เวลามากเกินไป และจะได้ข้อสรุปอย่างเร็วที่สุด หากได้ทบทวนในผลของการลมติครั้งก่อน ก็จะได้ไม่ต้องเจอเงื่อนไขการเลื่อนประชุมออกไป ซึ่งไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยว่าอย่างไรในอนาคต

1.ญัตติของพรรคก้าวไกล เป็นหลักการซ้ำ เพราะสภามีมติตาม 151 ไปแล้ว จึงเข้าข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ไปแล้ว จึงขอยืนยันว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เรามีมติการตีความข้อบังคับว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเสนอได้อีกหรือไม่ เรื่องที่เสนอวันนี้คือการทบทวน โดยสาระสำคัญคนละเรื่อง การเสนอของก้าวไกลไม่ใช่ญัตติซ้ำ หากเสนอไปแล้ว และเสนออีกในสัปดาห์หน้า ก็ทำไม่ได้ เพราะมันซ้ำ

2.ตามข้อบังคับ 51 การตีความนั้นต้องตีความเด็ดขาด หมายความว่าเมื่อตีความแล้วจะมีผู้ใดยกเรื่องเดิมมาอีกไม่ได้ แต่ไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้ทบทวนวินิจฉัยอีกครั้ง ยืนยันว่าสามารถเสนอได้ มีสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยก็ช่วยยืนยัน จึงน่าแปลกใจที่การประชุมสภาต้องสิ้นสุด โดยไม่มีข้อยุติอะไรเลย ซึ่งพอเลื่อนประชุม ที่น่าเสียดายที่สุดคือ การแก้ไขมาตรา 272 ที่เป็นทางออกที่สำคัญของประเทศก็ไม่ได้พิจารณา

“วันนี้ทราบมาแต่ต้นว่ามีความพยายามในการล้มการประชุม ถ้าไม่ได้ สส. วิโรจน์ ช่วยกระตุ้น คงจะไม่มีการแห่เข้ามาประชุม แต่การใช้วิชามารแบบนี้ ขอถามว่า ประเทศได้อะไรจากการปิดการประชุมแบบนี้” นายรังสิมันต์ ระบุ

นายชัยธวัช ย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราไม่แน่ใจว่าการเลือกนายกฯ จะยืดเยื้อไปถึงไหน ตอนนี้ก็ไปถึงกลางเดือนแล้ว หากวันนี้ได้พิจารณามาตราดังกล่าว และผ่านวาระที่ 1 สิ้นเดือนนี้อาจผ่านวาระที่ 3 ได้ เป็นอีกมาตรการที่ทำให้การเมืองไม่ไปสู่ทางตัน

เมื่อถามว่า หากแก้ไขได้จะกลับมาเสนอชื่อนายพิธาอีกครั้งหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า เราไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ทำเพื่อทุกพรรค รวมถึงพรรคเพื่อไทยที่ตอนนี้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย อาจไม่จำเป็นต้องพลิกขั้วรัฐบาล หรือถูกบีบให้ไปร่วมกับพวกสืบทอดอำนาจจากขั้วรัฐบาลเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าการเสนอชื่อนายพิธา ไม่ได้เป็นญัตติ สามารถเสนอซ้ำได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า หากมีคำวินิจฉัยแบบนั้น ก็ต้องคุยกับพรรคการเมืองอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าการเสนอญัตติวันนี้ เห็นว่าไม่ใช่อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญในการมาชี้ แต่ควรเป็นอำนาจของรัฐสภา เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงเสนอให้มีทบทวน เรื่องนี้ไม่อยู่ในขอบเขตของอำนาจศาล จึงเสนอให้ใช้กลไกรัฐสภา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

'วิโรจน์' บอก 7 ส.ค. ผลออกมา ต้องมีคำอธิบายที่ปชช.เข้าใจได้

'วิโรจน์' บอกตามตรง 7 ส.ค. ก็แค่วันปกติ ยัน ไม่ตื่นตระหนก แต่ไม่ประมาท 'คดียุบก้าวไกล' หากผลเป็นลบ ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ภายใต้กรอบนิติรัฐ-นิติธรรม

พิธา มั่นใจ ก้าวไกล ไม่ถูกยุบ แต่เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

'พิธา' มองบวก 'ก้าวไกล' ยังมีโอกาสรอดสูง พร้อมเตรียมแผนรับรองทุกกรณี ลั่น ถึงไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีอยู่ของพวกผม จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า