ปชป. ไม่เลื่อน! ลุยเลือก 'หัวหน้า-กก.บห.' ชุดใหม่ 6 ส.ค.

‘ราเมศ’ แจงปมสมาชิก ปชป. ร้อง กกต. ยันทุกกระบวนการของพรรค ยึดกฎหมายเคร่งครัด เดินหน้าประชุมใหญ่เลือกหัวหน้า-กก.บห.ชุดใหม่ 6 ส.ค.

4 ส.ค. 2566 – นายราเมศ รัตนะเชวง รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกพรรคไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ทางพรรคยังไม่เห็นตัวคำร้องฉบับเต็มที่ไปยื่นต่อ กกต. แต่ในหลักการยืนยันว่าทุกการดำเนินกิจกรรมในทางการเมืองของพรรคยึดรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อบังคับพรรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งการประชุมเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา องค์ประชุมไม่ครบ ก็เป็นไปตามข้อบังคับที่มีความจำเป็นต้องยุติการประชุมเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าประชุมต่อไปทั้งๆ ที่องค์ประชุมไม่ครบสองร้อยห้าสิบคนก็จะผิดกฎหมาย เมื่อปิดการประชุมเพื่อให้มีการประชุมใหม่ก็ถือว่าประธานในที่ประชุมได้ทำถูกต้องแล้วเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ

ส่วนกรณีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ให้งดเว้นข้อบังคับในส่วนการหยั่งเสียงเบื้องต้นนั้น สามารถทำได้ ไม่มีประเด็นไหนที่ผิดกฎหมาย หลักการในเรื่องนี้คือในสมัยที่มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายวรงค์ เดชกิจวิกรม นายอลงกรณ์ พลบุตร ร่วมลงสมัครแข่งขันกัน ได้มีการดำเนินการให้สมาชิกลงคะแนนเสียงเบื้องต้น เมื่อได้ผลอย่างไรแล้วให้มีการเลือกกันอีกรอบในที่ประชุมใหญ่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สมัยที่มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่มี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดและต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในการจัดการหยั่งเสียงเบื้องต้น คณะกรรมการบริหารพรรคขณะนั้นได้ให้มีการงดเว้นไม่ให้มีการหยั่งเสียงเบื้องต้นจากสมาชิก ในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ได้มีการงดเว้น

“การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคยังอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ กฎหมายและข้อบังคับ แม้รัฐธรรมนูญและกฎหมายไม่ได้บังคับ ให้ต้องทำ แต่พรรคได้รับฟังเสียงสมาชิกพรรคให้เข้ามามีส่วนร่วมโดยผ่านกระบวนการของตัวแทนพรรคและสาขา ทุกอย่างดำเนินการอย่างเคร่งครัดไม่ได้ลิดรอนสิทธิสมาชิกพรรคแต่อย่างใด” นายราเมศ ระบุ

ส่วนกรณีการใช้สัดส่วนการคำนวณคะแนนเสียงในการเลือกกรรมการบริหารพรรค ในสัดส่วนร้อยละ 70 ต่อ 30 ซึ่งการลงคะแนนของ สส. อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 70 และในส่วนขององค์ประชุมอื่นๆ อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 30 ก็เป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคเป็นการดำเนินการกิจการทางการเมืองภายในของพรรค มีกรณีที่ไม่เห็นด้วยก็มีสมาชิกที่เป็นองค์ประชุมเสนอเป็นญัตติเพื่อทำการงดเว้นและแก้ไขแต่ญัตติดังกล่าว ซึ่งได้มีมติทั้งสองจากที่ประชุมคือที่ประชุมใหญ่ไม่อนุญาตให้มีการงดเว้น และที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่รับญัตติการขอแก้ข้อบังคับพรรคดังกล่าว จึงขอย้ำว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีกรณีใดที่กระทำขัดต่อกฎหมาย

รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อกระบวนการถูกต้อง วันที่ 6 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ก็ยังคงมีการประชุมใหญ่ไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเพื่อให้พรรคดำเนินการประชุมต่อไปได้ การเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเรื่องที่สำคัญ การต่อสู้แข่งขันกันเป็นเรื่องปกติเพราะพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรคที่จะมาสั่งการได้ แต่ในการแข่งขันนั้นก็เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องตระหนักว่า ความเป็นประชาธิปัตย์ มีความสำคัญกว่าการแข่งขันเพียงเพื่อให้ได้รับชัยชนะ สมาชิกพรรคที่เป็นองค์ประชุมมีหลักคิดในการเลือกผู้นำอย่างแน่นอน

ส่วนที่พรรคถูกสมาชิกพรรคร้องต่อ กกต. นั้น ก็ว่ากันตามกระบวนการ และพรรคพร้อมที่จะชี้แจง เพราะไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากเกิดอะไรขึ้นกับพรรค เชื่อว่าจะไม่มีใครชนะแม้แต่คนเดียว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง

เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.

จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ