'รทสช.' จี้ 'เศรษฐา' เข้าสภาฯ อธิบายให้ชัดปม ม.112 แนะ 'วันนอร์' เลื่อนโหวตนายกฯ

"รทสช." ติงปธ.สภา อย่าเร่งรัดเรียกประชุม จะทำปชช.ประสาทเสีย รอให้พร้อม20 วันก็รอได้ หากฝืน คำตอบมีแค่ 2 ทางโหวตสวน-งดออกเสียง ลั่น "เศรษฐา" ต้องโชว์วิสัยทัศน์ บอกให้ชัดปม ม.112 ปัดตอบมีงูเห่าในพรรค เย้ยกูรูมีเยอะแต่หักปากกาเซียนมาแล้ว

2 ส.ค.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมส.ส.ของพรรค ซึ่งใช้เวลาการประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมวันนี้เป็นการประชุมตามปกติก่อนมีการประชุมสภา เพื่อกำหนดประเด็นในการทำงานในสภา ซึ่งในสัปดาห์นี้จะมีการประชุม 2 วัน โดยในวันที่ 3 ส.ค.เป็นการพิจารณาเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งยังมีเรื่องที่พรรคติดใจคือการกำหนดระเบียบวาระของสภาที่แจ้งให้ทราบซึ่งมีเรื่องที่ค้างการพิจารณาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. เกี่ยวกับการรายงานงบดุลทางการเงินของหน่วยงานต่างๆยังค้างการพิจารณาถึง 6 เรื่อง หายไปจากระเบียบวาระการประชุมและนำเสนอเรื่องใหม่เข้ามา ทั้งเรื่องพระราชบัญญัติและพระราชกำหนดและญัตติ ทั้งๆที่การประชุมสภาควรมีการกำหนดว่าวันแรกจะพิจารณาเรื่องอะไร เรื่องญัตติเรื่องหารือ ส่วนวันที่สองเป็นการพิจารณาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการกำหนด ทั้งนี้วาระที่ประธานสภาส่งมาให้ส.ส.ค่อนข้างสับสน พรรคจึงได้เตรียมสมาชิกหารือเพื่อหามาตรการต่างๆเพื่อให้เกิดความลงตัว

นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ระเบียบวาระมี 2 เรื่อง เรื่องที่สำคัญคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาจนถึงวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีชี้ชัดลงมา และเราก็ไม่มั่นใจว่าในวันที่ 3 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยหรือไม่ แล้วในวันที่ 4 ส.ค.ตามที่ประธานสภาได้นัดหมายมีอะไรเปลี่ยนแปลงและท่านรู้ได้อย่างไร หรือจะมาเริ่มต้นการพิจารณาใหม่ แล้วหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปอีกทางหนึ่งก็จะเกิดบรรยากาศคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นการเร่งรัดของประธานสภาทำให้เกิดความไม่แน่นอนของสถานการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าติดตามการเมืองทั้งหมดวันนี้ก็ได้ทราบชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้มีการประกาศยกเลิกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูของ 8 พรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าจะเริ่มต้นใหม่ของการจัดตั้งรัฐบาล และทราบว่าจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

"ก็ต้องรอดูเพราะถ้าเสนอชื่อนายเศรษฐาท่าทีของสว.จะคิดอย่างไร จากที่นายเศรษฐาเคยยืนยันที่ต้องจับมือกับก้าวไกลมาโดยตลอด และเคยประกาศสนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 เรื่องนี้ต้องดูว่าสว.จะคิดอย่างไร และนายเศรษฐาจะมีคำตอบอย่างไรต่อที่ประชุมรัฐสภา และจะต้องมีคำตอบกับพวกผมที่เราไม่เอาเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณา รทสช.ยืนยันถ้ามาแล้วมีคำตอบที่ไม่มั่นใจ ยืนยันอะไรไม่ได้ เราก็ผ่านให้ไม่ได้"นายวิทยากล่าว

เมื่อถามว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้าง นายวิทยากล่าวว่า นายพีระพันธุ์ให้ทุกคนดูตามสถานการณ์ ซึ่งในฐานะประธานวิปก็จะมีการหารือในสถานการณ์นั้นๆ ว่าจะลงมติสวนเลยหรือจะงดออกเสียงหากไม่มีความชัดเจน มีแค่ 2 ทางนี้เท่านั้น

เมื่อถามว่า ยังไม่มีการประสานงานในการจัดตั้งรัฐบาลมาจากพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า เรื่องโทรศัพท์คุยกันประสานงานกัน ไม่ใช่การจัดตั้งรัฐบาล การตั้งรัฐบาลจะต้องมีความพร้อม และพร้อมที่จะทำนโยบายร่วมกัน อีกทั้งประธานสภาก็ควรให้เวลากับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่นึกแค่เพียงว่าตั้งรัฐบาลแค่ say hello สองคำแล้วไปตั้งรัฐบาล มันไม่ใช่ วันนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองตั้งรัฐบาล ดังนั้นทุกอย่างต้องชัดเจนว่าทำอะไร ไม่ใช่แค่ว่าสัปดาห์หน้าตัวประธานสภาไม่อยู่ จะต้องรีบประชุมในสัปดาห์นี้ เพื่อที่สัปดาห์ต่อไปกลับมาจะเรียกประชุมทันที ส่วนตัวคิดว่าขอให้ไปตั้งหลักกันให้ดี อย่างน้อยประธานสภาต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเขาจะตั้งรัฐบาลแล้ว ตั้งกันอย่างไรและตกลงกับใครและจะต้องได้หรือไม่ ไม่ใช่จะนัดสุ่มไปเรื่อยๆนัดกันไม่รู้จักจบประชาชนจะเกิดความรำคาญ วันนี้ควรให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปเตรียมการ จะ 5 วัน 10 วันหรือ 20 วัน จนมีความพร้อมก็จะดีกว่า ไม่ต้องนัดทุกสัปดาห์

เมื่อถามว่า รทสช.ต้องการให้นายเศรษฐาออกมาพูดให้ชัดใช่หรือไม่เรื่องของมาตรา 112 นายวิทยากล่าวยอมรับว่า ใช่ เรื่องนี้ต้องตอบในสภา ซึ่งสว.และส.ส.ก็รอฟังอยู่ เมื่อจะเป็นนายกฯก็ต้องมีความพร้อมในการที่จะเข้าไปอธิบายในสภา เหมือนที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยทำ นายเศรษฐาต้องขออนุญาตสภาเพื่อไปชี้แจงกับสมาชิกว่าจะเข้ามาเป็นนายกฯรวมทั้งตอบข้อซักถามของสมาชิก

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเชิญ รทสช.เข้าร่วมรัฐบาล โดยขอเวลาตัดสินใจ 50ต่อ50 นายวิทยา กล่าวว่า มีทางเดียวถ้ายัง 50ต่อ50 ก็คงเลื่อนการประชุม ถ้าให้ตนประเมิน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าสมาชิกพรรค รทสช.บางคนอาจจะไปเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย นายวิทยากล่าวว่า วันนี้กูรูทางการเมืองมีเยอะ ทำตัวเป็นหมอดูและวิเคราะห์กันได้ทุกวัน และที่ผ่านมาก็หักปากกากันมาเกือบทุกคนแล้ว แต่ก็ยังวิเคราะห์กันต่อ วันนี้ขอให้เอาเรื่องจริงดีกว่า เมื่อถามย้ำว่า กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค รทสช. ที่มีข่าวจะย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ขอให้เอาเรื่องจริงกันดีกว่า และในความเป็นจริงพรรคจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องเป็นมติพรรค ไม่มีฟรีโหวต ฉะนั้นเมื่อพรรคมีความเห็นอย่างไรก็จะหารือร่วมกันและเป็นมติออกมา และวันนี้มติของพรรคก็คือ ในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ถ้ามีการนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเราก็จะตัดสินใจในวันนั้น

เมื่อถามย้ำว่าการตัดสินใจจะร่วมรัฐบาลหรือไม่จะตัดสินใจได้วันไหน นายวิทยากล่าวว่า ก็ต้องดูในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.ว่านายเศรษฐาจะมาตอบว่าอย่างไร เพราะวันนี้เราก็ได้ยินแต่เพียงข่าว ดูว่าจะมีการยกเลิกคำพูดทั้งหมดที่ผ่านมาหรือไม่ ที่บอกว่าจะจับมือกับก้าวไกลไปตลอด ยกเลิกหรือยัง เมื่อพรรคเพื่อไทยยกเลิกแล้วนายเศรษฐายกเลิกหรือยัง และในเรื่องที่ 2 นายเศรษฐายังติดใจที่จะแก้มาตรา 112 ตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ คำรับปากใน 2-3 เรื่องนี้จะเชื่อถือได้หรือไม่ ก็จะเป็นสิ่งที่ประกอบการตัดสินใจของ รทสช.

เมื่อถามย้ำว่าเหมือนพรรค รทสช.ระแวงอยู่ใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ก็ต้องตามดู อย่าเพิ่งไปประเมินเนื่องจากวันนี้นายเศรษฐายังไม่ได้ออกมาพูดอย่างชัดเจน ซึ่งก็ต้องถามในที่ประชุมร่วมรัฐสภาและดูว่านายเศรษฐาจะชี้แจงอย่างไร ซึ่งนายเศรษฐาต้องเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น

เมื่อถามว่าหากประธานสภาฯยืนยันประชุมโหวตนายกฯในวันที่ 4 ส.ค.พรรครทสช.มี 2 แนวทาง คือโหวตสวน กับงดออกเสียง นายวิทยากล่าวว่า เวลานี้เป็นแบบนั้น และประธาน ไม่ได้นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายก่อนโหวตนายกฯ

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังต่อสายพูดคุยกันหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า หัวหน้าพรรค รทสช.ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังอยู่กันเหนียวแน่น เมื่อถามต่อว่าแสดงว่ามีความเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน นายวิทยา กล่าวว่า มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามถ้าประธานสภายืนยันนัดประชุมส.ส.และสว.เพื่อโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 4 ส.ค.นี้ พรรครทสช. จะไปร่วมประชุม และเชื่อว่าพรรคอื่นๆก็น่าจะไป

เมื่อถามอีกว่าการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาล โดยการนำของพรรคเพื่อไทย จะต้องพิจารณาด้วยในเรื่องของนโยบายที่ประกาศใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า วันนี้เอาเพียงแค่ว่าเขาจะประชุมจริงหรือไม่จริงก่อนจะดีกว่า หากประชุมและเสนอใครมาเป็นนายกฯ ก็ต้องดูกันอีกที และเขาไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าจะส่งใคร หรือเขาอาจจะขอเลื่อนไปก่อนก็ได้ เพราะรอดูสถานการณ์แล้วเหมือนไม่พร้อมที่จะตั้งรัฐบาล การที่ยังไม่คุยกับใครคือไม่พร้อมเป็นการนัดเล่นๆ ขอให้เลิกเสียที่นัดเล่นๆ ประธานสภาฯต้องยุติ พร้อมจริงๆแล้วค่อยมาไม่เช่นนั้นจะกดดันชาวบ้านประสาทเสียหมด อีก 20 วันค่อยมาก็ได้ และในการตั้งรัฐบาลไม่ใช่เล่นนัดกันทุกอาทิตย์ คิดว่าชาวบ้านจะประสาทเสียกับการนัดทุกอาทิตย์ของสภาฯ ไม่ได้ทำเรื่องอื่น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โวเลือกตั้งซ่อม ‘เพื่อไทย’ มาแน่ กระแส ‘อิ๊งค์’ พุ่ง

"สมศักดิ์" โวลั่น! เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกเขต 1 กระแสเพื่อไทยสูง เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ หลัง "อุ๊งอิ๊ง" เป็นนายกฯ ตอนนี้มันเปลี่ยนแล้ว กระแสพรรคประชาชนหดหาย

คนเยอะกว่าเก้าอี้! ‘ภูมิธรรม’ ยอมรับบางรายเสนอชื่อไปแล้วเกรงมีปัญหาจริยธรรม

"ภูมิธรรม" เผยตั้งรัฐบาลยังไม่สะเด็ดน้ำ ไทยอยู่ในกระบวนการที่กำลังดูกันอยู่ เพราะคนเยอะกว่าตำแหน่ง ยอมรับตรวจเข้มกลัวมีปัญหาในเชิงจริยธรรม ว่าที่ รมต.ทยอยส่งประวัติ

'ภูมิธรรม' ยังไม่รู้ต้องไปคุมกลาโหมหรือไม่ ยอมรับเพื่อไทยมีชื่อคนเยอะกว่าตำแหน่ง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ว่า วันนี้ให้เกิดความชัดเจนก่อน

เพื่อไทย โวกระแสอุ๊งอิ๊งแรง เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก มีสิทธิล้มพรรคส้ม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสนามเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 1 พิษณุโลก ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งนายจเด็ศ จันทรา ลงสมัครแข่งกับพรรคประชาชนว่า นายจเด็ศ เคยลงสมัครส.ส.เขต พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งปี 2566 แต่เป็นเขตอื่น

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

'สมศักดิ์' เด้งรับ 'เดชอิศม์' นั่งรมช.สธ.

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของนส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่าตนเองอยู่ในพรรคแกนหลัก ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน