26 ก.ค.2566 - จากกระแสการเมืองร้อนแรงที่ผ่านมาเกิดกระแสดีลข้ามขั้วอำนาจ โดยพรรคเพื่อไทยเชิญพรรคการเมืองขั้วอำนาจเก่ามาพูดคุยปัญหา ต่อมาผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเห็นว่า การกระทำของฝ่ายนิติบัญญัติขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญจึงมีความเห็นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จึงเกิดข้อถกเถียงกันว่า ข้อถกเถียงในการประชุมรัฐสภาว่า การเสนอโหวตชื่อ นายพิธาฯเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นญัตติหรือการกระทำ รวมทั้ง สมาชิกวุฒิสภารักษาการมีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ล่าสุด ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ“ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชนคนดัง กล่าวถึงว่า ตนจะอธิบายและให้ความรู้กฎหมายมหาชน อันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่สนใจเพราะคำถามนั้นเป็นประโยชน์สาธารณะแก่ประชาชนที่สนใจ ว่า ตนเคยฟันธงหลังเลือกตั้งว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและการโหวตเลือกนายพิธาฯเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 จะเกิดการตีรวนตีความญัตติข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 โดย สว.จะงัดการแก้ไขมาตรา 112 มาบดขยี้ ทำให้นายพิธาฯไม่ถึงฝั่งฝัน เป็นไปตามที่ตนวิเคราะห์อย่างแม่นยำ
ข้อถกเถียงในการประชุมรัฐสภาว่า การเสนอโหวตชื่อ นายพิธาฯเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นญัตติหรือการกระทำ นั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 การกระทำของสมาชิกรัฐสภาขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นอำนาจวินิจฉัยในวงงานของฝ่ายนิติบัญญัติ อำนาจตีความของสภาเป็นที่สุด ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา5วรรคหนึ่งบัญญัติว่า การกระทำใดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ การกระทำนั้นเป็นอันใช้ไม่ได้ เป็นอำนาจวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย หากพิจารณาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7(2)(8) เป็นคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยว่า การโหวตเสียงว่า การเสนอชื่อนายพิธาฯบุคคลคนเดียวกันเป็นญัตติซ้ำหรือไม่ ข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นการโหวตเสียงของสมาชิกรัฐสภาในประเด็นโหวตรายชื่อบุคคลคนเดียวกันที่ตกไปแล้วเป็นญัตติซ้ำหรือไม่ ในวันประชุมสภาวันที่ 19 ก.ค.2566 ถือว่าเป็นการกระทำ ย้ำนะครับว่า เป็นการกระทำ ไม่ได้ไปโต้แย้งว่า ข้อบังคับชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญและศาลย่อมมีอำนาจใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาได้
ส่วนข้อที่ถามว่า กระแสการดีลข้ามขั้วจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ “ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชน กล่าวว่า ตนเคยวิเคราะห์ว่า ว่าใครจะเข้าวินนายกรัฐมนตรี มีตัวแปรอะไรบ้าง 3 แนวทาง ให้ประชาชนสังเกตว่า วันนี้วันครบรอบ 74 ปี วันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยคราวนี้ บุตรสาว อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศแจ้งข่าวว่า นายทักษิณฯจะกลับประเทศในวันที่ 10 สิงหาคม 2566 การดีลข้ามขั้ว จะเกิดขึ้นได้จากการเมือง 3 ก๊ก ได้แก่ กลุ่มแรก นายห้างดูไบ(นายทักษิณฯ) อำนาจต่อรองจะมีมากที่สุดในการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หากจะกลับบ้านได้ จะต้องกลับประเทศได้ ต้องอาศัยช่วงนี้ หากพ้นจากนี้ ไม่ต่างจากนายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรี กลุ่มที่สอง หมอผีเขมร (ชื่อพม่า หน้าลาว เว้าเขมร) เห็นได้จากหัวหน้าพรรคพร้อมบุตรชายหมอผีเขมรที่มีอำนาจสูงสุด เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย กลุ่มที่สาม 3 ป. เหลือ ป.ประวิตร คนเดียวที่ยังสู้ โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์และ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินเกม จะเห็นได้จาก วงแตกในขณะเจรจาเพราะมีแกนนำทะลุวัง คนของก้าวไกลมาประท้วง กลเกมการเมืองวางเกม ให้พรรคการเมืองข้ามขั้วเดินทางไปหาพรรคเพื่อไทย เป็นเทคนิกสร้างความชอบธรรมให้กับพรรคเพื่อไทย ประหนึ่งแสดงละครให้ประชาชนเห็นว่า เชิญพรรคการเมืองขั้วอำนาจเก่ามารับฟังปัญหา เป็นเพียงเกมสับขาหลอกเพื่อฉีก MOU 8 พรรคตามธงที่กำหนดไว้ สอดรับกับเสียง สว.จะโหวตให้ โดยไม่เน้นตัวบุคคล หากไม่มีพรรคก้าวไกล อ้างแก้ไขมาตรา 112 ให้ประชาชนสังเกต นายห้างดูไบ จะบัญชาการข้ามประเทศ(ดีลฮ่องกง) การเมืองสามก๊กได้ดีลข้ามขั้วกันเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้พรรคก้าวไกล ไทยสร้างไทย ประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน
แม้การดีลข้ามขั้วสำเร็จ และเก็บอุดมการณ์ไว้ในลิ้นชัก “มีลุงไม่มีเรา” เพื่อแสวงหาอำนาจ มากกว่าอุดมการณ์ จะเห็นปรากฎการณ์ประชาชนผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย จะลงถนน แต่เกิดการลุกฮือของประชาชน ไม่ต่างจากพฤษภาคม 2535
ข้อที่ถามว่า เกมการเมือง หากก้าวไกลกับ 8 พรรคร่วม จะรอ สว.พ้นจากตำแหน่ง หาก สว.รักษาการ มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ “ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชน กล่าวว่า ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 272 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ หมายความว่า รัฐสภาชุดแรก มีเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 และครบกำหนดวันที่ 23 มีนาคม 2567 โดยมีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2562 สมาชิกกภาพของสมาชิกวุฒิสภาเริ่มนับตั้งแต่วันที่ วันที่ 11 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไปจะครบกำหนดวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ดังนั้นจะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป สมาชิกวุฒิสภา ไม่มีอำนาจมีมติเห็นชอบในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา 159 วรรคท้าย หากในระหว่างรักษาการต่อไป ย่อมไม่มีอำนาจมีมติเห็นชอบในการเลือกนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ตนมองว่า หลักการจัดตั้งรัฐบาลในการบริหารประเทศ แม้จะมีคณะรัฐมนตรีรักษาการก็ตาม ควรจะจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ไม่ควรรอให้ สว.หมดวาระ ทั้งเกิดตัวแปร คือ นายพิธาฯ ถูกศาลรัฐธรรมนูญเชือดกรณีถือครองหุ้นสื่อไอทีวี แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า การโหวตซ้ำครั้งที่สอง จะเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ ส่งผลให้เสนอรายชื่อนายพิธาฯซ้ำก็ตาม แต่นายพิธาฯขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ประกอบมาตรา 160 (6)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ