องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ พิพากษายืนคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา นริศร ทองธิราช อดีต สส.เขต3 สกลนคร พท. เสียบบัตรแทนกันในการประชุมสภาฯ พฤติการณ์ร้ายแรง สร้างความเสียหาย จึงไม่รอลงอาญาให้
26 ก.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ.10/2566 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องนายนริศร ทองธิราช อดีตสส.สกลนคร เขต3 พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย
กรณีสืบเนื่องมาจากจำเลยถูกกล่าวหาว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) สกลนคร เขต 3 พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่10 ก.ย. และวันที่11 ก.ย.2556 เวลากลางวัน ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาวาระที่ 2 ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา เมื่อประธานในที่ประชุมร่วมรัฐสภาในขณะนั้นแจ้งให้สมาชิกลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จำเลยได้นำบัตรประจำตัวและลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นบัตรจริงของจำเลยและของสมาชิกรัฐสภารายอื่นอีกหลายใบอันเกินกว่าจำนวนบัตร แสดงตนและลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเลยและ สมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งจะพึงมีและใช้ได้เพียงคนละ 1ใบ คนละ 1 เสียง มาใช้แสดงตนและลงคะแนน ของจำเลย และแสดงตนและออกเสียงแทนสมาชิกรัฐสภารายอื่น โดยเสียบบัตรแสดงตนและลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวหมุนเวียนใส่เข้าไปในเครื่องออกเสียงลงคะแนนและกดปุ่มเพื่อแสดงตนและลงมติคราวละหลายใบ ในการออกเสียงลงคะแนนในคราวเดียวกัน อันเป็นการใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเกินกว่า 1 เสียง ในการลงคะแนนแต่ละครั้ง
โดยการกระทำของจำเลยมีผลทำให้การออกเสียงลงคะแนนในการประชุมร่วมกันของ รัฐสภา เป็นการออกเสียงลงคะแนนที่ทุจริตบิดเบือนขัดต่อกฎหมายและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาโดยชัดแจ้ง
ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของปวงชนชาวไทย อันเป็นการกระทำการในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบและมิอาจถือได้ว่ามติของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาในกระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาแต่อย่างใด อันเป็นการ ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา อันเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ปวงชนชาวไทยโดยส่วนรวมและเป็นการกระทำโดย ทุจริต ขอให้ลงโทษตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542มาตรา 4, 123/1 พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172, 192, 198 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลฎีกาฯพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามฟ้อง จำคุกกระทงละ 1ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกกระทงละ 8 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 16 เดือน ทั้งนี้พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงแม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำผิดใด ๆ มาก่อน ก็ไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษ
จำเลยอุทธรณ์
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าโจทก์มีพยานยืนยันประกอบคลิปวิดีทัศน์หมาย 5 รายการโดยเป็นคลิปวิดีทัศน์ที่จำเลยรับว่าบุคคลในภาพเคลื่อนไหว คือจำเลย ซึ่งคลิปวิดีทัศน์ ศาลฎีกาฯส่งไปตรวจพิสูจน์ ที่กองพิสูจน์หลักฐาน กลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลการตรวจพิสูจน์ไม่พบร่องรอยการตัดต่อของคลิปวิดีทัศน์ ทั้งเสียงที่ปรากฏในคลิปวิดีทัศน์นั้น ตรงกับข้อความที่ บันทึกไว้ในรายงานการประชุมรัฐสภาตามเอกสาร
พยานหลักฐานตามทางไต่สวนล้วนสอดคล้อง เชื่อมโยงกัน เชื่อว่า คลิปวิดีทัศน์เป็นภาพเหตุการณ์ลงคะแนนระหว่างร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญในมาตรา 9 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556 ส่วนคลิปวิดีทัศน์อื่นเป็นเหตุการณ์ ลงมติอภิปรายที่มีการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ภาพของจำเลยที่นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงคะแนนซึ่งเป็นบัตรจริงของจำเลยและสมาชิกรายอื่นเสียบเข้าไปในเครื่องลงคะแนนหลายใบเพื่อลงคะแนนแทนสมาชิกอื่น ดังนั้นการที่จำเลยนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงคะแนนซึ่งเป็นบัตรจริงของจำเลยและสมาชิกรายอื่น เสียบเข้าไปในเครื่องลงคะแนนหลายใบเพื่อลงคะแนนแทนสมาชิกอื่น
ในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาใน มาตรา 9และมาตรา 10 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. และวันที่ 11 ก.ย. 2556 อันเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐาน ของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 122 ซึ่งใช้บังคับขณะเกิดเหตุทั้งเป็นการขัดต่อหลักความซื่อสัตย์สุจริตที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิญาณตนไว้ตามมาตรา 123 และขัดต่อการออกเสียงลงคะแนนตามมาตรา 126 วรรคสาม
การกระทำของจำเลยจึงมีเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ตามบทนิยามของพรป.ประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542มาตรา 4 เป็นการปฏิบัติอย่างใดใน ตำแหน่งหรือหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐโดย มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ปวงชนชาวไทย ฝ่ายนิติบัญญัติ สมาชิกรัฐสภาอื่น ประชาชน และผู้มีชื่ออื่น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นความผิดตามฟ้องอุทธรณ์ จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุกนายนริศร รวม 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญามาแล้ว กรณีเสียบบัตรแทนกัน ตามพรป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' บอก 'ชาญ' ควรขอโทษประชาชนและลาออก!
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ เขียนบทความในรูปถาม-ตอบ
เทพไทถามหา 'จิตสำนึก' เพื่อไทยปมดัน 'ลุงชาญ' ชิง อบจ.ปทุมธานี
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
'อนาคตไกล' ชี้ตัวแปรทำ 'ชาญ' ชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี
“อนาคตไกล” ชี้ตัวแปร ทำให้ชาญ ชนะการเลือกตั้ง นายกอบจ.ปทุมธานี แม้ ปปช.ชี้มูลและศาลประทับรับฟ้อง ก็ไม่ขาดคุณสมบัติสมัครนายกอบจ.
เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค
‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก
นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่
นายกฯ ลุยศรีสะเกษ ไหว้พระ ปลูกต้นไม้ ถ่ายรูปกับเด็กนักเรียน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยมี นายอมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย และจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ