'อัครเดช' ประกาศขอเป็นหัวหอกหาเสียงหนุนพิธาเป็นนายกฯ ประชุมสมัยหน้าหากถอยเรื่อง 112

'อัครเดช' ประกาศอาสาขอเสียง ส.ส.หนุน พิธาเป็นนายกฯ หากก้าวไกลถอยมาตรา 112 แต่ต้องสมัยประชุมหน้า

20 ก.ค.2566 - นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ภายหลังที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที มีมติเสียงข้างมาก ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในสมัยการประชุมนี้ ขอแนะนำให้พรรคก้าวไกลยอมทบทวน การดำเนินนโยบายแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้เป็นสถานการณ์ใหม่ และสามารถเสนอชื่อนายพิธากลับเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณาเป็นนายกฯ ใหม่ได้ในสมัยการประชุมถัดไป โดยจะอาสาไปทำความเข้าใจ ส.ส.ฝั่งที่ไม่สนับสนุนนายพิธา และพร้อมสนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ จึงขอให้พรรคก้าวไกลทบทวนในเรื่องนี้

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า หากพรรคก้าวไกกลยอมถอนมาตรา 112 ยังมั่นใจว่า เหตุการณ์การประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.จะไม่เกิดขึ้น และสามารถโหวตนายพิธาได้ เนื่องจากพรรคก้าวไกลไม่ยอมถอยมาตรา 112 ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้นายพิธา ไม่ได้รับการลงมติให้เป็นนายกฯ และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลยังมีโอกาสเป็นรัฐบาลด้วยการทบทวนการแก้ไขมาตรา 112 และคิดถึงประชาชนจำนวนมาก ที่สนับสนุนให้เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ต้องการให้แตะมาตรา 112 ที่มีผลกระทบต่อสถาบัน

ส่วนแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการเสนอนายกรัฐมนตรีในการประชุมรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค.นี้ จะเป็นอย่างไรนั้น นายอัครเดช กล่าวว่า ตนเองเป็นเพียงโฆษกพรรคไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นจะต้องรอพรรค พิจารณา เพื่อมีข้อสรุปเป็นมติพรรค

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท