13 ก.ค.2566 - แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์อินสตาแกรมระบุว่า ที่สุดก็ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมต้องแก้มาตรา 112 แต่ยิ่งชัดเจนว่า ยืนยันจะแก้ไขแน่นอน ที่สำคัญพรรคต่างๆ ที่ทำข้อตกลงร่วมกันก็ยอมให้พรรคก้าวไกลเสนอแก้มาตรา 112 ได้ การเมืองไทยเป็นเช่นนี้ หมอจึงได้คำตอบว่าปิดสวิชตามหลักการเดิม และปิดตลอดไปจนกว่าจะหมดวาระ
1.หลักการของประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งให้ได้พรรคการเมืองมาบริหารบ้านเมืองให้สังคมมีความยุติธรรม คำนึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม ความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การดำเนินการตามนโยบายของพรรคที่ได้เสียงสนับสนุนหรือเสียงข้างมากเป็นหลักแม้นโยบายจะทำลายชาติ
2.การเลือกตั้งในครั้งนี้มีการกระทำที่ขัดหลักการประชาธิปไตยในประเด็นสำคัญคือการห้ามผู้สมัครใช้อำนาจผ่านสื่อที่ตัวเองเป็นเจ้าของหรือมีหุ้นเอาเปรียบพรรคอื่นๆ เพียงแต่กฎหมายไทยไม่ได้แก้ไขให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การชนะในครั้งนี้คือการใช้สื่อโซเชี่ยล ปลุกระดม ให้ข้อมูลเท็จบ้างจริงบ้างและให้ใช้สื่อละเมิดผู้อื่นที่เรียกว่าด้อม บุลลี่ ตามด่า ร่วมทั้งการสร้างอวตารเข้าทำอันตรายในทุกช่องทางสื่อสารส่วนตัวด้วยเพราะตัวบทกฎหมายตามไม่ทัน จนกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งรุนแรงและแสดงถึงการไม่ยอมรับความเห็นต่าง
3.รัฐธรรมนูญเป็นบทบัญญัติที่มนุษย์ร่วมกันตกลงเขียนขึ้นไม่ใช่หลักธรรมะ จึงอาจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแล้วแต่มนุษย์จะตกลง และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้มาตามครรลองประชาธิปไตยคือผ่านการลงประชามติ การทำหน้าที่ของสวจึงเป็นไปตามบทบาทที่กำหนด
4.ประเด็นสำคัญที่สวติดใจคือการขอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งจากการหาเสียงมีแนวทางที่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มที่สนับสนุนสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งล้วนแสดงกิริยาให้ร้ายต่อสถาบัน มีการสนับสนุนให้หมิ่นประมาทตั้งแต่สถาบันพระมหาษัตริย์ไปจนถึงประชาชนคนธรรมดา แปลกที่ว่าที่นายก ไม่ตอบ ไม่อธิบาย แต่ตอบว่าต้องรักษาคำพูด ทั้งๆ ชี้แจงว่าเขาเป็นผู้นำที่รู้จักรุกและถอย แต่เรื่องนี้ไม่ตอบไม่อธิบายรายละเอียดใด ๆ และไม่ยอมถอย
5.สิ่งสำคัญที่สุดคือหน้าที่ของทุกคนรวมทั้งสว คือหน้าที่รักษาชาติ หากอ้างประชาธิปไตย อ้างเสียงสนับสนุน 14 ล้านเสียง ว่าต้องรักษาประชาธิปไตยแต่ชาติจะล่มสลายคงไม่สามารถปล่อยได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นับถอยหลัง 2567 5 ฉากร้อนการเมืองไทย
นับถอยหลังต่อจากนี้ ก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์ ก็เข้าสู่ช่วง “นับถอยหลังอำลา 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568” กันแล้ว
ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี
"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%
'พิธา' แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ มากกว่าปรับขึ้น VAT 15% สงสัยอยู่ดีๆก็โพล่งมา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ว่า ภาษีในประเทศ มีทั้งภาษีทางตรง
'พิธา' ลุยช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.อุบลฯ หวังเป็นตาอยู่ ศึก 2 ขั้วใหญ่ชนกันเอง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก