นายกฯ กำชับเจ้าหน้าที่-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ดูแลความเรียบร้อยการจัดกิจกรรมชุมนุมของมวลชนรับวันโหวตนายกฯ
13 ก.ค.2566 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ซึ่งข้อมูลการข่าวและการประเมินสถานการณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมีกลุ่มมวลชนบางส่วนมาแสดงออกหรือจัดกิจกรรมชุมนุมโดยรอบรัฐสภานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยทั้งพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมและที่สัญจรไปมา ได้กำชับเจ้าหน้าที่และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง ตำรวจ ทหาร และกรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมรับมือ ดูแลสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยและปลอดภัยกับทุกฝ่าย ยึดหลักการปฏิบัติตามกฎหมายและหลักสากลในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ให้กระทบแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และผู้ที่เดินทางทั่วไป รวมทั้งมอบหมายกองทัพเรือและกรมเจ้าท่าเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยทางน้ำให้กับประชาชนด้วย
น.ส.รัชดากล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เตรียมแผนการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริหารจัดการพื้นที่รัฐสภา ร่วมมือกับ กทม. จัดสถานที่รองรับการชุมนุมบริเวณพื้นถนน 1 ช่องจราจร และทางเท้าภายในศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร เกียกกาย (ฝั่งสนามเด็กเล่น) พื้นที่ 710 ตร.ม. รองรับผู้ชุมนุมได้ประมาณ 100 - 200 คน ซึ่งเป็นไปตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง จัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ (ฉบับที่ 2) โดยที่เป็นการสมควรกำหนดสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจน เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชนหรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิและเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ทั้งนี้ หากเกินกว่าปริมาณที่จะรับได้ บช.น.จะปรับพื้นที่ตามจำนวนผู้ชุมนุมต่อไป
ขณะเดียวกันผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ 315/2566 เรื่อง ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกินห้าสิบเมตร รอบรัฐสภา ตามมาตรา 7 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 โดยประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบรัฐสภา รายละเอียดกำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุมและพื้นที่ชุมนุมรอบรัฐสภา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 2566 เวลา 06.00 น. ถึงวันที่ 15 ก.ค. 2566 เวลา 24.00 น. ซึ่งอาจมีการปิด ปรับเปลี่ยนเส้นทางการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกในการดูแลการชุมนุม ฯ รวมทั้งมีการจัดเตรียมเส้นทางและสภาพการจราจร กำลังพล อุปกรณ์ต่าง ๆ ยานพาหนะ กล้องวงจรปิด ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ครอบคลุมพื้นที่รัฐสภาและพื้นที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ กทม. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“นายกฯ ตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน และอยากเห็นกระบวนการทางรัฐสภาบรรลุสำเร็จเช่นเดียวกัน จึงขอให้การจัดกิจกรรมทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในวันนี้อยู่ภายใต้กรอบกฏหมาย รวมทั้งการแสดงออกจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้งหรือความรุนแรงใดๆ โดยได้กำชับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ เตรียมแผนรองรับการปฏิบัติต่าง ๆ ทั้งการแก้ไขปัญหาสภาพการจราจร แผนเผชิญเหตุ และมอบหมายผู้รับผิดชอบพื้นที่ต่าง ๆ ครอบคลุมพื้นที่ กทม. เพื่อให้การดูแลสถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยด้วยดี”น.ส.รัชดากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้
รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ
อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย
ข่าวดี! สปสช.เห็นชอบเพิ่มสัดส่วนล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50%
'คารม' เผย บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอพัฒนาระบบมาตรฐานและคุณภาพของนโยบายล้างไต เพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50% ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีความยั่งยืน
ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย
'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท
อึ้ง! ร้องเรียนโจรชวนลงทุนออนไลน์วันละกว่า 3.2 พันสาย
รองโฆษกรัฐบาล เตือนภัย 'มิจฉาชีพชวนลงทุนออนไลน์' พบผู้เสียหายโทรแจ้งอาชญากรรม ผ่านศูนย์ AOC เฉลี่ยวันละ 3,206 สาย ดำเนินการระงับบัญชีวันละ 1,130 บัญชีต่อวัน