ปชป. ยึดมติพรรคโหวตนายกฯ จวกก้าวไกลใช้เสียงข้างมากกดดัน ผิดหลักการระบบรัฐสภา

ปชป.เคาะโหวตนายกฯ 12 ก.ค. “ราเมศ”ยันไม่มีฟรีโหวต ยันต้องเป็นไปตามมติพรรค ชี้หากประชาธิปัตย์โหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมาก ปชช.ที่เลือกมาผิดหวังแน่

11 ก.ค.2566 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หลังจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ไม่สามารถเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดใหม่ได้นั้น ว่า เนื่องจากระยะเวลา 60 ในการเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห.จะหมดลงในวันที่ 13 ก.ค. ดังนั้นในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 15.00 น.ที่ห้องประชุมชั้น3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช จะมีการประชุมกก.บห.ชุดรักษาการ เพื่อพิจารณาการงดเว้นข้อบังคับพรรคข้อที่ 37วรรค 2 ที่ต้องเลือกหัวหน้าพรรคและกก.บห.ชุดใหม่ ภายใน 60 วันออกไปก่อน และจะได้กำหนดวันเวลา สถานที่จัดประชุมใหญ่วิสามัญฯอีกครั้ง และจะต้องมีการกำหนดองค์ประชุมใหม่ทั้งหมดด้วย

นายราเมศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะมีการประชุมส.ส.พรรคทั้ง 25 คนในวันที่ 12 ก.ค.เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา เพื่อกำหนดท่าทีในการเลือกนายกรัฐมนตรี และการเลือกนายกฯครั้งนี้ต้องหยิบยกเรื่องใดมาพิจารณาบ้าง โดยหลักเบื้องต้นเรามีอุดมการณ์ของพรรคฯชัดเจน ซึ่งเป็นหลักตั้งต้นในการพิจารณาคุณสมบัติ และพิจารณานโยบายของพรรคที่เสนอตัวเป็นนายกฯ เกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งส.ส.ของพรรคฯจะต้องนำมาประกอบการพิจารณากับเหตุผลอื่นๆด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่มีไปดีลกับพรรคการเมืองอื่น และเมื่อเป็นสิทธิ์ของส.ส.ในฐานะที่พรรคฯเป็นสถาบันทางการเมือง ความเป็นเอกภาพ ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในสภาฯ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และเมื่อที่ประชุมส.ส.มีมติอย่างไรในการเลือกนายกฯ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบขีรีขันธ์ ในฐานะประธานส.ส.จะนำมติดังกล่าวมาพูดคุยในที่ประชุม กก.บห.ชุดรักษา ที่จะมีขึ้นในเวลา 15.00 น.ด้วย เพื่อให้มีมติพรรคออกมาอีกครั้ง

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่กระแสสังคมอยากให้ประชาธิปัตย์ฟรีโหวต นายเรเมศ กล่าวว่า ตนพายายามบอกเสมอว่า ขอให้เป็นมติของพรรคที่จะพิจารณากัน แต่หลักการของพรรคจริงๆในเรื่องที่สำคัญแบบนี้ ต้องเป็นไปตามมติพรรคฯ และทุกคนก็ต้องดำเนินการตาม และยืนยันว่าไม่ฟรีโหวตเพราะเราเป็นสถาบันทางการเมือง การเลือกนายกฯก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และความเป็นเอกภาพจากนี้ไปต้องมีความชัดเจนในทุกย่างก้าว

ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะโหวตตามเสียงข้างมาก อย่างที่มีการกดดันกัน นายราเมศ กล่าวว่า ตนคิดว่าในระบบรัฐสภาที่ใช้เสียงข้างมาก ในระบบประชาธิปไตย จริงๆแล้วพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากมา แล้วใช้วิธีกดดันอะไรก็แล้วแต่ โดยที่บอกว่าตนได้เสียงข้างมากมาแล้วให้พรรคการเมืองอื่นๆทุกพรรคสนับสนุนตนเป็นนายกฯ ทั้งที่นโยบายของแต่ละพรรคแตกต่างกัน ดังนั้นการที่จะให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมือหนึ่งที่มีแนวคิดทางการเมืองที่ไม่ตรงกันในหลายเรื่อง พรรคการเมืองเสียงข้างน้อยก็ต้องมีสิทธิ์ พิจารณาว่า จะเลือกใครเป็นนายกฯ เพราะไม่ใช่แค่ยกมือให้เป็นนายกฯแล้วจบไป แต่เมื่อยกมือให้ใครเป็นนายกฯแล้วนั่นคือความรับผิดชอบของผู้ที่ไปยกมือให้เป็นนายกฯ ต่อไปการทำงานในระบบรัฐสภาก็จะผิดหลักการทั้งหมด เพราะระบบรัฐสภาต้องมีฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

“ผมเชื่อว่าที่พรรคก้าวไกลพยายามให้กระบวนต่างๆ กดดันพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งที่เขามีสิทธิ์ตัดสินใจยกมือให้ใครเป็นนายกฯ เพราะการยกมือให้ใครเป็นนายกฯ อาจจะผูกโยงกรณีของการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ทุกอย่างเชื่อมโยงและสอดคล้องกันทั้งหมด ไม่ใช่ว่ายกมือให้เสียงข้างมากฝ่ายเดียว ซึ่งไม่ใช่ระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย การบอกว่าเคารพเสียงของประชาชน แล้วเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคเสียงข้างน้อยมาเขาก็คาดหวังเหมือนกันว่า ที่เลือกพรรคเสียงข้างน้อยเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงข้างมากมา สมมุติประชาชนเลือกประชาธิปัตย์มา25 เสียง เขาก็มีหลักคิดของเขาว่าที่เลือกประชาธิปัตย์เพราะต้องการให้นำนโยบายของประชาธิปัตย์มาใช้ แต่คนที่ได้รับเลือกตั้งได้สิทธิ์จากประชาชนกลับไปเลือกพรรคที่ได้เสียงข้างมาก ผมว่านั่นคือความผิดหวังของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน”นายราเมศ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เด็กชวน' สวนกลับ 'ทักษิณ' อยากสารพัด แต่ผวาอยู่ 2 เรื่อง

'ราเมศ' ยัน 'ชวน' ต่อสู้สิ่งไม่ถูกต้อง ยึดหลักสุจริตมาโดยตลอด ปัดแค้นส่วนตัวกับ 'ทักษิณ' สวนกลับคงไม่อยากหนีไปต่างประเทศซ้ำอีก

'จุรินทร์' ยึดหลัก 4 ข้อ โหวตแก้รธน. เชื่อ สว. ลงมติมีเหตุผลอยู่แล้ว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภา

'บัญญัติ' ร่ายกลอนสะท้อนการเมือง อวยพรปีใหม่คนไทย

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส. แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แต่งกลอนร้อยกรองสะท้อนภาพการเมืองไทย เพื่อส่งความสุข (ส.ค.ส.) ต้อนรับปีใหม่ 2568 ให้แก่พี่น้องประชาชน มีใจความว่า