11 ก.ค.2566 -ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่วิสามัญที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่องค์ประชุมไม่ครบ ทำให้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเลื่อนออกไป ว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญดังกล่าวได้มีการหารือถึงการขอยกเว้นข้อบังคับพรรคบางข้อ ขณะเดียวกัน ได้มีผู้เสนอขอให้มีการเลื่อนการประชุมออกไป ซึ่งในที่ประชุมได้มีการถกเถียงเรื่องเหล่านี้ ใช้เวลามากพอสมควร แต่เมื่อเข้าสู่วาระพิจารณาวาระหลัก ปรากฏว่าองค์ประชุมขาดไปประมาณ 30 เสียง โดยองค์ประชุมบางส่วนจะต้องเดินทางกลับต่างจังหวัด เพราะมีตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว ทั้งที่โดยปกติหากไม่มีการหารือ 2 ประเด็นข้างต้น การประชุมใหญ่สามารถเสร็จเร็วขึ้น ดังนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีเรื่องของการเมืองภายในเข้ามาทำให้เกิดเหตุการณ์ประชุมล่ม เพราะในพรรคประชาธิปัตย์มีการแข่งขันกันอยู่แล้ว และน้อยครั้งที่จะไม่สามารถตกลงกันได้จนทำให้ต้องเลื่อนการประชุม ส่วนใหญ่สามารถเลือกตั้งกันไปได้ และหลังจากเลือกตั้งเสร็จแล้วทั้งฝ่ายที่ได้รับเลือกตั้งและไม่ได้รับเลือกตั้งจะมาร่วมกันทำงาน ขณะเดียวกัน มีบางครั้งที่มีคนบางส่วนแยกตัวออกไป ส่วนเรื่องข้อบังคับพรรคยังเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ในวันใด นายนริศ กล่าวว่า ในวันที่ 12 ก.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ เพื่อกำหนดว่าจะเลือกหัวหน้าพรรคกันในวันใด เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรอให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จก่อน นายนริศ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ต้องเลือกหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า ยังคงใช้สัดส่วนน้ำหนักเสียงขององค์ประชุม 70:30 หรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า ใช่ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนกติกากันที่หน้าห้องประชุมได้ มันไม่ถูกต้อง กติกาต้องวางไว้ก่อน จึงมีการลงมติว่าไม่ควรมีการเปลี่ยนกติกา ข้อบังคับจะเปลี่ยนได้ต่อเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ประชุมเสร็จ ตนเห็นด้วยว่าหลายข้อ โดยเฉพาะข้อที่ถูกยกเว้นบ่อยๆ ต้องได้รับการแก้ไข ดังนั้น เมื่อมีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ควรยกเลิก
ถามว่า ส่วนตัวคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล นายนริศ กล่าวว่า ดูฝ่ายคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อถามว่า ในการประชุมวันที่ 12 ก.ค.จะมีการกำหนดวันประชุมใหม่เลยใช่หรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า ใช่ เพราะเป็นข้อกำหนด
ซักว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยตกลงกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โดยใช้สูตรฝั่งหนึ่งเป็นหัวหน้า ฝั่งหนึ่งเป็นเลขาธิการพรรค นายนริศ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจ ตนเชื่อว่า เขาคงคุยกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนจะตกลงกันได้หรือไม่นั้นตนไม่แน่ใจ คิดว่าทั้งพรรคต้องมาประชุมร่วมกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.ปชป. หวดรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน 2568 ฟื้นเศรษฐกิจ
นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ
ประชาธิปัตย์ แต่งตั้ง 'ธนิตพล ไชยนันทน์' เป็นผู้อำนวยการพรรค
น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มติครม.มีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมืองของกระ
เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง
เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.
จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ
‘นิพิฏฐ์’ ห่วง ปชป. โดนข้อหาทักษิณครอบงำพรรค มืดแปดด้านไร้นักกฎหมายสู้คดี
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “การเมือง-การศาสนา” มีเนื้อหาดังนี้