'ธนกร' เปิดเหตุ 'บิ๊กตู่' งดจ้อการเมือง แนะ 'พิธา' โหวตครั้งเดียว อย่าดันทุรัง

‘ธนกร’ แจง ‘บิ๊กตู่’ งดพูดการเมืองช่วงนี้ ลดอุณหภูมิความขัดแย้ง หวังเปิดทางจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ชี้ ‘พิธา’ ควรใช้เวลาสภาคุ้มค่าโหวตครั้งเดียวพอ อย่าดันทุรังรอบ 2-3 ไม่ใช่เลือกหัวหน้าห้อง

7 ก.ค. 2566 – นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในช่วงนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่ตอบประเด็นคำถามทางการเมือง เนื่องจากต้องการเปิดให้เป็นช่วงที่พรรคการเมืองเตรียมจัดตั้งรัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้ประธานและรองประธานสภาแล้ว และเข้าสู่ขั้นตอนรอนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมือง ทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการให้ดีที่สุด และเตรียมส่งมอบตำแหน่งให้รัฐบาลชุดใหม่

ส่วนที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาคนที่ 2 ระบุจะให้เวลาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 3 ครั้งนั้น นายธนกร กล่าวว่า ถ้าตามที่นายพิเชษฐ์บอกว่าวันที่ 13 ก.ค.นี้จะเป็นการนัดเลือกนายกฯ นัดแรก ก็ถือว่ามีเวลามากถึง 7 วัน และที่ผ่านมากว่า 1 เดือน คิดว่าเพียงพอสำหรับการเจรจาขอคะแนนสนับสนุนจากทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ส่วนตัวจึงมองว่าการโหวตครั้งเดียวก็พอที่จะเห็นทิศทางการเมืองแล้วว่าจะเป็นอย่างไร หากคะแนนของทั้ง 2 สภาโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ถึง 376 เสียง ครั้งที่ 2 ควรจะให้ที่เป็นลำดับที่ 2 เสนอชื่อต่อไป ไม่ใช่เสนอชื่อคนเดิม 2-3 ครั้ง มันไม่ใช่เลือกหัวหน้าชั้นเรียน เพราะขนาดเลือกหัวหน้าชั้นเรียนยังเลือกแค่ครั้งยกเว้นคะแนนเท่ากัน หากจะเสนอชื่อนายพิธาอีกเป็นครั้งที่ 2 ก็ต้องมีองค์ประกอบหรือมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มให้สภาพิจารณา หากไม่มีอะไรใหม่ ตนคิดว่าให้โอกาสครั้งเดียวก็พอ เพื่อไม่ให้เสียเวลาสภา

“ถ้าครั้งแรกเสียงไม่ถึง ก็ไม่ควรดันทุรังดึงดันเสนอซ้ำเป็นครั้งที่ 2-3 อีก เพราะเวลาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะยิ่งถูกดึงเวลาให้ยาวออกไป ก็จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ และกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับล่าช้าออกไปด้วย จึงเรียกร้องให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลเร่งใช้เวลาที่มีอยู่ 7 วันก่อนที่จะโหวตนายกฯครั้งนี้ ขอการสนับสนุนให้มากที่สุดเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้อย่างรวดเร็ว ก็ขอเป็นกำลังใจให้ แต่ประเด็นแก้ไขยกเลิกมาตรา112 ก็อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ส.ว.ต้องพิจารณาทบทวน” นายธนกร ระบุ

เมื่อถามว่า แน่ชัดแล้วหรือไม่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคแข่งนายพิธา นายธนกร ยืนยันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มี 36 เสียง แม้ตามรัฐธรรมนูญทุกพรรคที่มีเสียงส.ส.25 เสียงสามารถเสนอชื่อได้ก็ตาม แต่ขอให้เป็นไปตามลำดับขึ้นตอนของสภาและรอดูมติพรรคที่จะหารือทิศทางกันอีกครั้งคาดว่าเย็นวันอังคารที่ 11 ก.ค.นี้ ซึ่งในเบื้องต้น นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่ส่งนายพีระพันธุ์หัวหน้าพรรคลงแข่ง

“ผมอยากฝากถึงบางพรรคการเมือง ขอให้เลิกใช้วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายเผด็จการได้แล้ว เพราะเราผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมา ไม่ควรใช้วาทกรรมโจมตีพรรคอื่น ไหนบอกจะทำการเมืองแบบใหม่ แต่ก็ยังสาละวนกับวงจรเดิมๆ อยู่” นายธนกร ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน

‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า