1 ก.ค.2566 - นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาเตรียมประชุมเพื่อเลือกประธานสภา ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ว่า ไทม์ไลน์ทางการเมืองในการเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภา ก่อนจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ในช่วงกลางเดือนนี้ ถือว่าเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ส่วนตัวและพรรครวมไทยสร้างชาติมีความชัดเจนแล้วว่า การเลือกตัวประธานสภา รวมถึงนายกรัฐมนตรีนั้น เราจะไม่สนับสนุน ไม่เลือก บุคคลที่มีวาระมุ่งแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างแน่นอน เนื่องจากกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นความมั่นคงของรัฐ เป็นกฎหมายสำคัญเพื่อปกป้องประมุขของประเทศ จึงจะไม่โหวตให้ทั้งบุคคลและพรรคการเมืองใดที่มีวาระการแก้ไขกฎหมายนี้
เมื่อถามว่า พรรคที่ได้อันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล ต้องการได้เก้าอี้ประธานสภา มีความมุ่งหมายเพื่อเสนอวาระแก้ไขมาตรา 112 ชัดเจนนั้น นายธนกร ระบุว่าพรรคก้าวไกลมีความชัดเจนตั้งแต่แรก เมื่อตอนหาเสียงกับประชาชนไว้อยู่แล้วว่าจะเข้าสภาเพื่อแก้กฎหมายดังกล่าว และทุกการปราศรัย รวมถึง ทุกเวทีดีเบตของทั้งหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรค ก็ชูธงในเรื่องนี้ ทุกคนต่างทราบดี จึงคิดว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่พรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุน ไม่ยอมถอยหรือยกเก้าอี้ประธานสภา ให้กับเพื่อไทย
ถามว่าประธานสภาก็ไม่ได้มีอำนาจมากมาย แต่เหตุใดพรรคก้าวไกลจึงไม่ยอมถอย นายธนกร กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยยังคุยกันไม่ลงตัว เรื่องประธานสภานั้น ส่วนตัวมองว่า พรรคก้าวไกลมีเป้าหมายชัดเจนเรื่องการแก้กฎหมายนี้ รวมไปถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบสภา ตามที่แคนดิเดตประธานสภา คือนายปดิพัทธ์ สันติภาดาได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ไว้แล้วว่าต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบสภา เพราะถ้าหากประธานสภาเป็นของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลอาจจะไม่แน่ใจว่าจะมีเสนอวาระแก้ไขกฎหมายนี้หรือไม่
“ในสมัยประชุมสภาครั้งที่แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น มองว่าเป็นกฎหมายสำคัญมีไว้เพื่อคุ้มครองประมุขของประเทศ หากมีการเสนอแก้ไข ลดทอนให้กฎหมายเบาลง อาจเป็นความสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของรัฐ จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคก้าวไกล ว่า อย่าอ้างเสียงประชาชนที่เลือกมา 14 ล้าน เพราะ ไม่ใช่ว่า 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลมาจะเห็นด้วยกับการแก้กฎหมายทั้งหมด ขออย่าใช้สภาเปลี่ยนแปลงอะไรตามอำเภอใจของคนแค่บางกลุ่ม เพราะคนไทยที่เหลืออีกกว่า 40-50 ล้าน คนที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งประเทศรวมถึงตัวผมด้วยนั้น จุดยืนชัดเจน ไม่ยอมให้แก้กฎหมายนี้อย่างแน่นอน” นายธนกรย้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พรรคส้ม’ไร้เพื่อน คุยลั่นมาตรฐานสูง
เห็นโฉมหน้ารัฐบาลต่อไปรำไร "อนุทิน" ย้ำห้ามแตะนิรโทษกรรม ม.112
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน
ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้
ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น

