'สุดารัตน์' ร่วมวงถกนักธุรกิจจีนโลก เร่งตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว

‘สุดารัตน์’ ร่วมประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 แนะเร่งตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นอำนวยความสะดวกนักลงทุน คาดเงินสะพัดแสนล้านบาท

26 มิ.ย. 2566 – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค ร่วมการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 โดยมีนักลงทุนชาวจีนทั้งจากแผ่นดินใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเลเข้าร่วมประชุมกว่า 4,000 คน

ทั้งนี้ ตัวแทนพรรคไทยสร้างไทยได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักลงทุนชาวจีนถึงอุปสรรคการขอวีซ่าเข้าประเทศไทยที่ทำได้ยากขึ้น และต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมมากขึ้น เช่น ต้องสแกนสำเนาหนังสือเดินทางทุกหน้า ต้องรายงานการเดินทางไปต่างประเทศย้อนหลัง 10 ปี ภาพถ่ายตนเองขณะถือเล่มหนังสือเดินทางที่มีระยะไม่ใกล้และไม่ไกลเกินไป ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเกิน 4 ครั้งต่อปีอาจถูกปฏิเสธวีซ่า หรือหากมีข้อผิดพลาดในการแนบเอกสารก็จะถูกปฏิเสธวีซ่าไปเลย ซึ่งไม่อำนวยต่อการเดินทางเข้ามาลงทุน และท่องเที่ยว ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะประเทศไทยเป็นเป้าหมายแรกของคนจีนที่ต้องการมาท่องเที่ยวและลงทุน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องน่ายินดีและเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะแสดงศักยภาพและความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนจีนที่มีกำลังการใช้จ่ายและการลงทุนสูงให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เห็นได้จากการจัดงานนี้เพียง 4-5 วัน ก็จะสร้างเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และประธานกรรมการจัดงาน การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 (The 16th World Chinese Entrepreneur Convention) มีเป้าหมายที่จะดึงนักลงทุนเข้ามาในไทยมากขึ้นและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจราวหนึ่งแสนล้านบาท

“ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องหาทางอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนเหล่านี้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น พร้อมกับเร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อนักลงทุน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยผ่านเงินลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากรัฐอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาลงทุนในประเทศได้ง่ายขึ้น และเข้ามาจัดการดูแลให้นักลงทุนเหล่านี้เข้าสู่ระบบอย่างจริงจัง ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาการเก็บส่วย และปัญหาทุนสีเทาลงได้ ในทางกลับกันก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก.

เพิ่มเพื่อน