22 มิ.ย.2566 - เวลา 09.20 น.ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกล่าวว่า ตนเพิ่งได้กลับเข้าสภาฯอีกครั้งหนึ่งในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ รู้สึกตื่นเต้นกับอาคารสถานที่ที่มีชื่อแปลกประหลาด ซึ่งตนคิดอยากเปลี่ยนชื่อสัปปายะสภาที่แปลยากให้เป็นสภาของประชาชน เพราะเราเป็นศาสนาพุทธ ไม่ใช่ศาสนาพราหมณ์ ชื่อห้องประชุมสุริยันจันทรา เป็นเรื่องเกี่ยวกับรามเกียรติ์ซึ่งไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย เรื่องนี้ตนเอาจริง
นายอดิศร ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะยกตำแหน่งประธานสภาฯให้กับพรรคก้าวไกลว่า การประชุมพรรคเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการประชุมภายในของพรรค และ 22 ปีที่ผ่านมาเรามีการประชุมกันทุกครั้ง มีประเด็นแลกเปลี่ยนในลักษณะเช่นนี้ตลอดมา เมื่อมีปัญหาอะไรก็มาถกเถียงกันในที่ประชุม เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคประชาธิปไตย ซึ่งประเด็นของประธานสภาฯนั้นข้อมูลอาจจะไม่ตรงกัน ส.ส.ทั้ง 141 คน ของพรรค ตอนแรกบอกว่ารัฐมนตรี 14 +1 ก้าวไกลได้นายกฯ เพื่อไทย 14 + 1 ได้ประธานสภา ถ้าเป็นไปตามนี้พวกเราก็มีความสุข แต่อยู่ๆก็ไปยกตำแหน่งประธานสภาฯให้กับพรรคอันดับ 1 โดยไม่สอบถามส.ส หรือที่ประชุมพรรค จึงมีปัญหาทำให้ถกเถียงกันอาจจะรุนแรงไปหน่อย แต่ความรุนแรงเป็นภาษาของประชาธิปไตย ภาษาดอกไม้ของเพื่อไทย ดังนั้นหากพลาดพิงไปถึงพรรคอื่นก็กราบขอโทษด้วย
เมื่อถามว่าแนวโน้มการแสดงความคิดเห็นแบบนี้จะลงเอยอย่างไร นายอดิศรกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งคนที่มีหน้าที่ ไปเจรจากับพรรคก้าวไกลและพรรคร่วม ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึก ส.ส.เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ของพรรคเพื่อไทยว่า มีความคิดเห็นลักษณะเช่นนี้ แล้วไปพูดกับพรรคก้าวไกลว่า เขาจะมีท่าทีอย่างไร
"ผมไม่อยากให้ประธานสภาฯมาขัดขวางการเจริญเติบโตของรัฐบาลผสม ที่ใกล้เข้ามาแล้ว ขอภาวนาให้เจรจาจบลงเร็วๆ และในพรรคมีความเห็นแบบนี้เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคะแนนเราอาจจะห่างกันไม่มาก”นายอดิศร กล่าว
ซักว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้จะมีการโหวตแข่งกันหรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า ถ้ามีปัญหาถกเถียงกันก็ต้องใช้ที่ประชุมตัดสิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสภาฯ เพราะที่นี่ไม่ใช่สภาฯของพรรคใดพรรคหนึ่ง เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่งสักพรรคเดียว
อย่างไรก็ตามอยากให้เจรจากันให้จบโดยเร็ว ถ้าตกลงกันอย่างไร ก็ให้มีการเสนอในที่ประชุมพรรคฯและตนจะร่วมแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง ส่วนที่ถ้ามติพรรคฯ ออกมาว่ามอบตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกลก็ต้องมีเหตุผลประกอบ
ถามต่อว่า สิ่งที่กังวลคือจะได้ส.ส.พรรษาน้อยมาเป็นประธานสภาฯใช่หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ภาษิตอีสานบ้านตน บอกว่าถ้าเอาพระบวชใหม่ มาเป็นเจ้าอาวาสก็ไม่เหมาะสม แต่ส.ส.ทุกคนสามารถเป็นประธานสภาฯได้ทุกคน เพราะประชาชนเลือกมาแล้วก็ถือว่าเป็นคำพิพากษาที่ใหญ่ อย่างไรก็ตามต้องขออภัยพรรคก้าวไกลด้วยเพราะเราสูงไล่เลี่ยกัน อย่างที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่ามี เอฟซีพรรคเพื่อไทย ต่างคนต่างมีเอฟซี ซึ่งเอฟซีแต่ละพรรคก็เชียร์ไม่เหมือนกัน จึงอยากให้เอฟซีอยู่ในสถานที่ตั้งที่มั่นคง รอดูการเจรจากัน คิดว่าประชาชนมอบให้เพื่อไทยกับก้าวไกล เป็นปลาท่องโก๋ ต้องจัดตั้งรัฐบาล และมีนายกฯชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ให้ได้
ถามอีกว่า ถ้ามติพรรคฯออกมาจะยอมรับได้หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ตนเป็นคนที่มีระเบียบวินัย แต่วินัยนั้นต้องผ่านการถกเถียงกันในพรรคฯอย่างสมเหตุสมผล ผู้บริหารพรรค หรือตัวแทนพรรคไม่ใช่เจ้าของพรรค ต้องมาถามส.ส.และให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำให้เส้นทางประชาธิปไตยไปได้ด้วยดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ