
20 มิ.ย.2566-ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับหนังสือรับรอง ส.ส. ในส่วนของตัวเอง และรับมอบหนังสือรับรองฯ แทนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าทุกคนดีใจที่ได้เดินทางมารับหนังสือรับรอง ส.ส. เพื่อไปรายงานตัวต่อสภา ส่วนตัวก็รับมอบหมายให้รับหนังสือแทนพล.อ.ประวิตรด้วย เพราะท่านติดประชุม ครม.ในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายท่านจะไปรายงานตัวที่สภาด้วยตัวท่านเอง สำหรับทิศทางทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐช่วงที่ผ่านมา เนื่องจาก กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้น คณะกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้ตนประสานงานกับ ส.ส.ทุกคนว่า ให้อยู่เงียบๆ นิ่งๆ เพราะมารยาททางการเมืองที่กกต.ยังไม่รับรอง ก็ไม่ควรมีการเคลื่อนไหวอะไรภายในพรรค
เมื่อถามว่าทิศทางพรรคพลังประชารัฐหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไร จะมองเรื่องการพลิกขั้วกลับมาตั้งรัฐบาลหรือไม่ หากพรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งไม่สำเร็จ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา เราคุยกันตลอด เนื่องจากอำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งหัวหน้าพรรคได้มอบนโยบายว่าโดยมารยาททางการเมืองในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาที่เรานิ่งเพราะต้องการให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากสุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่หลังจากนี้ไปพรรคเราก็จะอยู่นิ่งๆ เช่นกัน จนกกว่าจะมีการเปิดสภา
เมื่อถามว่า หากการโหวตนายกฯ ไม่สำเร็จ เนื่องจากติดล็อคที่ ส.ว. โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะจับมือกับพรรคเพื่อเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีข่าวดีลลับ เรียนตรงๆ ว่าไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ ดังนั้นการกำหนดทิศทางของพรรคในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับการประชุมกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรค ทั้งนี้การเมืองเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่าย หลายทิศทาง แต่ข้อเท็จจริงในฐานะที่ตนใกล้ชิดกับหัวหน้า และคุยกันทุกวันแล้วรับรองว่าไม่มีดีลอะไรทั้งนั้น
เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกฯ พรรคพลังประชารัฐให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการประชุม ส.ส.เร็วๆ นี้ ถึงเรื่องทิศทาง แต่เบื้องต้นคงเป็นมติพรรคมากกว่า เมื่อถามย้ำว่า ควรเป็นพรรคอันดับหนึ่งเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่ามี 2 ประเด็น 1. การโหวตประธานสภา เนื่องจากการเลือกประธานสภา เป็นเรื่องของ ส.ส. ก็เป็นสิทธิ์ของ ส.ส.ที่จะโหวตใครเป็นประธานฯ ส่วน 2 เป็นเรื่องนายกฯ เนื่องจากเป็นการโหวตของ 2 สภา ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องเคารพว่ากำหนดว่าอย่างไร แต่ทิศทางว่าจะเลือกใครนั้น ทางหัวหน้าพรรคให้นโยบายอยู่แล้วว่า ควรจะให้พรรคที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน เสียงข้างมากในการรวบรวมจัดตั้งรัฐบาล และโหวตนายกฯ ต่อไป
เมื่อถามย้ำว่าจะโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นมติของพรรคว่า จะกำหนดอย่างไร แต่อย่าลืมว่าในสภาฯ มีส.ส. 500 คน ดังนั้น พรรคไหนที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากและชนะในการโหวตที่จะเลือกบุคคลมาเป็นนายกฯ ก็ต้องเคารพกติกา
เมื่อถามต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอรายชื่อบุคคลรับการโหวตเป็นประธานสภาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกพรรคมีโอกาสเสนอหมด และไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมาก เช่น ยุคนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภา พรรคพลังประชารัฐก็เป็นคนเสนอ ส่วนรอบนี้ยังไม่ได้มีการคุยกัน ส่วนที่มีปรากฏชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ เข้ารับการโหวตนั้น ส่วนตัวก็ได้ยินมาพร้อมกับสื่อ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
กกต. สรุปสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 1.5 พันคน 73 แคนดิเดตนายกฯ
กกต. สรุปภาพรวมสมัคร สส. บัญชีรายชื่อวันแรก 1,502 คน ส่วน 34 พรรค เสนอแคนดิเนตนายกฯ 73 คน ขณะที่สมัครแบบแบ่งเขต 2 วัน รวม 3,199 คน
กกต. พอใจรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 52 พรรคฉลุย มั่นใจ 8 ก.พ. มีเลือกตั้งแน่
'กกต.' เผยรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์วันแรกราบรื่น 52 พรรคยื่นครบ เสนอแคนดิเดตนายกฯ 32 พรรค 68 คน เดินหน้าตรวจนโยบายเข้มตามกฎหมาย มั่นใจเลือกตั้ง 8 ก.พ.69 จัดได้ทั่้วประเทศ
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

