ซวยแล้ว! จี้ กกต. สอบพรรคการเมือง ท่อน้ำเลี้ยงประชามติรัฐปาตานี

9 มิ.ย.2566 - นายสมชาย แสวงการ สมชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวเรียกร้องให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ตรวจสอบกรณีที่คณะนักศึกษาในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใตั ที่ประกาศเรื่องของการทำประชามติ เพื่อแบ่งแยกดินแดน หรือ รัฐปาตานี เมื่อ 7 มิ.ย. ที่ มอ.ปัตตานี เนื่องจากกรณีดังกล่าวตนเชื่อว่ามีนักการเมืองและพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง และตนขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบนักการเมืองรวมถึงว่าที่ ส.ส.ของบางพรรคการเมืองที่เข้าร่วมเวทีดังกล่าวและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลุกปั่นให้นักศึกษาดำเนินการเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ตนมีคลิปที่นักการเมืองบางพรรคที่จัดเวทีปลุกระดม ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตราว่าด้วยราชอาณาจักรไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ซึ่งคนที่ทำนั้นเข้าข่ายทำผิดเป็นกบฎ และเข้าข่ายยุบพรรค ซึ่งตนไม่ขอเอ่ยว่าเป็นพรรคการเมืองใด ขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบ

“การประกาศของนักศึกษา ตามคำประกาศ เขาไม่รู้ว่านั่นคือการทำผิดที่ความผิดสำเร็จแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เพราะมีผู้ใหญ่ที่ปั่นหัว และอยู่เบื้องหลัง ส่วนการระบุว่ามีข้อเสนอให้ทำประชามติแบ่งแยกดินแดน เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ผมขอข้าราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่อย่ากลัวนักการเมือง เพราะหากละเว้นจะเข้าข่าย มาตรา 157 แม้จะคารพสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่ควรมีเรื่องแยกบ้านแยกเมือง เพราะจะทำให้ประเทศไปต่อไม่ได้ และคนในประเทศจะอยู่กันไม่ได้” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า กอ.รมน. ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบให้จริงจัง อย่าปล่อยให้บานปลาย กอ.รมน. มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นผู้อำนวยการ รวมถึงแม่ทัพภาคสี่ ดังนั้นต้องตรวจสอบ โดยเฉพาะการทำประชามติให้แบ่งแยกดินแดน ตนมองว่า พรรคการเมืองที่ยุยงให้เกิดเรื่องการทำประชามมติแบ่งแยกดินแดนไม่สมควรเป็นพรรคการเมือง ไม่สมควร ได้เป็น ส.ส. ทั้งนี้อย่าอ้างความรักชาติ แต่เรื่องนี้คือกรเคารพพหุวัฒนธรรม ที่มีความหลากหลาย แต่หากยังทำเรื่องนี้ คนไทยจะสู้ถึงที่สุด และเป็นสงครามภายในประเทศ

“เรื่องภาคใต้นั้น ไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำ หรือเรื่องชนชาติ คนที่ทำต้องขอโทษประชาชนคนไทย ผมไม่อยากให้นักศึกษาที่ทำเวที ติดคุก เพราะถูกผู้ใหญ่ปั่นหัว และข้อเท็จจริงเรื่องนี้คือการแบ่งแยกดินแดน ทั้งนี้กมธ.จะติดตาม และนำเอกสารหลักฐานที่ได้มาตรวจสอบ รวมถึงให้ กมธ.ความมั่นคง วุฒิสภาติดตามการทำหน้าที่ของ กอ.รมน. ส่วน กกต.นั้น ต้องติดตามพรรคการเมืองใดที่สนับสนุนการเงิน และเอาผิด หากนักการเมืองที่สนับสนุนเป็นกรรมการบริหารพรรคต้องยุบพรรค” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า ในเวทีดังกล่าวพบว่า มีนายวรวิทย์ บารู ว่าที่ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติเข้าร่วม นายสมชาย กล่าวว่า นายวรวิทย์ตนเคยทำงานร่วมกัน และฟังการชี้แจงจากนายวรวิทย์ระบุว่าไม่ทราบเรื่อง และไปร่วมงานตอนบ่าย ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าใครจัดงานหรือใครสนับสนุน พรรคไหนให้งบในการจัดเวที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษก มท. แจงมติครม.เร่งแก้ปัญหาคนไร้สถานะทางทะเบียน 4.8 แสนราย ไม่ใช่ให้สัญชาติคนต่างด้าว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามา

ครม. ไฟเขียวหลักเกณฑ์เร่งรัดแก้ปัญหาสัญชาติกว่า 4.8 แสนคน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนออนุมัติหลักเกณฑ์ เพื่อเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาสัญชาติ, สถานะของกลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาในไทยเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทย

'บิ๊กอ้วน' ล่องหน! กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ถกคดีตากใบหมดอายุความ

ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการเชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย