ดร.ณัฎฐ์ รู้ทันเหลี่ยมทักษิณ ไม่กลับไทยเป็นกลเกมการเมือง ถามใครหลอกใคร

8 มิ.ย.2566 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการเดินทางกลับประเทศไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยทางครอบครัวชินวัตร อยากให้ทอดเวลาออกไปก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ และอยากให้กลับมาหลังตั้งรัฐบาลหรือมีรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว

โดย ดร.ณัฐวุฒิ ซึ่งเคยฟันธงคนแรกว่า นายทักษิณ บอกจะกลับประเทศภายหลังเลือกตั้ง เป็นเพียงกลเกมทางการเมือง เพื่อหวังประโยชน์ในทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ให้ประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เท่านั้น ว่า การให้ความรู้ทางกฎหมายมหาชนที่ผ่านมา เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ เป็นไปตามหลักวิชาการ ไม่ได้มีอคติกับบุคคลใด

ตนเป็นคนแรกที่ออกมาฟันธงว่า ให้ประชาชนจับไต๋เหลี่ยมนายทักษิณ เป็นเพียงกลเกมทางการเมือง สับขาหลอกว่า ประกาศก่อนวันเลือกตั้งว่าจะกลับประเทศหลังเลือกตั้ง และประกาศอีกว่าจะกลับประเทศมาเลี้ยงหลาน หวังเพื่อให้แฟนคลับหรือผู้สนับสนุนเทคะแนนให้แก่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากจะมาจริงให้ชวนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวที่หลบหนีอยู่ด้วยกันกลับประเทศไทยด้วย เพราะรู้ทันว่า เป็นเพียงเกมการเมืองสับขาหลอก เพื่อให้ประชาชนเทคะแนนให้เพื่อชนะแลนด์สไลด์ 310 ที่นั่ง ตนเลยฟันธงว่า เพื่อไทย คว้าที่นั่งไม่เกิน 170 ที่นั่ง

ติ่งแฟนคลับเพื่อไทยออกมาดิ้นและออกมาด่าตน แต่ตนไม่ติดใจเพราะการให้ความเห็นทางกฎหมายมหาชน เป็นการให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชน เป็นไปตามหลักวิชาการ ตามบริบทสถานการณ์ของประเทศ ยอมรับความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตย ปรากฎว่า ผลการเลือกตั้งเพื่อไทยได้ที่นั่ง 141 ที่นั่ง แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทย ตนฟันธง ได้ ส.ส.ไม่เกิน 70 ที่นั่ง บวกลบไม่เกิน 5 ที่นั่ง ผลการเลือกตั้ง ปรากฎว่า ภูมิใจไทย ได้ 70 ที่นั่ง ภายหลัง คะแนนบัญชีรายชื่อสวิงปัดเศษขึ้นอีก 1 ที่นั่ง รวมเป็น 71 ที่นั่ง โดยมีตัวแปร มนต์เขมรเสื่อมเพราะกัญชา โดยภูมิใจไทยคาดหมาย 120 ที่นั่ง หากใครติดตามอ่านข่าวที่ตนให้ความรู้ คงจดจำกันได้ หากใครเพิ่งมาติดตามตนให้ค้นหาอ่านข่าวย้อนหลังได้

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนฟันธงก่อนการเลือกตั้งว่า นายทักษิณไม่กลับประเทศ เพราะการกลับประเทศสำหรับพลเมืองไทย สามารถกลับได้ตลอดเวลา แต่นายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว จะต้องถูกบังคับโทษทางอาญา เพราะคดีถึงที่สุดไปแล้ว ก่อนที่จะไปเลี้ยงหลาน พอผลเลือกตั้งไม่ได้ตามเป้าหมาย ขณะนี้เดือนมิถุนายน 2566 แล้ว เหลือไม่ถึงเดือนจะเข้าเดือนกรกฎาคม 2566 ตามที่นายทักษิณคุยโวนักหนา เป็นเพียงกลเกมทางการเมือง ให้พี่น้องประชาชนหูตาสว่างได้แล้ว อย่าไปหลงเชื่อ เพราะการกลับประเทศเป็นสิทธิตามกฎหมายของนายทักษิณ ไม่มีบุคคลใดห้ามให้เข้าประเทศ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ระหว่างนายทักษิณ และประชาชนที่เทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยเพราะเหตุที่นายทักษิณประกาศก่อนการเลือกตั้งว่าจะกลับบ้าน ไม่ทราบว่า ใครหลอกใคร?

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายทักษิณ ลี้ภัยไป 17 ปี ตนเคยเทียบเคียงกับนายปรีดี พนมยงค์ ผู้นำทางการเมือง อดีตแกนนำคณะราษฎร สายพลเรือน อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย นายปรีดี ได้กลับประเทศหรือไม่ หากจะเทียบให้เห็นได้ชัดมากกว่านี้ การรัฐประหารกันยายน 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ทำให้จอมพล ป.พิบูลสงครามและพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ จบตำนาน “บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย” ถามว่า ผู้นำทางการเมืองในอดีต บุคคลที่ลี้ภัยออกไปต่างประเทศได้กลับมาหรือไม่

ส่วนที่ถามว่า กระแสข่าวกรณีคนในครอบครัวชินวัตร ไม่เห็นด้วยที่จะให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ในสถานการณ์ขณะนี้ เนื่องจากยังไม่พร้อม อยากให้รออีก 5 ปี และไม่ใช่เรื่องง่ายกับสถานการณ์เมืองในปัจจุบัน เพราะอายุแค่เพียง 37 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังมีแคนดิเดตนายกฯคนอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน ก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องทางเศรษฐกิจ และอยากให้เศรษฐกิจของประเทศกระเตื้องขึ้นด้วย

ดร.ณัฎฐ์ มือกฎหมายมหาชน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเสนอ นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ลำดับ 1 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 เป็นไปตาม หลักความยินยอมให้เสนอชื่อตามมาตรา 89(1) หากพรรคเพื่อไทย มีความชอบธรรม เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ การสละการเสนอชื่อภายหลังเลือกตั้ง ไม่ว่าจะอ้างเหตุใดๆ สามารถกระทำได้ การประกาศผ่านสื่อ ในทางกฎหมาย ถือว่า มีผลผูกพันทางกฎหมายแล้ว แต่คนในครอบครัวปูดข่าว ยังไม่ได้เกิดจากการกระทำของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศต่อหน้าสาธารณชนด้วยตนเอง เป็นเพียงโยนหินถามทางเท่านั้น เพราะตัวแปร การเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง จะต้องมีกระบวนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีโดยต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เป็นไปตามกลไกระบบรัฐสภาที่บัญญัติหลักเกณฑ์ขั้นตอนไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 159 วรรคสอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เด็จพี่' ได้ทีจวกเหล่านักร้อง ทำให้เกิดความปั่นป่วน ขู่เมื่อร้องผิดคีย์ต้องโดนลงโทษ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยอ้างว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้าง

'จตุพร' ตอกย้ำศาลรธน.รับคำร้องคดีล้มล้าง เพื่อหยุดอหังการอำนาจ เริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง

ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ

'นิพิฏฐ์' เฉลย 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยเป็นไปได้ 'ทักษิณ' ไม่ได้พูดเล่นๆ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดเผยว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดีทุจริตจำนำข้าว อาจจะกลับประเทศไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้า ว่า ระบุว่า

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน

เดือดพลั่ก! ยธ. แถลงโต้ กมธ.มั่นคงฯ ไม่มีอำนาจเรียก ทวี-อธิบดีกรมคุก ชี้แจงทักษิณชั้น 14

นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวรชัย บุตรดาบุตร เลขานุการกรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ หนูคง ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และ น.ส.วริศรา กุญชร ณ อยุธยา ผอ.กองกฎหมาย

เดือด! 'โตโต้' สวน ยธ. ยันมีอำนาจสอบทักษิณป่วยทิพย์ ลั่น กมธ.มั่นคงฯทำงานครอบจักรวาล

นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคประชน (ปชน.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร