“สนธิญา” ยื่นกกต. เล่นงาน “พิธา” ปมถือหุ้น ถึงขั้นยุบพรรค ยกรธน.มาตรา 5 หักล้างทุกกฎหมายเอื้อ “ทิม”พ้นผิด อัด เพ้อฝัน ปลุกผีไอทีวีเชือดทางการเมือง
7 มิ.ย.2566 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายื่นกกต.ให้มีการตรวจสอบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตพรรคก้าวไกล อาจจะทำผิดข้อบังคับพรรคก้าวไกล ข้อที่ 12 (6) ที่ระบุว่า ผู้ที่จะเป็นสมาชิกพรรคต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
โดยข้อบังคับของพรรคก้าวไกลเพิ่งจะมีการแก้ไขภายหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิ์พรรคการเมืองจากกรณีการถือหุ้นสื่อ แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมีความละเอียดอ่อนต่อเรื่องดังกล่าวมาก ซึ่งการที่มีนักวิชาการออกมาแสดงภูมิรู้ โดยยกกฎหมายคดีแพ่ง คดีมรดก มาอธิบายเรื่องการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา
แต่ต้องไม่ลืมว่าการกระทำของนายพิธา เป็นการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และมาตรา 106 (6) ซึ่งรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชน และเป็นกฎหมายสูงสุด ซึ่งมีบทบัญญัติมาตรา 5 กำหนดว่า บทบัญญัติของกฎหมาย ข้อบังคับ หรือการกระทำใดที่ขัดหรือแย่งต่อรัฐธรรมนูญจะเป็นอันใช้บังคับไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะยกกฎหมายว่าด้วยมรดก แพ่ง หรืออาญาใดๆ ก็ตามขึ้นมาต่อสู้ก็ไม่สามารถเอามาหักล้างบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนดได้
“การกระทำของนายพิธาที่ขัดต่อข้อบังคับพรรคก้าวไกล และรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ถ้าได้รับการวินิจฉัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เป็นความผิด ก็จะเท่ากับนายพิธาไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะลงสมัครส.ส. และอาจจะไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตามมาตรา 88 ซึ่งจะเท่ากบนายพิธากลายเป็นบุคคลธรรมดา และกระทำการเข้าข่ายครอบงำ ชี้นำ ทำให้พรรคก้าวไกลเข้าข่าย มาตรา 28 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งเป็นเหตุนำไปสู่การยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ได้” นายสนธิญา กล่าว
เมื่อถามว่านายพิธาได้ชี้แจงและอ้างว่าการที่นำเอาบริษัทไอทีวีมานั้นเพื่อเล่นงานเขา นายสนธิญา กล่าวว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน ตนก็ถามว่า ถ้านายพิธาไม่ถือหุ้นจะมีปัญหาไหม ถ้านายพิธาขายหุ้นตั้งแต่รู้ว่าตัวเองจะเข้ามาทำงานการเมืองจะมีปัญหาไหม และถ้าพรรคก้าวไกลไม่มีข้อบังคับว่าบุคคลที่จะเป็นสมาชิกไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือบุคคลที่มาเป็นสมาชิกก้าวไกลจะต้องมาถือหุ้นนั้นนายพิธาจะมีปัญหาไหม และพวกที่มาร้องๆนายพิธาเหล่านี้จะมีเรื่องไปร้องไหม
ตนเรียนว่าคนที่ร้องอย่างตน ถ้าร้องผิด นายพิธา พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยแจ้งความตามมาตรา 101 กฎหมาย กกต. ตนจะติดคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท และห้ามทำงานการเมือง 10 ปี และบุคคลใดบุคคลหนึ่งในประเทศในฝั่งที่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย ก้าวไกลใช้สิทธิและมาค้านที่ กกต.ได้เลยว่าการร้องไม่เป็นเรื่องจริง แล้วมาสู้กัน ดีกว่าไปด่าผ่านเฟซบุ๊ก เพราะการมาครั้งนี้ตนอ้างทั้งรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
'พงษ์ศักดิ์' แชมป์เก่า 6 สมัย ร้องประธาน กกต. สั่งระงับรับรองผลเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น
นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 2 ได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังตรวจพบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 1 ได้หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเฟสบุ๊ค จ
‘สนธิญา’ ยื่น กกต.สอบ ‘ทักษิณ’ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกม.เลือกตั้งท้องถิ่น
สนธิญา ยื่น กกต.สอบ ทักษิณ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น-พรรคการเมือง-รธน. ห้ามคนต่างชาติเอี่ยวการเลือกตั้งทุกระดับ พ่วงร้องสอบหาเสียงหยาบคาบ เป็นเท็จ อาจทำเลือกตั้ง อบจ.อดุรฯ โมฆะ