“ดร.ณัฎฐ์' นักกฎหมายมหาชน อัด “สว.จเด็จ” ชงจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ จะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี ชี้บ้านเมืองยังไม่ถึงทางตัน รัฐบาลต้องมาจากประชาชน
1 มิ.ย. 2566 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ที่มีปัญหาเพื่อเป็นทางออกของบ้านเมือง ว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของนายจเด็จ สามารถกระทำได้ แต่เร็วเกินไปที่จะพูดในเรื่องนี้ เพราะประเทศไทยยังไม่ถึงทางตันทางการเมือง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง ยังไม่อาจทราบแน่ชัดว่า พรรคการเมืองใดจะรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะการชนะการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ชนะขาด ตัวแปรคือเสียงจากพรรคภูมิใจไทยและเสียงสมาชิกวุฒิสภา
ทั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เคยพูดกันมาหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยหยิบมาตรา 5 วรรคสองของรัฐธรรมนูญมาอุดช่องว่างทางกฎหมายโดยอนุโลม โดยอาศัยประเพณีการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะเกิดขึ้นได้จะต้องเกิดข้อขัดแย้งและสถานการณ์บ้านเมืองที่แก้ไขไม่ได้ เหมือนกับย้อนตำนานในอดีต นายกพระราชทาน ม.7 แต่บริบทการเมืองปัจจุบัน แตกต่างจากอดีต รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ รัฐบาลรักษาการอยู่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ยังไม่เกิดสุญญากาศทางการเมือง ทางตันทางการเมือง ความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลย่อมดำเนินการไป
ส่วนตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เสมือนตั้งรัฐบาลเงา เชิงซ้อน ไม่มีผลทางกฎหมายอะไร แต่จะไปแทรกแซงข้าราชการประจำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญห้ามเด็ดขาด การฟอร์มทีมรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล 376 เสียง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเงื่อนไขบังคับก่อน เป็นเงื่อนไขสำคัญ
ส่วนนายจเด็จ ด่วนออกมาพูด เป็นการตีปลาหน้าไซ โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ควรไปจุ้นในการชี้นำจัดตั้งรัฐบาลประชาชน เพราะการเลือกตัวแทนมาทำหน้าที่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ตนจะยกวาทกรรมทางการเมืองที่มักหยิบมาพูดกันบ่อยๆของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา “อับราฮัม ลินคอล์น” ที่ว่า “การปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะต้องเป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน” หากย้อนกลับไปดูการปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับแรก บัญญัติไว้ในมาตรา 1 ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 ให้อำนาจสูงสุดของประเทศนั้น เป็นของราษฎรทั้งหลาย ต่อมารัฐธรรมนูญปัจจุบันได้ บัญญัติไว้ในมาตรา 3 วรรคหนึ่งว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะต้องเป็นการปกครองโดยประชาชน
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่าส่วนที่นายจเด็จ ได้หยิบยกความดีความชอบของ 2 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตนถามว่า มีเพียงสองพรรคการเมืองเท่านั้นหรือ เพราะพรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่า พรรคการเมืองขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก เป้าหมายจิตอาสาทำงานเพื่อบ้านเมืองตามครรลองประชาธิปไตยเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง การหยิบสองพรรคการเมืองนี้ นายจเด็จ จะเป็นทนายหน้าหอ เป็นกระบอกเสียงให้ใช่หรือไม่ เพราะยังไม่เห็นสองพรรคการเมืองนี้ออกมาดิ้น โดยเฉพาะมันสมองของชาติบุคลากรของทุกพรรคการเมืองมีอยู่แล้ว แต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้ง จะไปโยนหินถามทาง ปูดแนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่ออะไร
หากเป็นห่วงบ้านเมือง ต้องย้อนกลับไปถามว่า หน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภามีอะไรบ้าง การไปจุ้นจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างรัฐบาลประชาชนกับรัฐบาลแห่งชาติ เป็นหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ อย่างไร ไม่เข้าท่า เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ ควรเคารพเสียงของประชาชน แม้รัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 แต่เป็นเพียงดุลพินิจเด็ดขาดในสภาเท่านั้น
ในส่วนของทุกพรรคการเมือง ย่อมมีจุดแข็ง จุดอ่อน แตกต่างกันตรงจุดแข็งนโยบายและทุนสนับสนุนพรรคการเมือง แต่ด่านสำคัญการที่จะไปทำหน้าที่ คือ การเลือกตั้ง ทีจะต้องโดยสุจริตและเที่ยงธรรม อยู่ที่พี่น้องประชาชนเทคะแนนเลือกตัวแทนพรรคการเมืองใดมาทำหน้าที่ เป็นตัวแทนในสภา ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร
หากนายจเด็จเสนอตัวลงแข่งขันในสนามเลือกตั้ง อยากรู้ว่าจะได้สักกี่คะแนน แต่เอาใจช่วย การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ไม่มีฝ่ายค้าน ไร้ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลในสภา ให้ประชาชนมโนภาพดูว่า ระบบการเมืองการปกครองของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น จะเอาตัวแบบโมเดลประเทศเกาหลีเหนือหรือไม่ อย่างไร ผลร้ายย่อมมากกว่าผลดี เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ถือว่าเป็นทางออกของบ้านเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุพร' ฟันธงเลือกตั้งวนลูปสับปลับ 'สงคราม-เงินเทา' ตัดสินชะตาบ้านเมือง
'จตุพร' ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับแล้วอ้างจำเป็นกอดคอตั้ง รบ. คาดพรรคใหญ่ปล่อยของซัดกันนัว ระบุ 3 ปัจจัยทั้งสงคราม เงินเทาสแกมเมอร์ และขุดดิจิทัลฟุตพริ้นท์ซ้ำเติมพูดแล้วลืมทำ ฟาดกันน่วม ชี้ ปชน.-พท.-ภท. กวาดเสียง แย่งชิงพรรคกลาง-เล็กตั้ง รบ.กลับกลอก
'กก.บห.ปชป.' รับรองจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาล 'กล้าธรรม' พร้อมมัด 'อภิสิทธิ์' เป็นหัวหน้ายาว 4 ปี
'กก.บห. ปชป.' รับรองจุดยืนพรรคไม่ร่วมรัฐบาล 'พรรคกล้าธรรม' พร้อมมัด 'อภิสิทธิ์' เป็นหัวหน้ายาว 4 ปี ไม่ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ตาม จ่อเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ ศุกร์นี้
'แม่ยกปชป.' ชื่นชม 'อภิสิทธิ์' นักการเมืองที่ดีต้องกล้าพูดชัดเจน ไม่ใช่มัวแต่กลัวจะไม่ได้เป็นรบ.
นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ·
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว
"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้

