22 พ.ค.2566 - นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าขณะนี้มีกระแสข่าวสับสนในเรื่องพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล หรือไม่ร่วมรัฐบาล เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะโดยหลักทางกฎหมายและข้อบังคับพรรคแล้วจะหลีกหนีเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะขณะนี้พรรคยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) และ เรียกประชุมส.ส.มาพิจารณาเรื่องเหล่านี้ ส่วนที่มีข่าวว่ามีการเจรจาพูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆนั้นเป็นข่าวบิดเบือนทั้งสิ้น รายงานข่าวที่ว่ามีการส่งคนไปเจรจาเพื่อร่วมรัฐบาลเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเรามีกฎเกณฑ์กติกาที่ต้องทำตามระบบและระเบียบข้อบังคับ สิ่งที่ระบุในข้อบังคับพรรคระบุชัดในข้อที่ 96 ว่าให้ที่ประชุมร่วมกันระหว่างกก.บห. และส.ส. เป็นผู้พิจารณาเพื่อมีมติว่าร่วมหรือไม่ร่วม หรือถอนจากการร่วมรัฐบาล แต่ถ้าจะบอกมีใครไปเจรจา ประสานงานเพื่อร่วมรัฐบาลนั้นเป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น
นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนที่มีสมาชิกพรรคแสดงความเห็นเรื่องการยกมือโหวตให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี หรือมีความพยามให้ร่วมกับพรรคนั้นพรรคนี้ เป็นความเห็นส่วนบุคคลทั้งสิ้น ซึ่งตนพูดในนามพรรคที่มีกฎกติการะบุไว้ชัดเจนว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรค รวมถึงข่าวที่ว่าเราไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีใครสามารถดำเนินการได้คนเดียวเช่นกัน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนพรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้งและ มีการจัดตั้งรัฐบาล เพราะชนะมาอันดับหนึ่งก็เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ที่เราไม่ไปก้าวล่วง สถานะพรรคประชาธิปัตย์ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ตัวเลขอยู่ที่24 ที่นั่ง ดังนั้นอำนาจการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ที่แกนนำหลัก เราไม่มีสิทธิ์ทักท้วงหรือคัดค้านในสิ่งที่พรรคก้าวไกลและพรรคอื่นที่เข้าร่วมรัฐบาลพูดคุยกัน
นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา112 เราจะไม่ไปก้าวล่วง แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันตลอดคืออุดมการณ์ของพรรคข้อที่3 คือพรรคจะดำเนินการเมืองโดยอาศัยหลักกฏหมาย และเหตุผลเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญ และเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังให้มีความนับถือ และนิยมในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งชัดเจนและยืนยันตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกม.112 หรือแม้แต่จะมีการแก้ไข แม้จะมีความพยายามสื่อไปยังประชาชนว่าไม่ยกเลิกเพียงแต่แก้ไข
'อยากให้ประชาชนศึกษารายละเอียดของร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่นายพิธาและพรรคเสนอต่อสภามีความชัดเจนในตัว ว่ามีความพยายามอยู่หลายรอบ โดยในเนื้อหาจะบอกชัดเจนว่าให้มีการยกเลิกม.112 โดยเอกสารของร่างดังกล่าว ใน ม.4 ที่บัญญัติว่าให้มีการยกม.112 ทั้งที่มาตรานี้ไม่สามารถทำร้ายใครได้ หากพฤติกรรมผู้ทำผิดไม่ได้ส่อไปในการทำผิด แต่มีความพยายามยื่นหลายครั้งและโจมตีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาหลายครั้งว่าพยายามตีตกไปไม่ให้เข้าสู่บรรจุวาระสภา ซึ่งเป็นการบิดเบือนอย่างมาก เพราะผมมีหลักฐานเอกสารไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ว่าพรรคการเมืองพยายามแก้ไขให้ยกเลิก ม.112 โดยสำนักเลขาธิการสภาฯตรวจสอบพบมีข้อบกพร่องและแจ้งให้นายพิธาถอนร่างไปแก้ไข แต่ก็มีความพยายามไม่สิ้นสุด โดยเสนอเข้ามาอีกในวันที่ 25 มี.ค.2564 และวันที่ 7 เม.ย. 2564 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าไม่ปรากฎข้อความประสงค์ชัดว่าเสนอฉบับใด จึงแจ้งไปยังนายพิธาอีกครั้ง ต่อมาวันที่ 21 เม.ย. 2564 นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ได้แจ้งให้นายพิธาทราบเพื่อให้แก้ไขข้อบกพร่อง และวันที่ 23 เม.ย.2564 เจ้าหน้าที่ได้สภาแจ้งนายพิธา ว่าร่างนี้อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ แต่นายพิธาก็ยังยืนยันเสนอเข้ามาอีก จนวันที่22 ธ.ค.2564 รองเลขาธิการสภาฯแจ้งไปยังนายพิธาว่ากรณีการกำหนดความผิดลักษณะที่ยอมความได้ อาจไม่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 28-29/ 2555 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ19/2564ที่ว่าม.112 ไม่ลักษณะที่ขัดหรือแย้ง และไม่มีลักษณะที่เลือกปฏิบัติต่อประชาชน" โฆษกปชป. กล่าว
นายราเมศ กล่าวอีกว่า หากพรรคก้าวไกลจะทำให้ประเทศไม่เหมือนเดิมเราไม่ก้าวล่วง แต่จะต่อสู้ในระบบรัฐสภา ส.ส.ทั้ง24 คน จะทำหน้าที่ติดตามเรื่องของการยกเลิกแก้ไข ม.112 พรรคมีอุดมการพรรคและนโยบายชัดเจน แล้วว่าจะไม่มีการแก้ไขหรือยกเลิก ดังนั้นขอให้พรรคก้าวไกลโชคดีในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เต็มที่
เมื่อถามว่ามีสมาชิกพรรคบางคนเสนอให้โหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯโดยไม่ต้องร่วมรัฐบาล นายราเมศ กล่าวว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่มีมติของกก.บห.และส.ส.ชุดใหม่ แต่ตนบอกได้เพียงว่าขอให้ดูอุดมการณ์ของพรรคโดยเฉพาะข้อ3 ที่สามารถบอกได้ชัดเจนแล้ว
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตเคยลงสมัครผู้ว่ากทม.ของพรรคก้าวไกล มีการพาดพิงว่าเราแพ้เลือกตั้งตลอด มีการเหยียดหยามด้อยค่าคนแพ้ หากย้อนไปตอนที่เขาแพ้เลือกผู้ว่าฯเราไม่เคยไปทับถมด้อยค่าแม้แต่น้อย เพราะถือเป็นมติของประชาชน
"ผมเชื่อพ่อแม่คุณวิโรจน์สั่งสอนมาดี แต่ด้วยตัวเองที่ลักษณะสันดานดิบ ชอบด้อยค่า กร่าวร้าวคนอื่น ปากอ้างประชาธิปไตย แต่พูดแต่ละคำมีแต่เสียดสี ผมไม่เรียกร้องให้ดัดนิสัย เพราะเขาพูดแบบนี้บ่อยครั้งอยู่แล้ว"นายราเมศ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า แม้เราจะมีแค่24 คน แต่การทำหน้าที่ในสภา ทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งเรื่องผลักดันนโยบายที่ประกาศและการออกกฎหมายต่างๆก็จะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ส่วนการทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้านอื่นเป็นเรื่องของอนาคตแต่การทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องรวมกลุ่มกัน เพราะพรรคที่เหลือจากการร่วมรัฐบาลก็ต้องมาเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว
ถามว่ามีการประเมินผลการเลือกตั้งของพรรคที่ได้มาเพียง24เสียงอย่างไร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กก.บห.ชุดใหม่จะมีการสรุปผลการเลือกตั้ง โดยต้องดูแต่ละพื้นที่ว่าความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะภาคใต้เกือบทุกจังหวัดยังเห็นกระบวนการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทั้งนี้ขอยืนยันว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนมีมูลค่ามากกว่าเงินซื้อเสียง500 บาท นอกจากนี้เราจะต้องมีการวิเคราะห์กันด้วยว่าการดำเนินการกิจกรรมในทางข้างหน้า เราจะทำอย่างไรในการต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้
เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าผู้ที่ได้รับชัยชนะได้เป็นส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการซื้อเสียงเลย นายราเมศ กล่าวว่า มั่นใจและถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจพบว่ามีคนของพรรคประชาธิปัตย์มีการซื้อเสียงก็ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย นักการเมืองที่ทุจริตถ้ามีหลักฐานยืนยัน ตนก็สนับสนุนว่าทำผิดต้องติดคุก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง