9 พ.ค.2566- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวพาดพิงว่ากังวลประเทศไทยจะเป็นสุพรรณบุรีว่า มีชาว จ.สุพรรณบุรีบางส่วนส่งข้อความมาหาตนว่าเป็นสุพรรณบุรีแล้วมันเสียหายตรงไหน แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่เคยทำงานร่วมกับนายพิธาและพรรคก้าวไกลในสภาผู้แทนราษฎร ได้เห็นว่าพวกเขาเชื่อมั่นในเรื่องความเสมอภาคและความเท่าเทียม ตนคิดว่าเขาคงไม่ได้หมายความไปตามสิ่งที่พูด และจากการที่ตนและนายพิธาได้ร่วมเวทีดีเบตกันมาแล้วหลายครั้ง เห็นว่านายพิธาคงไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ จึงคิดว่าอย่าเอาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมาทำให้เป็นเรื่องดีกว่า เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งอยู่แล้ว ขอให้มุ่งเน้นกันที่นโยบาย เพราะบางครั้งอาจจะมีเรื่องที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจและพลาดพลั้ง จึงอยากให้ปล่อยไปดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดูแลความรู้สึกของชาวสุพรรณบุรีอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้ทำงานอย่างต่อเนื่องใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งอาจมีหลายคนที่เกิดข้อกังขาว่า จ.สุพรรณบุรีมีการพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขอชี้แจงว่าตอนที่นายบรรหารดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ จนถึงตอนดำรงตำแหน่งนายกฯ ทุกคนสามารถไปตรวจสอบได้ว่าการทำงานของนายบรรหารในช่วงเวลาเหล่านั้นได้ทำงานให้กับคนไทยทั้งประเทศ แม้กระทั่งตอนได้รับตำแหน่งนายกฯ จุดแรกที่ท่านเริ่มไปลงพื้นที่คือ ภาคใต้ ไม่ได้มาที่ จ.สุพรรณบุรีก่อน นอกจากนี้ ในยามที่นายบรรหารเป็นเพียง ส.ส. ท่านก็ยังทำงานให้ จ.สุพรรณบุรี ถือเป็นเรื่องปกติของการเป็น ส.ส. ส่วน ส.ส.แต่ละคนจะทำงานได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับศักยภาพแต่ละคน อย่างไรก็ตาม อยากทำความเข้าใจกับชาวสุพรรณบุรีว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ใน จ.สุพรรณบุรี พวกเรายังทำงานเหนียวแน่นกันดี
เมื่อถามว่า ดูเหมือนการปราศรัยในระยะหลังของพรรคก้าวไกล จะพูดแซะตระกูลหรือบ้านใหญ่ในจังหวัดต่างๆ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ต้องขอบคุณที่มองเราเป็นบ้านใหญ่ เพราะสำหรับบ้านศิลปอาชาและพรรค ชทพ.ถือว่าสุพรรณบุรีเป็นบ้านใหญ่ของเรา ขณะเดียวกัน เราเข้าใจดีว่าการพูดบนเวทีบางครั้งอาจจะมีกลอนพาไป จึงอย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่องดีกว่า และอย่าเอามาเป็นประเด็นทางสังคมเลย เราควรไปโฟกัสนโยบายของแต่ละพรรคดีกว่า และอีก 3-4 วัน จะได้เวลาไปลงคะแนนเลือกตั้งกัน
ถามว่า ประเมินช่วงโค้งสุดท้ายนี้อย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก เพราะผลโพลที่ออกมาเป็นเรื่องที่โพลแต่ละสำนักไปสุ่มตัวอย่างในแต่ละจังหวัด แต่โพลนั้นอาจจะเป็นเพียงแค่ตัวแทนของคนจำนวนหนึ่งในแต่ละพื้นที่ แต่โพลที่แม่นที่สุดคือ โพลเช้าวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งตกเย็นในวันนั้นเราจะได้รู้ผลว่าคน 50 กว่าล้านเสียงจะมีแนวทางออกมาอย่างไร เพราะเคยเห็นกันมาแล้วว่าแม้แต่เอ็กซิทโพลที่ออกมาอย่างหนึ่ง แต่สุดท้ายผลเลือกตั้งกลับออกมาตรงข้าม คิดว่าไม่เกินเที่ยงคืนของวันที่ 14 พ.ค.จะได้รู้ผลคาดคะเนที่แท้จริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน
'พิธา' เผยไม่ได้เห็นต่าง 'ทักษิณ' เรื่องเปลี่ยนโครงสร้าง เหน็บอย่ามัวแต่พูด ถึงเวลาต้องทำแล้ว
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร
ถึงคิว 'พิธา' ยกทัพตรึงอุดรฯ ร่วมงานลอยกระทง ขึ้นปราศรัย 3 เวทีใหญ่
ถึงคิว 'พิธา' ยกทัพตรึงอุดรธานี หลังโดน 'ทักษิณ-พท.' แย่งเรตติ้งสองวันติด ร่วมงานลอยกระทง ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่สามจุดวันเสาร์
จับตา “พ่อใหญ่แม้ว” เยือนอุดรฯ เป่ากระหม่อม24พ.ย.สู้ศึกอบจ.
ในวันที่ 24 พ.ย.ที่จะถึงนี้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งก่อนหน้านี้มี “วิเชียร ขาวขำ” นั่งเป็นนายก อบจ.อุดรฯ แต่เจ้าตัวลาออกอ้างปัญหาสุขภาพ จึงต้องทำให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน และเป็นที่น่าจับตาว่า พรรคใหญ่ 2 พรรค ส่งคนสู้ศึกในครั้งนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ