6 พ.ค.2566 - นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ เผยแพร่บทความเรื่อง "กองไฟในหีบเลือกตั้ง" มีเนื้อหาดังนี้ เลือกตั้งครั้งนี้ “ความเกลียดชัง” กำลังถูกจัดตั้งแรงขึ้นๆทุกขณะ เกลียดอำมาตย์ต้องเลือกส้มหรือแดง เกลียดคนโกง คนชังชาติต้องเลือกลุง จงเลือกเดี๋ยวนี้ว่าจะเกลียดอะไรดี? ส่วนเลือกแล้วมันจะบริหารบ้านเมืองไปอย่างไรได้หรือไม่นั้น เอาไว้ว่ากันทีหลัง...ยังไงๆพวกกูต้องไม่แพ้ก็แล้วกัน..ไอ้สัดด ความเกลียดชังที่เป็นเหมือนไฟสุมอยู่ในหีบเลือกตั้งเช่นนี้ พ้นเลือกตั้งแล้ว เราจะทำอย่างไรไม่ให้มันลุกลามเผาบ้านเผาเมืองต่อไป นี่คือคำถามที่ผมขอตอบว่ามี “๓อย่า “ ด้วยกันคือ
๑.อย่างี่เง่า
ถาม ใครครับที่ไม่มีสิทธิงี่เง่า
ตอบ คณะกรรมการการเลือกตั้งครับ น้ำมันถังแรกที่จะราดลงไปในไฟเลือกตั้งกองนี้คือการโกงเลือกตั้ง ถ้าแผนจัดการไม่รัดกุมพอก็เกิดเรื่องขึ้นได้ทั้งนั้น ทั้งการจัดการบัตรเลือกตั้ง การนับคะแนน การให้ใบเหลืองใบแดง มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นอะไรที่พอให้อุ่นใจได้เลย
ส่วนการลามปามไปถึงขั้นฟ้องยุบพรรค อย่างที่มีคนลุ้นกันอยู่ ก็จะยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าคดีไม่ชัดแจ้งจริงๆอย่าขยับเป็นดีที่สุด กล่าวโทษใช้คดีอาญาลงโทษบุคคล ก็พอแก่การแล้ว
๒.อย่าดึงดัน
ถาม ใครไม่มีสิทธิดึงดันจะเป็นรัฐบาลให้ได้
ตอบ ก็ ๓ ป.นั่นแหละครับ ถ้าเสียงไม่ถึงก็อย่าดื้อดึงจะเป็นนายกฯด้วยเสียงวุฒิสมาชิก เป็นอันขาด ประท้วงเต็มถนนทั้งประเทศแน่นอนทั้งส้มทั้งแดง แค่ดื้อมาลงเลือกตั้งคราวนี้ ก็ผลักคนไปลงคะแนนฟรีๆ ให้ส้มกับแดงไปมากมายแล้ว
๓.อย่าเฉไฉ
ถาม ใครที่จะเฉไฉ ไปไม่เป็น
ตอบ ผมมองที่ก้าวไกลว่า ถ้าชนะเลือกตั้งถล่มทลายจริงๆแล้ว เขาจะไปในอนาคตได้อย่างไร กระแสก้าวหน้าของเขามีธาตุต่อสู้ กร้าวร้าวสูง ทั้งในพรรคและนอกพรรค ส่วนอีกสองธาตุอันจำเป็นนั้นยังมีน้อยมาก ทั้งธาตุความคิดที่จะช่วยชี้นำ ขบวนการ และธาตุบริหารจัดการที่จะทำงานจริงบนพื้นดิน งานเลือกตั้งครั้งนี้เขาชนะได้เสียงจากความเบื่อหน่ายเกลียดชังเท่านั้น ได้เป็นรัฐบาลเมื่อใดมันยังมีอะไรที่เขาต้องเริ่มเอาชนะให้ได้ และยากมากๆ
ถาม ขอสามข้อหลักๆ ครับ
ตอบ ข้อแรกก็เป็นการเมืองภายใน ที่ดูแล้วไม่เห็นผู้นำจริงๆปรากฏอยู่ เป็นคนที่จะนำได้ทั้งในพรรค ในสภา และในรัฐบาล และที่สำคัญคือการประสานกับกลุ่มแนวร่วมนอกสภาที่ชูสามนิ้วจนนิ้วล็อคแล้ว ทั้งหมดนี้ฮิตเลอร์ทำได้ ทักษิณทำได้ แต่ก้าวไกลจะทำได้ไหม ทำไม่ได้ก็แตกเละเทะแน่นอน
ถาม ข้อสองคืออะไร
ตอบ งานเป็นรัฐบาลมันเป็นงานส่วนรวม ต้องให้ความเข้าใจและขอความเข้าใจ ต้องร่วมมือกับเขาและขอเขาร่วมมือกับเรา จะเอาชนะแบบในสนามเลือกตั้งไม่ได้ ส่วนเรื่องที่โฆษณาหาเสียงไว้จะแก้กฎหมายโน่นนี่นั่นนั้น ที่เป็นงานรัฐบาลจริงๆก็คือ การเลือกตั้งผู้ว่าทั้งประเทศ กับเลิกเกณฑ์ทหาร สองงานนี้มันไม่ใช่แค่ออกกฎหมายเท่านั้น ต้องสร้างกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จ ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่เห็นความรู้จักคิดปรากฏอยู่เลย
ถาม ขอข้อสุดท้ายครับ
ตอบ คือ “ความไว้วางใจ” ของประชาชนเป็นส่วนรวม พวกเขาต้องเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคนให้ได้ ไม่ว่าคนไทยคนนั้นกลุ่มนั้นจะะอายุเท่าใด จะชอบหรือจะเกลียดคุณสักเท่าใดก็ตาม
ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาจะต้องเลิกทำอะไรลับๆร่อๆกับฝูงทูตฝรั่งเหล่านั้นได้แล้ว อย่าลืมว่าหลังสงครามเวียตนามอเมริกามันทิ้งขว้างเรามาทีหนึ่งแล้ว ไทยจะต้องไม่มีความร่วมมือทางทหารกับนาโต้แปซิฟิก จนชักศึกเข้าบ้านให้ชิบหายวายป่วงอย่างเซเลนสกี้เป็นอันขาด
ถ้าบังอาจถึงขั้นนี้เมื่อใด จำไว้เลยว่า “มึงจะตกเป็นคนทรยศทันที ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือน 'ทักษิณ' มีบทบาทการเมืองมากเกิน จะกระทบภาวะผู้นำของ 'เศรษฐา'
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ยอมรับว่า สาเหตุที่ไปถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามความผิด ม.157 กรณีเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศั
เพื่อไทยอัด 'ปิยบุตร' เกินไปแล้ว ย้อนถามถ้า 'ชาญ' แพ้จะมีใครมาไล่บี้หรือไม่
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้วและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อว
ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 30: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475)
ผู้เขียนขอหยิบยกรายงานจากสถานทูตอื่นๆที่มีต่อเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองต่อจากตอนที่แล้ว โดยผู้เขียนได้คัดลอกมาจากหนังสือ
'ปิยบุตร' ดักคอพรรคจ้องดูด สส.งูเห่า เอาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเสถียรภาพรัฐบาล
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สัดส่วนพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมนัดแรก
'อนาคตไกล' คลี่ปม 'ลุงชาญ' กรณีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
“อนาคตไกล” คลายปม “ชาญ พวงเพ็ชร”การสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นดุลพินิจของศาล คำชี้ขาดคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ผูกพันองค์กรอื่น
'บิ๊กป้อม' เปิดบ้านป่ารอยต่อ คุย สส.พปชร. ย้ำทำหน้าที่ กมธ.งบ 68 อย่างรอบคอบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค