'พปชร.' กัดไม่ปล่อย!จี้ กกต. เร่งรับร้องเรียนปม พท.แจกเงินดิจิทัล ซัดประชานิยมสุดโต่งจะเกิดผลเสียตามมา เข้าข่ายฝ่าฝืน พรป.สส. เหตุหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม
28 เม.ย.2566 - ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจกรรมและการปราศรัยหาเสียง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายจะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้คนที่ไทยเป็นเงิน 560,000 ล้านบาทว่า ตอนนี้หลายฝ่ายได้ไปยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยแล้ว เนื่องจากมีประเด็นทางข้อกฎหมายอีกหลายข้อ สอดคล้องกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ยืนยันเลยว่า เงินดิจิทัลภาคประชาชนยังอยู่ในช่วงทดลองศึกษา โดยไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบ ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายพรรค พปชร. อดีต รมว.คลัง และอดีตรองผู้ว่า ธปท. ก็ออกมาให้ความเห็นว่า นโยบายนี้จะเข้าข่ายพ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่งธปท. เป็นองค์เดียวที่มีอำนาจในการออกเงินตราได้ นอกจากนี้ เหรียญดิจิทัลจะออกแบบให้เป็นบล็อกเชน โดยมีการเก็บข้อมูลในการใช้จ่ายของผู้ใช้ จำนวนมากถึง 54 ล้านคนโดยที่ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน จึงมีความเสี่ยงที่จะรั่วไหล และถ้าเกิดรั่วไหลขึ้นมาจะเป็นอันตรายต่อประชาชน
นายวิรัช กล่าวว่า การประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทยควรคำนึงถึงความเป็นไปได้ในข้อกฎหมายด้วย เพราะเงินดิจิทัลจะถูกนำไปตีความในพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 ซึ่งจะเป็นอุปสรรคและเป็นประเด็นที่ควรจะต้องมีการปรึกษาเพื่อจะหาทางออกให้เรียบร้อยก่อน และยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า จะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 (5) ฐานเป็นผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือ บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดด้วยวิธีการหลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือไม่ อีกด้วย
“ผมมองว่า นโยบายแจกเงินดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยหวังใช้เป็นกลยุทธ์ในการหาเสียงมากกว่า เหมือนแนวประชานิยมสุดโต่ง แจกเงิน หวังมัดใจคนไทยเพื่อออกไปเทคะแนนให้กับพรรคตัวเอง แต่ผมเชื่อว่า จะเกิดผลเสียตามมาในอนาคตแน่นอน เพราะเริ่มต้นก็สอนให้ประชาชนเคยชินแบมือขอจากรัฐ แทนที่จะสอนให้ประชาชนสามารถจับปลาได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดความมั่นคงของเศรษฐกิจในประเทศ คนไทยมีวิจารณญาณเพียงพอที่จะเลือกผ้แทนด้วยตัวเอง สามารถ คิด วิเคราะห์ แยกแยะได้ว่า นโยบายสร้างฝันเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จริง หรือเป็นเพียงวาทกรรมในช่วงหาเสียงเท่านั้น"นายวิรัช กล่าว
นายวิรัช กล่าวว่า กกต.ต้องเร่งรับเรื่องร้องเรียน เพราะเงินดิจิทัลที่พรรคเพื่อไทยจะแจกนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ เพราะเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 มาตรา 6 มาตรา 9 และมีโทษตามมาตรา 35 หรือไม่ โดย กกต.ต้องเร่งรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวโดยด่วนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
รมว.คลังนัดแบงก์ชาติถกกรอบเงินเฟ้อบ่ายนี้
รายงานข่าวระบุว่า ช่วงบ่ายวันนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีนัดหมายกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ
'อดีตพิราบขาว'ยื่น กกต. สอบ 'แพทองธาร' ปมตั้ง 'สมศักดิ์-ณัฐวุฒิ' ไม่ซื่อสัตย์สุจริต-เคยต้องโทษ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 เดินทางมายื่นหนังสือคำร้อง
'อัษฎางค์' ยกตัวออย่างเห็นภาพแทรกแซงธนาคารกลาง = หายนะ
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก #ประชานิยม + #การแทรกแซงธนาคารกลาง = #หายนะ เมื่อฝ่ายการเมืองคิดจะใช้นโยบายประชานิยม
'พิชัย' จ่อคุย 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' หลายเรื่อง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการนัดหารือกั
'ทนายอั๋น' ทวงถามกกต.ปมคุณสมบัติ 'หมอเกศ' 'สนธิญา' ลั่นหากไม่คืบร้องป.ป.ช.ฟันกกต.
'ทนายอั๋น' ทวงถามกกต.ปมขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ 'หมอเกศ' หลังเรื่องเงียบ จี้กกต.ออกมาชี้แจง ขู่ฟ้องกกต.กรณีขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย แต่เรื่องไม่คืบ ด้าน 'สนธิญา' ให้เวลา 2 เดือนสอบปม 'หมอเกศ' หากไม่คืบเตรียมร้องป.ป.ช. ฟันกกต.