'เอกนัฎ' คุยโขมง 'รทสช.' งัดเทคนิคเฉพาะหาเสียง ปลื้มชาวบ้านหนุนลุงตู่ใจต่อใจ

“เอกนัฏ” ลุยช่วย ผู้สมัคร ส.ส.เขตคันนายาว-บึงกุ่ม หาเสียง -​ รับฟังปัญหาปชช.  ปลื้มกระแสตอบรับ หนุนลุงตู่แบบใจต่อใจ

26 มี.ค.2566 –  ที่สวนเสรีไทยเขตบึงกุ่ม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ( รทสช.) และนายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรคลงพื้นที่ช่วย น.ส.กาญจนา ภวัครานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบึงกุ่ม คันนายาว หาเสียงพบปะประชาชน โดยเดินทักทายแนะนำตัวผู้สมัครกับประชาชนที่มาเดินออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะเสรีไทย ก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงไปตามเส้นทางหลัก ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่มายืนรอต้อนรับ บางส่วนก็โบกมือให้กำลังใจ และไปเดินหาเสียงที่ตลาดเช้าหมู่บ้านสหกรณ์ รับฟังปัญหาข้อเสนอแนะจากประชาชน เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขหากได้เป็นรัฐบาล ซึ่งในเขตนี้ประชาชนให้การต้อนรับดีมาก หนุนลุงตู่แบบใจต่อใจ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า งานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส .400 เขตทั่วประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความพร้อมเพรียงอย่างเต็ม 100% ของว่าที่ผู้สมัครทุกคนตั้งแต่ตนทำงานด้านการเมืองมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ทุกคนที่มีจิตอาสาจะมาทำงานเพื่อส่วนรวมไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก็ตั้งใจที่จะมารวมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งทางพรรคเองก็ได้มีการประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โดยเป็นการลงมติเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารพรรคในคืนก่อนมีการจัดเวที โดย พลเอกประยุทธ์ได้กล่าวบนเวทีว่า รู้สึกอบอุ่นเพราะมีผู้ที่อยู่ร่วมบนเวทีที่จะต่อสู้ไปด้วยกันอีก 400 คนรวมทั้งสมาชิกอื่นๆอีกทั่วประเทศทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ที่จะขับเคลื่อนภารกิจไปด้วยกัน

“ทุกครั้งที่พลเอกประยุทธ์เข้ามาที่พรรค ผมเห็นท่านอารมณ์ดีทุกวันและท่านก็ยังพูดบนเวทีว่า ก่อนหน้านี้เวลาท่านขึ้นพูดท่านขึ้นเดี่ยว แต่ว่าวันนี้ท่านไม่โดดเดี่ยวเดียวดายแล้วเพราะว่า บนเวทีมีว่าที่ผู้สมัครส.ส.อีก 400 คน ที่จะขับเคลื่อนภารกิจไปด้วยกัน ซึ่งนับได้ว่าเวทีเปิดตัวเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเวทีแถลงข่าวที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่พรรครวมไทยสร้างชาติก่อตั้งมา เพราะไม่ใช่แค่ พลเอกประยุทธ์ นายพีระพันธุ์หรือแค่ผม เท่านั้นแต่ยังมีว่าที่ผู้สมัครส.ส. ผู้บริหารและสมาชิกพรรค ทีมเศรษฐกิจของพรรคที่เพิ่งได้เปิดตัวไปนับว่าเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่และอบอุ่นที่สุดครั้งหนึ่ง” นายเอกนัฏ กล่าว

เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการหาเสียงของว่าที่ผู้สมัครส.ส. ทั้ง 400 คนของพรรคนั้น แนวทางสำคัญคือ ความตั้งใจจริง ตนเองพูดเสมอว่าการจะมาทำงานเพื่อส่วนรวมจะต้องมาจากจิตวิญญาณ ที่อยากจะเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองเพราะเห็นปัญหาของส่วนรวมมากกว่าปัญหาของตัวเองและเสนอตัวเข้ามาที่จะช่วยแก้ไข ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุด รวมกับความขยันที่จะลงพบปะประชาชน ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการหาเสียงที่ดี

“ ส่วนเทคนิคของแต่ละคนถือเป็นบุคลิกส่วนตัวที่แตกต่างกันไป โดยขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติไม่ได้เซ็ตวิธีว่าทุกคนจะต้องมีวิธีการหาเสียงที่เหมือนกัน พรรครวมไทยสร้างชาติให้อิสระกับผู้สมัครทุกคนในการหาเสียงไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดก็ตาม ภายใต้กรอบหลักที่ได้แนะนำไปคือขอให้เริ่มต้นจากจิตใจที่มีความตั้งใจจริงในการทำเพื่อส่วนรวม ซึ่งเป็นแนวทางหาเสียงที่สำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ” นายเอกนัฏ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อรรถวิชช์' แจงปม 'เอกนัฏ' ให้ปากคำคดีทักษิณ ผิด ม.112 ไปตามหมายเรียกช่วงต้นปี ไม่ใช่เวลานี้

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าว นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. เป็นผู้ให้ปากคำในคดี 112 ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ชี้เปรี้ยง 'ทักษิณ' หลงประเด็น อ้างแพ้เลือกตั้งเพราะ 'อิ๊งค์' ลาคลอด 10 วัน

ทำไมการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 พรรคเพื่อไทยจึงไม่ชนะเป็นที่1 คุณทักษิณได้อธิบายเหตุผลว่า การแพ้เลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกล เมื่อการเลือกตั้ง เมื่อ

รู้แล้วบอกต่อ 'ทักษิณ' อ้างเหตุนี้ ทำเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งก้าวไกล

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้วย ซึ่งเป็นงานแรกที่นายทักษิณขึ้นพูดหลังจากเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ

'ทักษิณ' มั่นใจ 100% 'นายกฯอิ๊งค์' ไม่โดนรัฐประหาร ตั้งตัวเป็น 'สทร.' ลั่นสบายมากสู้คดี 112

'ทักษิณ' มั่นใจไม่เกิดรัฐประหาร 'นายกฯ อิ๊งค์' 100% พร้อมตั้งตำแหน่ง 'สทร.' ช่วยลูก เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า 'เพื่อไทย' กลับมาชนะ ให้สิทธิ์พรรคมิตรเก่าร่วมรัฐบาลก่อน ลั่นสบายมากสู้คดี 112

รทสช. ส่ง 'เอกนัฏ' นั่ง รมว.อุตสาหกรรม 'พีระพันธุ์-สุชาติ' ตำแหน่งเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ล่าสุดโผรัฐมนตรีในส่วนของพรรค