แกนนำเพื่อไทย ลั่น 310 เสียงแลนด์สไลด์เป็นไปได้ มั่นใจมากหลังเลือกตั้ง ได้เป็นฝ่ายรัฐบาล

26 มี.. 2566 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น โดยได้แสดงความเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เพราะพรรคเพื่อไทยเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งมานานแล้ว ซึ่งช่วง8-9 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ประชาชนเจอกับปัญหาความยากลำบากต่างๆ ทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายสิ่งที่คุณประยุทธ์ทำอยู่ จนสะท้อนออกมาชัดเจนว่าประชาชนไม่อยากให้คุณประยุทธ์อยู่บริหารประเทศต่อไป โดยมีเสียงสะท้อนมาจากคนหลายวิชาชีพว่าเขาอยากออกจากระบอบประยุทธ์แล้ว ไม่อยากอยู่กับระบอบประยุทธ์ จึงเป็นสถานการณ์ที่คนต้องการความเปลี่ยนแปลง ประชาชนอยากเปลี่ยนแปลงสภาพแบบที่เจอตอนนี้ เขาอยากมีความหวัง คนกำลังคาดหวังกับอนาคต และอยากสร้างสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้น

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวต่อไปว่า เมื่อคนต้องการความเปลี่ยนแปลง ในวันนี้เมื่อเขามองไปที่พรรคการเมืองต่างๆ เขาก็รู้ว่าระบบประยุทธ์มีการวางระบบในการสืบทอดเพื่อจะครองอำนาจไว้แบบยาวนาน ทั้งการเขียนกติกา การวางกลไกสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ที่จะช่วยพยุงให้เขาอยู่ในอำนาจต่อไป ประชาชนเขาอยากเปลี่ยนแปลง และเขาก็รู้ว่าการจะเปลี่ยนแปลงเพื่อออกจากระบอบประยุทธ์จะได้มีการสร้างสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้น มันยากลำบาก และเมื่อเขาหันไปดูพรรคการเมืองที่จะมีส่วนทำให้ความฝันของพี่น้องประชาชนเป็นจริง ทำให้อนาคตของพวกเขาเกิดขึ้นได้จริง มันเหลือแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น มีเพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่สื่อมวลชนเห็นตั้งแต่ต้นว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.ระบบเขตและคะแนนจากระบบบัญชีรายชื่อ เขาประเมินเราอยู่ที่ 180 บวก 40 เสียง ก็ประมาณ 220 เสียงบวก-ลบ

เงื่อนไขเหล่านี้เอื้ออำนวยกับพรรคเพื่อไทยมากว่า เราเป็นความหวังของสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ การที่จะมาสนับสนุนทิศทางเรา จะเป็นทิศทางที่สามารถทำให้ออกจากระบอบประยุทธ์ได้ สามารถต่อกรกับสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงได้ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะออกจากระบอบประยุทธ์ไม่ได้ คุณประยุทธ์ก็จะวางกลไกสืบทอดอำนาจได้ต่อไป 

นายภูมิธรรม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า เพื่อไทยคือพรรคการเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุด โดยเรื่องของยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง วันนี้สิ่งที่ประชาชนเข้าใจมากขึ้น ก็คือ วันนี้หัวใจสำคัญก็คือประชาชนต้องการออกจากระบอบประยุทธ์ การที่จะออกจากระบอบประยุทธ์ได้มีเพียงพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทย ที่สามารถเป็นกลไกและเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ประชาชนออกจากระบอบประยุทธ์ได้  วันนี้พรรคเพื่อไทยเดินยุทธศาสตร์ในการให้ประชาชน เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น 

“ เราเรียกร้อง 310 เสียง เราไม่ได้เรียกร้องเพราะเรากระหายอำนาจ แต่มันเป็นหนทางเดียวที่จะสู้กันในระบอบรัฐสภา ที่จะสามารถต่อกรกับสว.250 คน ที่สามารถไปปิดสวิตช์สว.ได้ และเป็นเราที่จะเป็นเครื่องมือในระบอบประชาธิปไตยที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ ลำพังเรา ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น วันนี้เราเรียกร้อง ประชาชนให้มาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยใช้สิทธิที่มีอยู่ในมือ กาบัตรสองใบ เลือกเพื่อไทยทั้งคนและพรรค เราจะสามารถบรรลุ 310 เสียง เพื่อนำไปสู่ 310 เสียงบวกบวก  จนสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในประเทศในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ วันนี้หากไม่เลือกให้ชัดเจนแบบมียุทธศาสตร์ แล้วเลือกไปตามอำเภอใจที่อยากได้ แน่นอนมันตอบสนองความรู้สึกที่ผูกพันกับบางพรรคการเมืองของแต่ละคน แต่คะแนนของท่าน อาจหล่นลงน้ำไม่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆได้ วันนี้ต้องเลือกด้วยเหตุผล ไม่ใช่เลือกด้วยความรู้สึกหรืออารมณ์”รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุ  

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า ที่บอกว่าเลือกพรรคเพื่อไทยให้ได้ 310 เสียง หากถามว่าทำได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องของความเชื่อ ที่มีฐานรากจากความเป็นจริง วันนี้พรรคอื่นสตาร์ทอยู่ที่ 30-40 เสียงหรือ 70 เสียง หรือจะถึง100 เสียงหรือไม่ หรือจะได้เกิน 100 เสียงหรือไม่ แต่เพื่อไทยวันนี้สตาร์ทที่ 180 เสียงบวก 40 เสียง เป็นความเชื่อของสื่อที่ดูจากรูปธรรมของพื้นที่ซึ่งเรามีอยู่ในภาคต่างๆ และประเมินว่าเราจะได้ประมาณเท่าใด ก็อาจประมาณ 220-230เสียง บวก-ลบ ต้นทุนเราอยู่ที่ 200 เสียงขึ้นไป เราไม่ได้ตั้งเป้าเกินเลย เราตั้งเป้าที่ 250 เสียงบวก  เพราะเราคิดว่าถ้าเรามีแนวทางที่ถูกต้อง สามารถเดินยุทธศาสตร์การเลือกตั้งให้ประชาชนพึงพอใจ การก้าวจาก 220-230 เสียงไปที่ 250 เสียง มันไม่ได้ยากอะไร หากถามว่าทำไมเพื่อไทยมั่นใจจาก 250 เสียง แล้วขึ้นมา 310 เสียง  ก็เพราะดูจากความพร้อมที่มีอยู่ พรรคมีผู้สมัครส.ส.ระบบเขตที่พร้อมทั้ง 400 เขต หลายเขตในภาคเหนือ อีสาน เป็นเขตพื้นฐานของเรา และหลายเขตที่เราเคยสูญเสียไป แต่เป็นฐานเก่าของเรา วันนี้น่าจะสามารถดึงกลับมาได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและกระแสความนิยมจากพี่น้องประชาชน

นายภูมิธรรมกล่าวต่อไปว่า พอเราตั้งมาที่ 310 เสียง ก็ทำให้เป็นเหตุให้ชัดเจนว่า เราจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ที่จะเอานโยบายของเราไปดำเนินการได้ หรือเราจะเป็นพรรคหลักที่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ เพราะหากใครจะร่วมมือกับเรา ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย หรือใครก็ตามที่จะร่วมมือกับเรา ก็ต้องยอมรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะนำมาทำงาน วันนี้ 310 เสียง เราดูจากความเป็นจริง เรายังไม่ได้ทำโพลเลย เราคิดว่าเราไปถึงได้ เราขอ 310 บวกบวก ความสำเร็จของการฝัน ไม่ใช่ว่าฝันอยากได้โน้น ฝันอยากได้นี่ ก็ฝันได้หมด แต่ขึ้นอยู่ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ที่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นความฝันที่สอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ วันนี้เราเรียกร้อง 310 เสียง ประชาชนไม่ตั้งคำถาม แต่หากบางพรรคมาบอกว่าจะได้ 310 เสียง ประชาชนเขาไม่เชื่อ ทำไมประชาชนเชื่อเพื่อไทย เพราะเพื่อไทยเคยทำได้ 377 เสียงมาแล้ว บางคนอาจบอกว่าที่เราเคยได้ตอนนั้น แต่ปัจจุบันสถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว แต่เพื่อไทยไม่เคยมีข้อจำกัดเรื่องสถานการณ์ เราเชื่อว่าการเมืองคือเรื่องความสามารถ และความพยายามในการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราพิสูจน์มาแล้ว หลายเรื่องเช่น 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน-หมู่บ้านละหนึ่งล้านบาท หรือชัยชนะอย่างเด็ดขาดที่ทำให้ตั้งรัฐบาลได้เพียงพรรคเดียว เพราะเราชื่อและเราทำมาแล้ว 

ถามย้ำว่า จนถึงวันนี้ยังมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้งจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะท่าทีของสว.บางส่วนก็ยังบอกว่าอาจจะไม่โหวตเลือกนายกฯจากเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวตอบว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะวันนี้เราไม่ได้พึ่งสว.แต่เราพึ่งประชาชน เราขอ 310 เสียงบวกบวก คือเราพึ่งประชาชน และผมยังเชื่อว่าสว.เขา ก็ต้องตัดสินใจบนการตัดสินใจของประชาชน เราจะได้เท่าไหร่เรายังตอบไม่ได้ แต่เราไม่เคยวางตรงนี้ไว้เป็นหลัก เพราะเราวางที่ประชาชนเป็นหลัก ถ้าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง และประชาชนพร้อมนำการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเป็นเครื่องมือ เป็นกลไกให้ และเราเชื่อว่าเราจะปลดล็อกสว.ได้ และเราจะเป็นรัฐบาลได้ 

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวต่อไปว่า วันนี้คนที่ถามพรรคเพื่อไทยในแบบเดิมๆว่า พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพลังประชารัฐหรือไม่ จะจับมือกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ จะจับมือกับคนนั้น คนนี้หรือไม่ เป็นการคิดในมิติเดิมๆ แบบการเมืองเก่า เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดแบบนี้เลย วันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะตอบ เราอยากได้ 310เสียงบวก จริงๆ เราอยากได้พรรคเดียวที่จะมีกำลังการต่อรอง การเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น วันนี้ที่คอยมาถามเราว่าเราจะจับมือกับใคร ซึ่งถ้าเราบอกว่าเราจะจับมือกับใคร แสดงว่าเรายอมรับว่าเราไปไม่ถึงฝัน แต่วันนี้เราเชื่อว่าเราไปถึงฝัน วันนี้เราจึงมุ่งหน้าสู่แลนด์สไลด์ 310 เสียง บวก up-up  วันนี้ไม่คิดจะจับมือกับพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ไม่คิดจะจับมือกับพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเลย วันนี้เราใช้ตัวเราเป็นตัวหลัก ถ้าจะมีเพิ่มเติมก็เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่เคยเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกันมาหกพรรคเหมือนเดิม แล้วถ้าจะเป็นอะไรนอกเหนือกว่านี้ การเมืองต้องไปทีละสเต็ป การฝันถึงอะไรที่เกินเลยจากความเป็นจริง ทางการเมืองเขาเรียกว่า ฝันลมลม แล้งแล้ง มันไม่มีประโยชน์ 

“ผมเชื่อมั่นว่าเราได้ คราวนี้เรามีโอกาสมากที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาล”รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุ  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ไม่ขีดเส้นตาย 'ทัพเรือ' ชี้แจงเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำเป็นของจีน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำ หลังสั่งการให้กองทัพเรือไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม ในกรณีที่ต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ CHD620 ของจีน และการขยายสัญญา 1,217 วัน

ครม. ไฟเขียววันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ปี 2568-2569

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2568 และปี 2569 โดย 1.กำหนดให้วันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. 2568 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติม

'รองอ้วน' เมินกระแสต้าน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ดแบงค์ชาติ อ้างเป็นไปตามข้อกฎหมาย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่าคณะกรรมการคัดเลื

'ภูมิธรรม' เชื่อ​ ปม 'เขากระโดง' ​ไม่สร้างขัดแย้ง 'เพื่อไทย-ภูมิใจ​ไทย' ว่าไปตามกฎหมาย

ที่ทำเนียบนายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึงกรณี นายสุริยะ​ จึงรุ่งเรือ

'ภูมิธรรม' แบ่งงาน 'บิ๊กแป๊ะ-บิ๊กรอย-สุรสิทธิ์-ธิติรัฐ' ลุยงานมั่นคง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้นำนายธิติรัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ