'ชลน่าน-เศรษฐา' ตอบปมทักษิณประกาศจะกลับมาติดคุก หลัง 'อุ๊งอิ๊ง' รูดซิปปาก


“ชลน่าน” ปัดพัลวัน “ทักษิณ” ข้องเกี่ยว พท. ชี้ เป็นความเห็นส่วนตัว หลังเปรยจะกลับไทยมาติดคุก “เศรษฐา” บอกเห็นใจอยู่ต่างประเทศนานคิดถึงบ้านเกิด เชื่อไม่กระทบแลนด์สไลด์

25 มี.ค.2566 - ที่สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พร้อมที่จะกลับไปรับโทษจำคุกในประเทศไทย หากได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะออกมาเป็นอย่างไร ว่าเท่าที่ตนได้ฟังเป็นการแสดงความคิดเห็นของนายทักษิณ ฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่มีความประสงค์จะกลับบ้านเกิด และนายทักษิณใช้คำว่าติดคุกมา 16 ปี และยินดีที่จะมาติดคุกกลับเมืองไทย เพราะต้องการจะมาอยู่ใกล้ลูก ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นของตัวท่านเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค

เมื่อถามว่า มองการโจมตีของพรรคการเมืองอื่นๆ ในกรณีที่นายทักษิณออกมาพูดในลักษณะนี้อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคก็พยายามหาจุดเด่นจุดด้อยของตัวเองและคู่แข่ง ฉะนั้นประเด็นอะไรที่เขาคิดว่าเป็นประโยชน์กับเขา เขาก็ย่อมหยิบยกขึ้นมา แต่โดยรวมนายทักษิณเอง เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนที่รักพรรค พท. ย้ำว่านายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค พท. เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพรรค พท. ดังนั้นความเชื่อความศรัทธา ของแต่ละคนก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน และขณะเดียวกันคนที่ไม่ชอบนายทักษิณ ก็มีเป็นธรรมดา และประเด็นเหล่านี้เราต้องเฝ้ามองว่าจะกระทบต่อพรรคเรา มากน้อยขนาดไหนเท่านั้นเอง

“ในมุมที่เขามาใส่ร้ายที่เกินขอบเขต ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราก็จะดูในมุมนั้น แต่ทั้งนี้มันคือมิติในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อย่าให้กระทบสิทธิ์ และข้อกฎหมายแต่ละพรรค” นพ.ชลน่าน กล่าว

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่า จะไม่ขอนิรโทษกรรมจากรัฐสภา แม้ว่าพรรค พท. จะชนะเลือกตั้งได้ครองเสียงข้างมากในสภาฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นความคิดของตัวนายทักษิณเอง ท่านบอกว่าถ้าท่านจะกลับมา ก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งนายทักษิณ ยินดีกลับเข้าสู่กระบวนการ ถ้านายทักษิณพูดแบบนั้น คงมั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นไปตามหลักนิติธรรม และมีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรค พท. ว่าจะต้องทำอะไร

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ฐานะที่ตนก็เป็นพ่อคนหนึ่ง ที่มีลูก 3 คน ก็เห็นใจนายทักษิณที่อยู่เมืองนอกมานาน และคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ขณะเดียวกันตนก็เคารพในกฎหมาย ซึ่งนายทักษิณได้แสดงความคิดเห็นออกมาว่า ตัวเองจะทำอย่างไรในอนาคต ตนก็เคารพการตัดสินใจของนายทักษิณ ส่วนจากกระทบต่อแลนด์สไลด์หรือไม่นั้น ตนมองเป็นความเห็นส่วนตัวของนายทักษิณ ซึ่งพรรค พท. ไม่ได้เกี่ยวข้อง มองว่านายทักษิณมีความเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหน้าที่ของพรรค ก็มีนโยบายดีๆ และส.ส.ที่พร้อมเสนอตัวให้กับประชาชน ฉะนั้นหน้าที่ของตัวเองและหัวหน้าพรรค ก็ลงพื้นที่เยอะขึ้นเพื่อกระจายนโยบาย และฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน

“การที่นายทักษิณออกมาพูด ผมเข้าใจว่าท่านไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นเงื่อนไข ทั้งผู้สมัครทั้งพรรคก็ดำเนินหน้าที่ของพรรคต่อไป อย่าเอาท่านมาเป็นประเด็น อย่าเอาท่านมาเป็นเงื่อนไข ของความขัดแย้ง หรือว่าการหาเสียงเลือกตั้ง เขาเป็นคุณพ่อที่รักครอบครัว เราให้ความเคารพ และเราก็เดินหน้าหาเสียงต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

'ทวี' ยันให้ข้อมูลความจริงที่ไม่มีกฎหมายห้าม ใครเห็นต่างก็หาหลักฐานมาหักล้าง ปมทักษิณชั้น 14

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร

'เด็จพี่' ได้ทีจวกเหล่านักร้อง ทำให้เกิดความปั่นป่วน ขู่เมื่อร้องผิดคีย์ต้องโดนลงโทษ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยอ้างว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้าง

2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ

จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ