“ดร.ณัฎฐ์” นักกฎหมายฯ สับแหลก “ไพศาล พืชมงคล” การตราพระราชกฤษฎีกายุบสภา ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี เหตุผลในการยุบสภาไม่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมกำหนด
13 มี.ค.2566 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม กฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณี นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "จับตาดูวันอังคารที่ 14 มีนาคม จะมีการเสนอยุบสภาต่อคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เรื่องการยุบสภาครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา" ว่าเท่าที่ติดตามข่าว นายไพศาล อ้างว่าเป็นกูรูกฎหมาย รู้ทุกเรื่อง ที่ไม่รู้คือ เรื่องของตัวเอง โพสต์ไปเรื่อง ทำให้ประชาชนสับสนในข้อเท็จจริงว่าเหตุผลในการยุบสภาตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี สามารถยุบสภาได้หรือไม่ ด้วยเหตุผลในการยุบสภาอย่างไร พระราชกฤษฎีกาจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ตนไม่เข้าใจว่า นักข่าวจะหยิบประเด็นนี้มานำเสนอข่าวไปทำไม ทำให้ประชาชนผู้สนใจทางการเมือง สับสน ทำให้นักการเมืองที่กำลังจะลงสนามเกิดความกลัว
ทำไมนายไพศาล ไม่เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.อยากรู้ว่าจะได้กี่คะแนน การให้ความเห็นทางกฎหมาย สามารถกระทำได้ หากเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประเทศชาติโดยรวม ผมไม่เคยรู้จักกับนายไพศาลมาก่อน แต่ติดตามจากข่าว ทำให้ต้องออกมาพูดให้ประชาชนตาสว่างและมุมมองกฎหมายมหาชน ซึ่งกลไกในระบบรัฐสภา และเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง รัฐธรรมนูญได้กำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนไว้แล้ว หากไม่ได้บัญญัติไว้ มาตรา 5 วรรคสอง เมื่อไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญใช้บังคับแก่กรณีใด ให้การกระทำนั้นตามประเพณีการปกครองของประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่าการยุบสภา เป็นเครื่องมือสำคัญ ใช้เป็นกลไกทางรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 103 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มีองค์ประกอบทางกฎหมาย 6 ประการ ดังนี้ ดังนี้ 1)การยุบสภาเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ แต่จะทรงใช้พระราชอำนาจนั้นได้ ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีเสนอเท่านั้น 2)การยุสภาต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา 3)การยุบสภาจะกระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียว 4)การยุบสภาจะมีได้เฉพาะก่อนสิ้นอายุสภาผู้แทนราษฎร 5)การยุบสภาทำให้สมาชิกสภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นลง รวมถึงคณะรัฐมนตรีด้วย 6)การยุบสภานำไปสู่การเลือกตั้งใหม่
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า อำนาจในการยุบสภา ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 103 วรรคหนึ่ง พระมหากษัตริย์จะทรงใช้พระราชอำนาจ ในการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่เป็นการทั่วไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาเท่านั้นถึงจะใช้พระราชอำนาจได้ การยุบสภาเป็นอำนาจนาจการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ แต่เพียงผู้เดียว เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน ไม่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรี เพราะผลทางกฎหมาย หากยุบสภา คณะรัฐมนตรีย่อมพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167(2)
ส่วนเครื่องมือทางกฎหมาย ฝ่ายบริหารจะต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกายุบสภา มีสถานะต่ำกว่าพระราชบัญญัติ โดยไม่ต้องขอมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ อีกประการหนึ่ง หากพล.อ.ประยุทธ์ฯ เลือกใช้ช่องทางโดยการแถลงข่าวด้วยวาจา โดยยุบสภาผู้แทนราษฎร ย่อมมีผลผูกพันตามกฎหมาย ส่งผลให้การยุบสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีพ้นทั้งคณะ แต่รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่มีข้อห้ามบางประการ
ตามที่นายไพศาล อ้างว่า การตราพระราชกฤษฎีกา คณะรัฐมนตรีจึงต้องมีมติ(เห็นชอบร่วมกัน)ให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อขอพระบรมราชโองการให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา นายไพศาล นักกฎหมาย เข้าใจระดับชั้นของการของกฎหมายและกระบวนตรากฎหมายในระดับชั้นพระราชกฤษฎีกาหรือไม่ การยุบสภาโดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ไม่จำต้องผ่านเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพราะเป็นชั้นความลับ
จะให้เห็นภาพได้ชัดเจน กรณีร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงแรงงาน ถูกปลดจากตำแหน่งโดยนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 171 ไม่เห็นต้องไปขอคำปรึกษารัฐมนตรีรายใด ทั้งการยุบสภาไม่ใช่เป็นการตราพระราชกำหนดอันเนื่องความจำเป็นเร่งด่วน ภัยพิบัติของประเทศ ถือว่าเป็นกลไกลระบบรัฐสภา โดยรัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับที่เขียนไว้ รวมถึงฉบับปัจจุบันนี้ด้วย
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่าส่วนเหตุผลในการยุบสภา ในรัฐธรรมนูญมาตรา 103 วรรคสอง หาได้มีบัญญัติแห่งกฎหมายใดบัญญัติไว้ไม่ จึงต้องเป็นไปตามประเพณีการปกครองของประเทศไทย ตลอดจนถึงสภาวการณ์ของประเทศในบริบทขณะนั้น ตนจะยกตัวอย่างเหตุผลในการยุบสภาให้นายไพศาล และพี่น้องประชาชนเห็นให้ชัดแจ้ง จะได้ไม่สับสบในปัญหาข้อกฎหมาย
ยกตัวอย่าง 1)เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2538ส มัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี อ้างเหตุผลในการยุบสภาเพราะเหตุขัดแย้งภายในรัฐบาล
2)เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2543 รัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี อ้างเหตุผลในการยุบสภาเพราะปฎิบัติภารกิจตามเป้าหมายเสร็จแล้ว เหตุผลที่ยกตัวอย่างของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะในครั้งหลัง ท่านใช้เหตุผลในการยุบสภาและวันยุบสภาใกล้ครบอายุรัฐบาล ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
เท่าที่ตนติดตามข่าว เห็นนายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายและนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย พยายามตีกินทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนหลักการของกฎหมาย ทำให้สังคมสับสน ว่าเหตุผลในการยุบสภาไม่มีแล้ว ตกเป็นโมฆะ เวลานายไพศาลและนายสมชัย อ่านรัฐธรรมนูญ อ่านไม่ครบทุกมาตรา โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 175 เป็นพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ในการตราพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย เป็นการยับยั้งอำนาจฝ่ายบริหาร เป็นกลไกระบบรัฐสภา เป็นกระบวนการกลั่นกรองก่อนลงนามพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์
"ถามกลับนายไพศาล และนายสมชั สมัยนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ไม่เห็นใครไปคัดค้านเลยว่า เหตุผลในการยุบสภาตกเป็นโมฆะ เท่าที่ติดตามข่าว ผมเห็นมีเหตุผลเดียว คือ ดิสเครดิสทางการเมือง พรรคการเมืองที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปสังกัดเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผมขอท้าดีเบตรัฐธรรมนูญประเด็นยุบสภากับเหตุผลในการยุบสภากับนายไพศาลและนายสมชัย มาพร้อมกันทั้งสองคนเลย ผมไม่เกี่ยง ทีวีช่องไหน วันเวลาใด ให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนช่วยแชร์ข่าวให้ถึงนายไพศาลและนายสมชัยด้วย ขอย้ำว่า เหตุผลในการยุบสภา รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติเหตุการณ์ไว้ พล.อ.ประยุทธ์ฯ นายกรัฐมนตรี สามารถอ้างเหตุผลในการยุบสภาตามบริบทสภาวการณ์ของประเทศในขณะนี้ได้"
นักกฎหมายผู้นี้ กล่าวด้วยว่าส่วนในกรณีนายไพศาล อ้างว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแถลงต่อว่า การประชุมที่ผ่านมายังไม่มีการพิจารณาเรื่องยุบสภา เท่าที่ติดตามข่าว นักข่าวถามเรื่องวันยุบสภา นายวิษณุฯ ก็ตอบคำถามถูกต้องแล้ว เพราะการกำหนดวันยุบสภาและเหตุผลในการยุบสภา เป็นความลับและเป็นดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำต้องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ พูดภาษาชาวบ้าน คือ เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี โดยวันยุบสภาและเหตุผลในการยุบสภาไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพราะการยุบสภา มีผลทำให้คณะรัฐมนตรีสิ้นสภาพตามมาตรา 170
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
มองต่างมุม 'ดร.ณัฏฐ์' เชื่อศาลรธน.ตีตกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างฯ
สืบเนื่องจากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น เพื่อวินิจฉัยสั่งการให้ นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกการก
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง