'นฤมล' แจงพลังปรารัฐไม่มีดีลลับกับพรรคเพื่อไทย เพราะส่งชิงเก้าอี้ในทุกพื้นที่ แต่ระบุมีจุดยืนทำงานร่วมกับทุกพรรคได้ เพราะต้องการก้าวข้าวความขัดแย้ง!
01 มี.ค.2566 - นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายของพรรคในพื้นที่กรุงเทพมหานครสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า จากการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐได้ 12 ที่นั่ง ถือว่าเกิน 1 ใน 3 โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคมีเป้าหมายรักษาที่นั่งเดิมให้ได้ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ของพื้นที่ กทม. ที่มีลักษณะแตกต่างกับพื้นที่อื่น ประชากรอาจไม่ได้ตัดสินใจเลือกผู้สมัครที่นโยบาย อาจตัดสินใจที่ตัวผู้สมัคร หรือจุดยืนของพรรคการเมือง ดังนั้น ในส่วนของพรรคมีนโยบายที่ต้องการทำให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดัก หลุดจากความเป็นขั้วทางการเมืองที่ทะเลาะกันมาร่วม 20 ปี ที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ มักเปิดโอกาสให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสมอ แต่การให้โอกาสกลับกลายเป็นความขัดแย้งขึ้นมาอีก แต่สำหรับพรรค พปชร. เราต้องการทำงานเพื่อประชาชน ไม่ต้องการทะเลาะกับใคร ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร
นางนฤมล กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวการจับขั้วทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยนั้น พปชร.ไม่มีการเปิดดีลกับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคการเมืองอื่น กระแสข่าวที่ออกมาเป็นการคาดการณ์ของคนนอก ยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใดมาพูดคุยกันล่วงหน้า เพราะต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ถ้าเกิดมีการจับมือกัน คงต้องมีการหลบเลี่ยง ให้กันในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ แต่พรรคส่งผู้สมัครลงสู้ทุกเขต อย่างเช่น พื้นที่ในภาคอีสานพรรคเราก็สู้กับพรรคเพื่อไทย จึงไม่มีดีลอะไรอย่างที่ว่าแน่นอน พรรค พปชร.มีจุดยืนที่จะทำงานร่วมกับทุกพรรคได้ เพราะขั้วของพรรคคือประชาชนและต้องการยุติความขัดแย้งในประเทศเสียที
นางนฤมล กล่าวว่า มั่นใจว่าหาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 เชื่อมั่นว่า จะสามารถความสงบจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง ประชาชนจะได้เห็นภาพการเมืองไทยที่สงบนิ่ง และก้าวข้ามความขัดแย้งได้จริง ซึ่งจะทำให้เกิดเสถียรภาพทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลให้ประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้ เพราะทุกคนในพรรคเห็นตรงกันว่า พล.อ.ประวิตร มีจุดเด่นคือ ความตั้งใจที่จะทำงานจริงให้กับประชาชน การทำงานของท่าน คือ การเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าเอาว่าเป็นพวกใคร ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ต้องทำให้ ไม่ใช่ให้ทำในสิ่งที่พรรคได้เปรียบ จึงเป็นจุดเด่นที่สำคัญ ที่จะเป็นผู้นำพาประเทศ เพื่อขจัดความขัดแย้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกมสั้นแต่แผลลึก! เพื่อไทยกับเงาสะท้อน ‘แพทองธาร’ เมื่อภาวะผู้นำถูกตั้งคำถาม
การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยในการจำกัดเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ไว้เพียง 24 ชั่วโมง กลายเป็นประเด็นร้อนที่จุดชนวนข้อกังขาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ความโปร่งใสและการตรวจสอบกำลังเป็นประเด็นสำคัญ
ให้ซักฟอก 1 วัน พูดชื่อ ‘แม้ว’ ได้ เป็นพ่อนายกฯ
เพื่อไทยยันซักฟอกวันเดียวพอ เพราะอภิปรายนายกฯ คนเดียว "วิสุทธิ์" แนะใส่ให้เต็มที่ไม่ต้องขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ถึงขั้นห้ามเอ่ยชื่อ "ทักษิณ" ถ้าบอกว่าเป็นพ่อของนายกฯ ไม่เป็นไร
รู้แล้วผลงาน ‘อุ๊งอิ๊ง’ อืด! ‘ทักษิณ’ เฉลยเงินค้างท่อ
“ทักษิณ” ยกคณะเยือนนครศรีฯ เป็นประธานพิธียกฉัตรพระประธานและทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างอุโบสถ ประชาชนแห่ต้อนรับ บอกทำแต่งาน ได้ทำบุญบ้างสบายใจดี
อ่านเกมสีแดง วางหมาก ทุบ สว.-สลายขั้วน้ำเงิน
ต้องติดตามกันว่าการประชุม "คณะกรรมการคดีพิเศษ" หรือที่เรียกกันว่าบอร์ดดีเอสไอ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มี.ค.นี้ สุดท้ายที่ประชุมจะลงมติรับเรื่อง "การสอบสวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี 2567" เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้ดีเอสไอ สอบสวนการเลือก สว.หรือไม่
พ่อนายกฯ ไปเมืองคอน คุยพบปัญหาเงินค้างท่อระบบงบฯ บอก 'อิ๊งค์' จะเร่งผลักดัน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีรัฐมนตรีและสส.ร่วมคณะด้วย อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท.
อัปยศ! ตัดเวทีซักฟอก 'แพทองธาร' ให้ฝ่ายค้านแค่วันเดียว ก่อนโหวตด่วนเที่ยงคืน
ฝ่ายค้านช็อก! เพื่อไทยสุดอัปยศ ล็อกเวลาซักฟอกนายกฯ 'แพทองธาร' แค่ 24 ชั่วโมง จบเที่ยงคืนโหวตทันที อ้างอภิปรายนายกฯ คนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้ 5 วัน ประธานวิปรัฐบาล ผีเจาะปากบอก 'ถ้าฝ่ายค้านอยากได้ 4-5 วัน ก็รอเป็นรัฐบาลเองก่อน'