'ชัยวุฒิ' แจงทุนสีเทาเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ใช่เพิ่งโผล่มามี

'ชัยวุฒิ' ย้ำรัฐบาลเร่งปราบปรามทุนสีเทาอยู่ บอกมีมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาตั้งตัวได้ยุคนี้ ป้อง 'บิ๊กป้อม' มีภาพคู่เพื่อนตู้ห่าว อ้างใครเข้าพบได้ทั้งนั้น เหตุเป็นคนรับฟัง

16 ก.พ.2566 - นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายวันแรก โดยเฉพาะปัญหาต่างๆ ที่ฝ่ายค้านเสนอแนะ ว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ จะนำไปสู่นโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ด้วย ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในรัฐบาลหน้า เพราะรัฐบาลนี้คงทำไม่ทัน หลายเรื่อง โดยเฉพาะธุรกิจสีเทาและมาเฟียต่างๆ รัฐบาลดำเนินการปราบปรามอยู่แล้ว วันนี้ที่เป็นข่าวเยอะๆ เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปปราบปรามจริงจัง มีการจับกุมดำเนินคดี จริงๆ แล้วทุนสีเทา ธุรกิจพวกนี้มันทำมานานแล้ว เป็นสิบๆ ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมามีสมัยนี้ สมัยรัฐบาลในอดีตก็มี เสธ.คนนั้น เสธ.คนนี้ ใครจะทำธุรกิจสีเทาต้องไปคุยกับ เสธ.คนนี้ จำชื่อไม่ได้แล้ว เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว เป็นเพื่อนอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย

“มันมีมานานแล้ว อย่าไปคิดมากเลย ปัญหานี้มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลไหนมามันก็วิ่งเข้ามาหา พวกทุนสีเทาชอบวิ่งมาหาผู้มีอำนาจ เพราะฉะนั้น เราต้องแก้ที่กฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อจะลดปัญหาเหล่านี้”นายชัยวุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื้อหาการอภิปรายโยงไปถึง พปชร.หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ไปตรวจสอบแล้วกัน คิดว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องตรวจสอบไป ผิดถูกว่าอย่างไรว่าไปตามกฎหมาย แต่ว่าหลักการที่อยากจะพูดให้ฟังคือ วันนี้ปัญหาในสังคมไทย มันคือเรื่องของกฎหมายและระเบียบที่มันเอื้อให้เกิดธุรกิจสีเทา มันมีกฎหมายที่บางทีปฏิบัติไม่ได้ ทำธุรกิจแล้วมันผิดกฎหมาย เขาต้องไปจ่ายส่วยเพื่อให้ทำธุรกิจนี้ได้ ดังนั้น หน้าที่ของเราคือ ต้องเอากฎหมายมาดู อะไรที่ล้าสมัยก็ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ธุรกิจไปได้และไม่ต้องมาจ่ายส่วย นี่คือสิ่งที่กำลังผลักดันเรื่องนี้ และคุยกันใน พปชร.อยู่ คิดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามประชาชน แต่คิดว่าธุรกิจสีเทามันมีมาทุกยุคทุกสมัย เขาจะวิ่งหาผู้มีอำนาจ รัฐบาลในอดีต อดีตนายกฯทุกคนก็มีความไปเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีหลักฐานที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา แต่ธุรกิจสีเทาพวกนี้พยายามวิ่งหาผู้มีอำนาจอย่างที่นำมาอภิปรายกัน มีภาพไปถ่ายรูปกับคนดังคนนั้นคนนี้ พวกนี้เขาทำธุรกิจกันมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาตั้งตัวกันได้ในสมัยรัฐบาลนี้ ไปดูเอาเถอะประวัติเขาแต่ละคน

เมื่อถามว่า มีการเผยแพร่ภาพเพื่อนนายตู้ห่าวเข้าไปถ่ายรูปกับ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องให้ความเป็นธรรมกับนักการเมืองด้วย ตนเองไปงานบางทีไปมอบโล่ หรือไปถ่ายรูปร่วมกับคนต่างๆ เราไม่รู้หรอกเขาทำธุรกิจสีเทา สีขาว แต่ถ้าสีดำรู้เพราะเขาโดนจับ แต่บางคนทำธุรกิจสีเทา ซึ่งวันนั้นเขาไม่ได้ทำผิดอะไร เป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง เราก็ไม่รู้ และ พล.อ.ประวิตรก็ไม่รู้จักด้วยว่าเขาทำธุรกิจอะไร บางทีมีคนพามาพบ มาทานข้าว ท่านเจอคนทั้งวัน เพราะ พล.อ.ประวิตรเปิดบ้าน เป็นคนให้โอกาสคน รับฟังความคิดเห็นของทุกคน ใครเข้ามาคุยอะไรก็คุยด้วย ไม่ได้มีเฉพาะคนนี้หรอก มาทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ขอให้ความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประวิตร ตนเองก็ถ่ายรูปกับคนตั้งเยอะแยะ บางทีก็ไม่รู้จัก

เมื่อถามว่า พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่จะออกมา จะสามารถสกัดทุนสีเทาได้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงิน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า แน่นอน ดีอีเอสได้เสนอกฎหมาย พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมและเทคโนโลยี ซึ่งอาชญากรรมออนไลน์ปัญหาใหญ่คือ เราจะปิดกั้นเว็บไซต์ทำได้ยาก โดยเฉพาะเวทีเว็บไซต์พนันและการขายของผิดกฎหมาย ประเทศอื่นเขาถูกกฎหมาย เขาเปิดได้ แต่มาผิดกฎหมายเฉพาะประเทศเรา และเราห้ามคนไทยไม่ให้ไปใช้เว็บไซต์ต่างประเทศไม่ได้ เพราะฉะนั้น วิธีแก้ที่ดีที่สุดวันนี้คือ ออกกฎหมายเพื่ออายัดบัญชี หยุดเส้นทางการเงิน เพราะการทำธุรกิจเหล่านี้จะโอนเงินผ่านบัญชีม้า แล้วโอนต่อไปเป็นทอดๆ ซึ่งเป็นการฟอกเงิน เมื่อออกกฎหมายตัวนี้แล้ว ต่อไปรัฐจะมีอำนาจในการอายัดบัญชีที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เราต้องหยุดบัญชีก่อน 7 วัน ถ้าเจ้าของบัญชีทำธุรกิจถูกต้องก็มาแจ้งยืนยันว่าตัวเองทำธุรกิจถูกต้อง ถึงจะเปิดให้ใช้บัญชีได้ ซึ่งตนว่าธุรกิจสีเทาถ้าเจอเรื่องนี้ก็หยุดหมด เพราะมันโอนเงินไม่ได้ โอนเงินเยอะๆ โอนไปโอนมาเป็นจำนวนมากโดยไม่มีธุรกิจรองรับ เราสามารถปิดบัญชีได้หมด

“พ.ร.ก.ฉบับนี้ผ่าน ครม.แล้ว รอกระบวนการบังคับใช้อีกนิดหนึ่ง แต่จะพยายามดำเนินการต่างๆ ให้สอดรับไปเลย ขอเตือนประชาชนด้วยที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าว่ามีโทษ มีความผิด จำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท ใครที่ไปรับจ้างเปิดบัญชีม้าขอให้ยกเลิกเสีย เพราะถ้ากฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ จะมีความผิดทันที”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สามารถ' ย้อนเกล็ด 'เด็จพี่' ขยันร้องบิ๊กป้อม แต่ไม่ตามตัว สส.เพื่อไทย คดีตากใบ

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.เพื่อไทย ติดตามการขาดประชุมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

'เด็จพี่' สวมบทพ่อบ้านสภาหา 'บิ๊กป้อม' ฟุ้งพร้อมหา พล.อ.พิศาลหากร้องขอมา

'เด็จพี่' มาตามนัด สวมบทพ่อบ้านสภาหา 'บิ๊กป้อม' เข้าประชุมหรือไม่ บอกไพบูลย์ นั่นแหละมั่ว ท้าดีเบตตัวต่อตัว เย้ยอย่าหนีออกจากรายการเหมือน 'เรืองไกร' แล้วกัน พร้อมตามตัว 'พิศาล' หากมีคนร้องมา

'สันติ' ยันไม่ทิ้งบิ๊กป้อม จวกคนไม่หวังดีปล่อยข่าวใส่ร้าย

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าจะย้ายกลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทยว่า ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ส่วนกระแสข่าวก็มีแต่คนไม่หวังดี ที่เขาไปพูดในจอทีวี ยืนยันว่ามีคนใส่ร้าย

'ไพบูลย์' ปูดข่าวยุบพรรคเพื่อไทย ให้จับตาดูหลัง 10 ต.ค.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่าจะเกิดปัญหากับพรรคการเมือง ที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นสมาชิกพรรค หรือที่รับใบสั่งกับแกนนำมาร้องเรียนจนมั่วไปหมด ซึ่งตนเองทราบจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อได้

'ไพบูลย์' แจ้งความแล้ว ลุยเอาผิด 'เด็จพี่' ฝ่าฝืนประกาศ คปค. ห้ามดักฟัง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ร้องตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. รวมถึงขอข้อมูลส่วนตัวว่า ตนเกรงว่านายพร้อมพงศ์ จะไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย