“พิธา” เปิดเวทีประตูท่าแพเชียงใหม่ แนะนำผู้สมัครลำพูน-แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ครบทุกเขต ยันแก้ปัญหาที่ต้นตอเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ไว้ใจได้
5 ก.พ. 2566 – ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส. พรรคก้าวไกล อาทิ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน และนายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ใน 3 จังหวัดภาคเหนือ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ประกอบด้วยจังหวัดลำพูน แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ โดยเวทีในวันนี้(4 ก.พ.) จัดขึ้นที่ประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางประชาชนผู้สนใจเข้ารับฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น
นอกจากการปราศรัยแนะนำตัวและวิสัยทัศน์ของว่าที่ผู้สมัครในทั้งสามจังหวัดภาคเหนือแล้ว ยังมีการปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายที่สำคัญของพรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ การกระจายอำนาจ ฝุ่น pm 2.5 นโยบายที่ดิน เป็นต้น
โดยนายพิธา ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า คำขวัญสำคัญของเวทีปราศรัยวันนี้ คือคำว่า “แก้ที่เก๊า กาก้าวไกล” เก๊า คือภาษาเมืองที่แปลว่าต้นเหตุ หมายความว่าเราต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ จึงจะทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ที่ว่าไม่เหมือนเดิมก็คือเราคือพรรคที่จะทำให้ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” คำว่า “เก๊า” หรือต้นตอปัญหาของประเทศไทยในเรื่องแรก คือการเมืองแบบเดิม คือคนบ้าอำนาจสามคน และรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เขียนโดยการมีส่วนร่วมของคนบ้าอำนาจเหล่านี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าเราจะต้องแก้เก๊านี้ด้วยการปิดสวิตช์ 3ป หากพรรคก้าวไกลได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน ภายใน 100 วันแรกที่เราเดินเข้าทำเนียบรัฐบาล เราจะออกประชามติ ว่าจะให้มีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่ เพื่อเอา คสช. ออกจากการเมืองไทยอย่างถาวร
นายพิธา ยังกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาหลายคนบอกว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่สุดโต่ง แต่ตนยืนยันอีกครั้งว่าพรรคก้าวไกลเสนอในสิ่งที่เป็นความปกติของโลก ประเทศไทยที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายทศวรรษตั้งแต่ปีที่ตัวเองเกิด คือเศรษฐกิจที่ทุนผูกขาดเป็นใหญ่ และโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน โรคระบาด ดิจิทัลดิสรัปชั่น แต่ระบบราชการไทยยังรับมือกับปัญหาใหม่ๆ ด้วยวิธีเดิมๆ นี่ต่างหากคือสิ่งที่สุดโต่ง
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เก๊าที่สอง คือปากท้องแบบเดิมๆ ที่พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะต้องแก้ไขด้วยการทลายทุนผูกขาดและการสร้างรัฐสวัสดิการ ที่จะดูแลประชาชนทุกคนในทุกวัยอย่างคนเท่ากัน ไม่ใช่ด้วยระบบอุปถัมภ์ หรือพิสูจน์ความจนและการลงทะเบียนให้ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เราจะเปลี่ยนงบประมาณกองทัพที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาทำสวัสดิการให้ประชาชน เราจะผลักดันสิ่งที่ทลายทุนผูกขาดอย่างเช่นกฎหมายสุราก้าวหน้า เพื่อสร้างปากท้องที่ดีให้กับประชาชน
นายพิธา กล่าวต่อว่า วันนี้ตนใส่เสื้อชาติพันธุ์ปกาเกอะญอมาบนเวที ไม่ใช่แค่เพราะเป็นชุดของชาวชาติพันธุ์ที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ แต่มันคือสัญลักษณ์สำคัญ เพราะเสื้อตัวนี้ ทั้งข้างหน้าและข้างหลังเป็นลายเดียวกัน ไม่มีกระเป๋า ไม่มีตะเข็บ นี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของตนและพรรคก้าวไกลได้ดีที่สุด
“พรรคก้าวไกลคือความเปลี่ยนแปลงที่ไว้ใจได้ เราไม่เคยกั๊ก ไม่เคยกึ่งๆ ต่อหน้าพูดอย่างไรข้างหลังก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีเงื่อนไขซ่อนอยู่ในกระเป๋า ว่าอาจจะร่วมกับใครได้ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราพูดมาเสมอ ชัดเจนมาตลอด ว่าจะไม่มีทางจับมือกับพรรคทหารจำแลงไม่ว่าจะเป็นพลังประชารัฐหรือรวมไทยสร้างชาติ ไม่มีวงเล็บ คำตอบเดียวของพรรคก้าวไกล คือพรรคร่วมฝ่ายค้านในตอนนี้คือคำตอบที่ดีที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน” นายพิธา กล่าว
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในทุกเขตของจังหวัดลำพูน แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ประกอบด้วย จังหวัดลำพูน เขต 1 นายวิทวัส ปันสวนปลูก อดีตวิศวกรผู้จัดการโรงงาน และเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เขต 2 นายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์อดีตกำนันตำบลห้วยยาบ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.บ้านธิ และเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เขต 1 นายสมเกียรติ บุญคำมา อดีตนายสิบสังกัดกองทัพบก และคนทำงาน NGOs ด้านผู้ลี้ภัยเขต 2 นายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ ชาวชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ คนทำงาน NGOs ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิทธิชุมชน
จังหวัดเชียงใหม่ เขต 1 น.ส.เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู เจ้าของธุรกิจ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่เขต 2 นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ วิศวกรและเจ้าของธุรกิจ อดีตผู้สมัคร สท.นครเชียงใหม่ ในนามคณะก้าวหน้า เขต 3 นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล เจ้าของธุรกิจเกสต์เฮาส์ เขต 4 น.ส.พุธิตา ชัยอนันต์ อดีตนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เขต 5 นายสมชิด กันธะยา อดีตนายก อบต.โป่งแยง เขต 6 น.ส.อรพรรณ จันตาเรือง อดีตรองนายก อบต.เชียงดาว เขต 7 นายสมดุลย์ อุตเจริญ เกษตรกรเจ้าของสวนส้ม เขต 8 น.ส.การณิก จันทดา อดีตพนักงานต้อนรับสายการบิน และเภสัชกร เขต 9 นายสมเกียรติ มีธรรม คนทำงาน NGOs ด้านทรัพยากรน้ำ ที่ดิน และสิทธิชุมชน เขต 10 นายณรงค์ชัย เตโม ชาวชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ และคนทำงาน NGOs ด้านชาติพันธุ์ เขต 11 นายปิยะพงษ์ ปัญญาดา คนทำงาน NGOs ด้านเยาวชน ชาติพันธุ์ และผู้สูงอายุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทะเลหมอก! ยอดดอยอินทนนท์ หนาวสะท้าน อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาฯ
จังหวัดเชียงใหม่อากาศหนาวเย็นต่อเนื่องโดยเฉพาะที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง เช้าวันนี้อุณหภูมิเป็นเลขตัวเดียว
น้ำท่วมใหญ่ชายแดนไทย ทำสถานการณ์ยาเสพติดรุนแรงมากขึ้น
พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35 ) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันนี้ เจ้าหน้าที่กองกำลังผาเมือง(กกล.ผาเมือง)
หนาวสะท้าน! ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเข้าสู่เลขตัวเดียว 7 องศาฯ
เชียงใหม่อากาศเริ่มหนาวเย็นต่อเนื่องโดยเฉพาะที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง เช้าวันนี้อุณหภูมิเริ่มเป็นเลขตัวเดียว