3 ก.พ.2566-นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยภายหลังการรัฐประหาร สิ่งที่เปลี่ยนไป คือพลเอกประยุทธ์ มีอำนาจมากมาย พบว่าตั้งแต่ยึดอำนาจมาพลเอกประยุทธ์ ใช้อำนาจเป็นกฎหมายมาโดยตลอด ในขณะนั้นอาศัยอำนาจหัวหน้าคณะรัฐประหาร ไปทดแทนกฎหมายทุกฉบับ สามารถจัดการภายในองค์กรต่างๆให้เป็นไปตามที่ตัวเองกำหนด วางคนของตัวเองคุมหน่วยงานสำคัญของประเทศ แม้ประกาศใช้ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แล้วก็ไม่คืนอำนาจให้กับประชาชน
นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ ใช้ศูนย์ดำรงธรรมที่กำกับดูแลโดยกองทัพบกขับเคลื่อนสังคมไทย และใช้ขบวนการของกองทัพบกมาเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารประเทศตกไปอยู่ในอำนาจกองทัพ ผ่านสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ทั้งเศรษฐกิจสังคม ต้องรอให้สมช.อนุมัติ ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มที่เห็นต่างกับรัฐบาลจึงเป็นความต้องการของพลเอกประยุทธ์ มีการใช้กฎหมายมาตรา 112 และมาตรา 116 ในการจับกุมกลุ่มคนที่เห็นต่าง มีการใช้กฎหมายทุกมาตราจับกุมประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่น่าประหลาดใจคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอ้างกฎหมายจับกุม เยาวชนอายุไม่ถึง 15 ปี ซึ่งเป็นความผิดปกติของสังคมไทย
นายสงวน กล่าวว่า เมื่อมีการกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาจำเป็นต้องหาหลักฐานมาแก้ต่างให้ตัวเอง แต่หากไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้โอกาสในการหาหลักฐานมาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมจึงยากมาก ดังนั้นการเรียกร้องให้มีการประกันตัว จึงเป็นสิ่งที่สังคมไทยเข้าใจ และอยากจะมีส่วนร่วมกับผู้ถูกกระทำ กรณีที่เกิดขึ้นกับนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม นักกิจกรรมทางการเมือง ที่กำลังรักษาตัวอยู่ ในขั้นวิกฤติที่โรงพยาบาล เป็นตัวอย่างของการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน
"ปัญหาดังกล่าวสามารถหาทางออกได้ หากผู้มีอำนาจในปัจจุบันไม่มองประชาชนคนเห็นต่างจากพลเอกประยุทธ์เป็นศัตรู การใช้อำนาจเป็นกฎหมาย เพื่อกำจัดคนที่เห็นต่างกับรัฐบาล ต่างจากนักการเมืองทั่วไปที่มองว่าความเห็นต่างทางสังคมเป็นความสวยงาม และจบที่คูหาเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสิน ต่างจากพลเอกประยุทธ์ที่ใช้อำนาจตัวเองเป็นกฎหมาย ดำเนินการกับคนที่เห็นต่าง พลเอกประยุทธ์กำลังวางระเบิดเวลาให้ตัวเอง กำลังทำให้ ประชาชนมองว่ารัฐบาลนี้สร้างความ อยุติธรรมให้กับสังคมไทย เมื่อความ อยุติธรรม กลายเป็นกฎหมาย การต่อสู้จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน"นายสงวน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ปลื้มผลงานศูนย์ดำรงธรรมเข้าตาชาวบ้าน!
'อนุทิน' ชื่นชมการทำงาน 'ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย' หลังผลสำรวจนิด้าโพลเผยประชาชนให้ความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นหน่วยงานช่วยเหลือเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม เผยผลงานปี 67 ยุติเรื่องได้ถึง 99.43%
โฆษกรทสช. มั่นใจขั้วรัฐบาลมีเอกภาพ วอนทุกฝ่ายหนุนร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข
โฆษก รทสช. มั่นใจขั้วรัฐบาลมีเอกภาพ สะท้อนจากการลงมติรายงานนิรโทษกรรม วอนทุกฝ่ายหนุนกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาฯ นิรโทษผู้กระทำผิดทางการเมือง ยกเว้น ม.112 พาประเทศไทยออกจากวังวนของความขัดแย้งห้วง20ปี
'จตุพร' จวก 'เพื่อไทย' ตระบัดสัตย์ ตลบหลังนิรโทษฯตีตกสภา มุ่งดัน กม.กาสิโน
'จตุพร 'ซัด 'เพื่อไทย' ไม่ทิ้งตระบัดสัตย์ กลับลำหักดิบรายงานศึกษาร่าง กม.นิรโทษฯ กลางสภา อ้างไม่รับคดี 112 ลืมสัญญาหาเสียงจะแก้ไข จะประกันผู้ต้องหาคดีหมิ่นพ้นเรือนจำ ขณะที่ก้มหน้าดัน กม.บ่อนคาสิโน ตั้งเป้าเรียบร้อย เม.ย. 68 หวังกอบโกยร่ำรวยรายได้จากเว็บพนันออนไลน์ ปล่อยประเทศฉิบหายต้องทนทุกข์กับอบายมุขสังคมดาษดื่น
'นักโทษเทวดา' อวดศักดาแสดงฤทธิ์เดชขอไป ตปท. โชว์อำนาจเหนือคนอื่น
'จตุพร' เชื่อ 'ทักษิณ' ขอไปต่างประเทศแอบหลบการเมืองสิงหาร้อน พร้อมอวดศักดานักโทษมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น อ้างซ้ำซากป่วยหนักหมอไทยไร้ปัญญารักษา จึงไปหาหมอดูไบ หน้าแตกศาลไม่อนุญาต สะท้อนไฟเขียวให้อำนาจเหนือคนอื่นไม่มีอยู่จริง คาด 'เศรษฐา' หลุดนายกฯ
ผิดแผน! คดี 112 ที่อสส.สั่งฟ้อง กำลังจะออกฤทธิ์ ท่าทางไม่ดี ตั้งหลักก่อนดีกว่า
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ผิดแผน มีเนื้อหาดังนี้
'ชทพ.' ย้ำจุดยืนนิรโทษกรรม ไม่คลุม 3 เรื่อง เชื่อ สุดท้ายไปทิศทางเดียวกัน
'วราวุธ' ย้ำจุดยืนนิรโทษกรรม ไม่คลุม ม.112-อาญาร้ายแรง-คดีทุจริต ระบุ หากพท. จะเอา ค่อยพิจารณาอีกที แต่เชื่อ สุดท้ายไปทิศทางเดียวกัน