'ไตรรงค์' เปิดตัว 3 นักการเมืองชื่อดัง สวมเสื้อ 'รทสช.' ลงเลือกตั้งส.ส.

30 ม.ค.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวเปิดตัว 3 นักการเมือง ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไป ประกอบด้วย นางบุญญาพร นาตะธนภัทร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมแผ่นดิน นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย จะลงรับสมัครในเขต 5 จ.มหาสารคาม และนายพิพิธ รัตนรักษ์ นายกเทศมนตรี อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และยังเป็นอดีต สจ.จ.สุราษฎร์ธานี จะลงสมัครในเขต 7 จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้เขตการเลือกตั้งที่ชัดเจนจะต้องรอ กกต.แบ่งเขตให้เรียบร้อยอีกครั้ง แต่หลักๆ คือพื้นที่เดิมที่ทั้งหมดคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

นายไตรรงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีนักเคลื่อนไหวทางสังคมสำคัญอีกหลายคนที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เช่น ประธานมูลนิธิการต่อต้านการกดขี่ทางเพศ ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งหมดนี้จะทยอยเปิดตัวต่อสาธารณชนในฐานะสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป

“ตอนนี้เราได้กำลังหลักจากคนเก่งหลายๆ ด้านที่จะมาทำงานตามนโยบายสำคัญของพรรค โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ผมได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วว่านโยบายอันดับหนึ่งของเราคือการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน และความไม่ถูกต้องทั้งปวง ที่ต้องมีการสังคยานาเรื่องกฎหมาย และระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินอยู่เยอะ ตอนนี้มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ที่ช่วยแก้ไขกฎหมายเหล่านี้อยู่ ดังนั้นบ้านเมืองจะดีขึ้นถ้าเราได้เป็นรัฐบาลครั้งต่อไป” นายไตรรงค์กล่าว

ด้านนางบุญญาพร กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจและยินดีมากที่ ได้รับความไว้วางใจจากพรรครวมไทยสร้างชาติให้ตนทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาฯ ในฐานะตัวแทนของพรรค และสัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อไม่ทำให้พรรคและประชาชนผิดหวังอย่างแน่นอน

ขณะที่ นางกุสุมาลวตี กล่าวว่าวันนี้รู้สึกอบอุ่นและมั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นความหวังของคนไทยในอนาคต โดยเฉพาะนโยบายหลักข้อหนึ่งคือการปราบทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นพยาธิร้ายทำลายประเทศไทย ที่ผ่านมาตนก็เคยทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรมาแล้วถึง 4 ครั้ง ได้พยายามผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ปัญหาของพวกเขาจะได้รับการแก้ไข เพราะที่ผ่านมาในรัฐบาลนี้เมื่อชาวบ้านร้องของบประมาณในการพัฒนาโครงการต่างๆ ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ดังนั้นจึงคิดว่าหากตนมีโอกาสได้เป็นผู้แทนและอยู่ในรัฐบาลก็จะสามารถทำงานแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ดีกว่า

ด้านนายพิพิธ กล่าวว่า การที่ตนตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพราะเห็นว่าพรรคมีแนวคิดและหลักการตรงกับที่ตนตั้งเป้าหมายไว้ในการเข้ามาพัฒนาชาติบ้านเมือง ที่ผ่านมาตนทำงานเพื่อบ้านเกิดของตัวเองมาตลอด ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรี อ.เกาะพะงันและ อดีตก็เคยเป็น สจ.สุราษฎร์ธานี วันนี้อยากกลับมาทำงานตอบแทนประเทศชาติอีกครั้ง โดยสิ่งที่ตั้งใจคือการทำงานดูแลประชาชนเรื่องชีวิต ปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเขตที่จะลงสมัครคือ พื้นที่ที่ประกอบด้วย อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน. อ.เกาะเต่า และบางส่วนของ อ.กาญจนดิษฐ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ? (ตอนที่ 53)

ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกา วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 อันเป็นพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร

'จิรายุ' ตีปาก 'สส.โรม' อย่าพูดให้ประเทศเสียหาย ปมยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีมีอดีต สส. ของกัมพูชา ถูกยิงเสียชีวิตในประเทศไทยแล้ว

'เอกนัฏ' มั่นใจกระแสนิยม รทสช. ติดลมบน เลือกตั้งครั้งหน้าได้ สส.เพิ่มขึ้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดใจต่อสื่อมวลชนถึงกระแสของพรรค รทสช.ขณะนี้