‘วราวุธ ศิลปอาชา’ ยันบัตรเลือกตั้ง 2 ใบไม่กระทบ เร็วเกินไปที่จะประเมินว่าพรรคเล็กสูญพันธุ์ ลั่นสุพรรณบุรี ไม่ได้เป็นของใคร เชิญ ‘พิธา’เจาะ เผยทุกคนคิดได้ ทำได้ แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรว่ากันอีกที
23 พ.ย.2564 – นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงระบบการเลือกตั้งแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะส่งผลต่อพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่ ว่า ไม่ว่าบัตรเลือกตั้งหนึ่งใบหรือสองใบจะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน อย่างกรณีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ข้อดีคือ พรรคการเมืองแต่ละพรรคไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัครครบ 400 เขต แต่หากเป็นบัตรใบเดียวจำเป็นต้องส่งทุกเขต เพราะหากไม่ส่งจะไม่ได้คะแนน
อย่างไรก็ตาม จะมีเรื่องค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนแตกต่างกันไปในแต่เขต ข้อดีข้อด้อยเหล่านี้ไม่ว่าจะพรรคใหญ่ พรรคเล็ก จะมีความได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันไป ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตามต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มีความกังวลกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใช่หรือไม่ นายวราวุธ ตอบว่า ไม่ว่าแบบใดก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ในฐานะพรรคการเมืองที่รับฟังเสียงมาแล้ว เมื่อเปลี่ยนกติกาแล้วก็ต้องทำงานตามกรอบกติกา
เมื่อถามว่า จะทำให้ที่นั่งส.ส.ของพรรคลดลงหรือไม่ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ตอบว่า พรรคชาติไทยพัฒนาคงไม่ลดลงหรอก และพรรคมีความคิดที่จะเพิ่มจำนวนส.ส. แต่ท้ายที่สุดต้องดูว่าเมื่อผลออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร
ถามว่ามองว่าควรใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศหรือเขตใหญ่เรียงเบอร์ นายวราวุธ กล่าวว่า จากประสบการณ์ตอนรัฐธรรมนูญ 2540 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบและเป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ประชาชนไม่เกิดความสับสน พรรคการเมืองเองก็ไม่สับสนด้วย รวมทั้งสะดวกต่อการหาเสียง แต่การใช้เบอร์ไม่ซ้ำกันเลยจะทำให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะประชาชนในเขตติดต่อกันที่จะเกิดความสับสนพอสมควรในครั้งที่ผ่านๆมา ดังนั้น การใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศจะแก้ไขปัญหาความสับสนได้
ซักว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.ระบุว่า ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบจะทำให้พรรคขนาดเล็กสูญพันธุ์ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์การเลือกตั้งในแต่ละครั้งจะมีปัจจัยที่กระทบต่อการเลือกตั้งแตกต่างกันไป ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกพอสมควรที่จะถึงการเลือกตั้ง ตนคิดว่าเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าพรรคเล็กสูญพันธุ์หรือพรรคใหญ่ได้เปรียบ เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องคอยดูกันต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเจาะจังหวัดสุพรรณบุรีให้ได้ นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะพูด ทุกคนคิดได้ ทำได้ แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรว่ากันอีกที และพรรคไม่ได้มีความกังวล ทั้งนี้ จริงอยู่ที่นายพิธาพูดว่าสุพรรณบุรีไม่ได้เป็นของใคร แต่ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พรรคชาติไทยพัฒนาตั้งแต่เป็นพรรคชาติไทย ก็หาเสียงและทำงานให้จังหวัดได้อย่างดีที่สุดในหลายสิบปีที่ผ่านมา จึงเป็นสิทธิที่แต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้สมัครและส.ส.คนเดิมในพื้นที่ที่จะต้องปกป้องพื้นที่ตัวเอง ที่เหลือก็เป็นไปตามครรลอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน
'พิธา' เผยไม่ได้เห็นต่าง 'ทักษิณ' เรื่องเปลี่ยนโครงสร้าง เหน็บอย่ามัวแต่พูด ถึงเวลาต้องทำแล้ว
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร
ถึงคิว 'พิธา' ยกทัพตรึงอุดรฯ ร่วมงานลอยกระทง ขึ้นปราศรัย 3 เวทีใหญ่
ถึงคิว 'พิธา' ยกทัพตรึงอุดรธานี หลังโดน 'ทักษิณ-พท.' แย่งเรตติ้งสองวันติด ร่วมงานลอยกระทง ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่สามจุดวันเสาร์
จับตา “พ่อใหญ่แม้ว” เยือนอุดรฯ เป่ากระหม่อม24พ.ย.สู้ศึกอบจ.
ในวันที่ 24 พ.ย.ที่จะถึงนี้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งก่อนหน้านี้มี “วิเชียร ขาวขำ” นั่งเป็นนายก อบจ.อุดรฯ แต่เจ้าตัวลาออกอ้างปัญหาสุขภาพ จึงต้องทำให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน และเป็นที่น่าจับตาว่า พรรคใหญ่ 2 พรรค ส่งคนสู้ศึกในครั้งนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ