'เอกนัฏ' รับใบสมัคร 'เขตรัฐ' เข้ารทสช. จ่อลงสมัครสส.เขต กทม. เผย 'บิ๊กตู่' พร้อมเดินสายทั่วประเทศ ลั่นพร้อมเปิดนโยบาย ก.พ.นี้ ชี้ 'บิ๊กป้อม' ปาดหน้า ลงราชบุรี เป็นเรื่องปกติ ไม่มีผลกระทบ
18 ม.ค.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับใบสมัครของ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง โดยนายเอกนัฏ กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เพราะในขณะนี้มี ส.ส. ทยอยเดินทางมาสมัครกัน แต่ตนเองอยากให้ทำหน้าที่ในสภาให้เต็มที่ก่อน อย่างไรก็ตาม นายเขตรัฐจะลงสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร และพรรคจะมีการเปิดตัวผู้สมัครเขตกทม.ในเร็วๆนี้ และ ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ จะมีการ นัดประชุมว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 30 คน แต่ในขณะนี้รอความชัดเจนในการแบ่งเขตจาก กกต.ก่อน ซึ่งพรรคจะเร่งทำงาน และแนะนำตัวผู้สมัครในพื้นที่ คาดว่าจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และนโยบายของพรรคภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเปิดนโยบายในการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาท และค่าแรงขั้นต่ำภายในปี 2570 จำนวน 600 บาท นายเอกนัฏ กล่าวว่า พรรครทสช.มองว่าการดำเนินการด้านเศรษฐกิจต้องดูสถานะของประเทศ โดยพรรคจะมีการต่อยอด รัฐบาลชุดนี้ใน 2 ส่วนคือ โครงสร้างพื้นฐาน และสวัสดิการที่จะสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมครอบครัวโดยจะดูไปถึงครอบครัวแต่จะไม่ส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ เราต้องมีความรับผิดชอบในฐานะพรรคการเมือง เพราะหลังจากนี้เชื่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้รับความสนใจจากนักการเมือง หรือแม้กระทั่งคนรุ่นใหม่ที่สนใจจะขับเคลื่อนทางการเมือง และขับเคลื่อนให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นสถาบันทางการเมือง พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายให้ได้
นายเอกนัฏ กล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 1 ใน 3 คน ของพรรค เต็งหนึ่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะพล.อ.ประยุทธ์สวมหมวกสองใบ เป็นทั้งนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งภายหลังมีการเปิดตัวไปในวันที่ 9 มกราคม ก็มีเสียงจากสมาชิกและแฟนคลับจากต่างจังหวัด เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชนในทั่วทุกภาค และพยายามจะไปให้ครบทุกภาค และไปในจุดที่ง่ายต่อการเดินทาง
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่จ.ราชบุรี ไปก่อนพล.อ.ประยุทธ์ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่มีผลกระทบ เป็นเรื่องธรรมดาของการปฏิบัติราชการ แต่อีกส่วนหนึ่งคือในฐานะสมาชิกพรรค ก็ไปในเวลานอกราชการ อาจใช้เวลาในช่วงเย็นหรือวันหยุดให้คุ้มค่า
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังมีส.ส. จำนวนมากที่จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค แต่ในตอนนี้ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ในสภาไปก่อน ยืนยันจะมีคนมาสมัครเกินกว่า 100 คน ทั้งกลุ่มส.ส. กลุ่มอดีตรัฐมนตรี กลุ่มคนรุ่นใหม่ และในแต่ละภาค ก็มีผู้สมัครเกินกว่า 1 คน
ด้านนายเขตรัฐ กล่าวว่า ยืนยันว่าการมาสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้ ได้ติดตามการทำงานของนายเอกนัฏ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และเชื่อมั่นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นสถาบันการเมืองใหม่ และเป็นเสาหลักให้กับประเทศ เงื่อนไขไม่ต้องตั้ง ความตั้งใจชัดเจนอยู่แล้ว “ผมเองเป็นทีมลุงตู่ ทีมพี่ขิง”
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่พล.อ.ประยุทธ์ มีการทาบทาม นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเขตรัฐ กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยกับคุณพ่อ เพราะขณะนี้ นายเอนก อยู่ระหว่างปฎิบัติราชการที่ประเทศอังกฤษ ดังนั้นให้ไปสอบถามจากนายเอนกเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองโฆษก รทสช. อัดพรรคส้มอย่าพล่ามเอาหล่อ ฟ้องปิดปากทำกองเชียร์เสียงแตก
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ขอเอี่ยวสั้นๆ พรรคประชาชน ฟ้องประชาชน
36 สส.รวมไทยสร้างชาติ ปิดประตูไม่รับรายงานนิรโทษคดี 112 ทุกกรณี
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยมติการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในการประชุม พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
คาดดินเนอร์พรรคร่วม สุมหัวคุยนิรโทษกรรม!
"ธนกร" ฝากวงดินเนอร์พรรคร่วมฯ 21 ต.ค. ถกหาทางออกเหมาะสมร่าง กม.นิรโทษกรรม หลังทุกพรรคค้านไม่เหมาเข่งคดี ม.112 ด้าน "ประเสริฐ"
สส.ธนกร วอนดินเนอร์พรรคร่วม ถกหาทางออกเหมาะสม ร่างกม.นิรโทษกรรม
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตามที่ตนได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรไป
'ธนกร' ฝากรัฐบาลสางเครือข่ายขายตรงทั้งระบบ!
'ธนกร' ฝากรัฐบาล เร่งตรวจสอบเครือข่ายขายตรงรื้อทั้งระบบ หลังพบมีอีกหลายบริษัทผิดกฎหมาย-เลี่ยงภาษี ขอ ผบ.ตร.ฟันไม่เลี้ยง ชี้ ปชช.ผู้เสียหายเพียบ หวั่น เกิดเสื่อมศรัทธากระบวนการยุติธรรม