ปชป.ฉายหนังตัวอย่าง เปิด 8 นโยบายหาเสียง ลั่น ทำเพื่อฐานรากมั่นคง ไม่ใช่แลกโหวต

ปชป.ฉายหนังตัวอย่าง เปิด 8 นโยบายหาเสียง ชาวนาเฮ ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลแจกเลย 3 หมื่นบาทต่อครัวเรือน สานต่อประกันรายได้-นมโรงเรียน ดักทาง ทำเพื่อฐานรากมั่นคง ไม่ใช่แลกโหวต

13 ม.ค.2566- เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคปชป. พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคฯ ผู้บริหารพรรคฯ ส.ส. อดีตส.ส. สก.และอดีตสก.และว่าที่ผู้สมัครส.ส. ร่วมกันเปิดตัวนโยบายพรรคฯ 8 นโยบายหลักด้านการเกษตร อยู่ในหมวดนโยบายเรื่อง”สร้างเงิน”ซึ่งเป็นการเสนอภาพรวมที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องถือว่าเรากำลังเดินเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งเพราะวาระไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายนิติบัญญัตติก็อยู่ได้ไกลสุดไม่เกินวันที่ 23 มี.ค. นี้ จึงเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนเศษ ก็จะมีการเลือกตั้ง สำหรับปชป.ได้แสดงความพร้อมมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคลหรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย ซึ่งนโยบายก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดยุทธศาสตร์ไปแล้วหากปชป.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยจะเป็นยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประเทศไปสู่อนาคตที่สดใส คือสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ

“วันนี้ปชป. เปิดตัว 8 นโยบายทางด้านการเกษตร และนโยบายหลักในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศและในกทม. โดยเหตุที่ปชป. เล็งเห็นว่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับชุมชนและหมู่บ้านนั้น เป็นนโยบายที่พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ประเทศต่อไป และพัฒนาพื้นที่ชนบทต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะนโยบายด้านการเกษตร ที่เป็นดีเอ็นเอ ของประเทศต่อไป เพราะประชากรไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซนต์ของประเทศส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นเกษตรกรรม”นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายเฉลิมชัย กล่าวว่า ระยะเวลา 2 ปี เราทำและมีการสอบถามความพึงพอใจจากประชาชน วันนี้นโยบายจะเป็นนโยบายเริ่มต้นฐานรากของประชาชนชาวไทย และเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นรูปธรรม เราไม่ต้องการเพียงแค่คะแนนเสียงอย่างเดียว ทั้ง 8 นโยบาย คือ 1. การประกันรายได้ เกษตรกร ซึ่งเป็นการจ่ายเงินส่วนต่าง ทั้งข้าว มัน ยางปาล์ม และข้าวโพด ซึ่งจะเป็นการสานต่อนโยบายเดิมตามพรรคฯทำอยู่ 2. นโยบายให้เกษตรที่ปลูกข้าว คือชาวนา รับ 3 หมื่นบาทต่อ 1 ครัวเรือน เพราะวันนี้ปชป.ทำนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนามากกว่าที่เราจะให้เงินไปเพื่อให้เขาเลือกเรา แต่เป็นการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั้งยืน

3.ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เป็นการพัฒนาเด็กที่เป็นทรัพยากรในวันข้างหน้า และให้เกษตรกรที่เลี้ยงโคนมได้ผลิตนมด้วย 4.ประมงท้องถิ่น เป็นการให้เงินอุดหนุนกับประมง 1 แสนบาทต่อปี ทั้ง 2,800 กลุ่ม 5.ปลดล็อกประมงพาณิชย์ ต้องอยู่ภายใต้ ไอยูยู พราะว่าเรายังต้องอยู่กับสากลอยู่กับนานาประเทศ 6.สิทธิที่ดินทำกิน คือการออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาของพี่น้องที่ไม่มีที่ดินทำกิน อยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า 7.ออกกรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับพี่น้องประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่ที่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ และ8.ธนาคารหมู่บ้าน และชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาททั้งประเทศ รวมทั้งในกรุงเทพฯทุกชุมชนด้วย

“นโยบายทั้งหมดจะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไป เพราะต้องแจ้งข้อมูลทั้งหมดให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยืนยันว่านโยบายทั้งหมดเป็นสิ่งท่เราคิดมาแล้ว และจะต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบางหน่วยไปเป็นที่เลี้ยงในการพัฒน ซึ่งถือว่านโยบายชัดเจนที่สุดว่าความเข้มแข็งของประเทศ ต้องเกิดจากความเข้มแข็งของฐานราก เราแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ได้แก้ไขปัญหาเพื่อจูงใจเรียกคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพราะฉะนั้นนโยบายทั้งหมด จึงเป็นนโยบายส่วนหนึ่งที่เราเอามาเปิดให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าปชปงจะทำอะไรให้ท่านบ้างในการเลือกตั้งครั้งหน้า”นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า การแถลงข่าววันนี้เป็นการแถลงนโยบายภาพรวม ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์หลัก ในหมวดสร้างเงิน กลุ่มเกษตร ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ จำนวน 9.7 ล้านครัวเรือน หลังจากนี้พรรคฯจะเตรียมเปิดนโยบายในหมวดสร้างคน ในปลายเดือนนี้ และในหมวดสร้างชาติประมาณต้นเดือนก.พ. จากนั้นจะได้ลงรายละเอียดของนโยบายทั้งหมดในเดือนก.พ.ด้วย ซึ่งกำลังพิจารณาวันและเวลาที่เหมาะสมต่อไป ทั้งการที่พรรคฯเปิดนโยบานบางส่วนเพราะต้องการให้ประชาชนจดจำว่าพรรคฯจะทำอะไรให้บ้าง หากเปิดพร้อมกันทั้งหมดตั้งแต่ตอนนี้เกรงว่าจะไม่ได้ผล เพราะเรามีบทเรียนมาแล้วว่า ประชาชนจะจำนโยบายแค่เรื่องเดียว ทั้งนี้ตนมั่นใจว่านโยบายของปชป.ที่ออกไป จะถูกใจประชาชน เพราะส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร

เมื่อถามว่านโยบายชาวนารับ 30,000 บาทเชื่อว่าจะสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาเพียงพอหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า นโยบายนี้เราคิดแล้วว่าต้องมีมาตรการควบคู่ไม่ใช่มีแค่มาตรการนี้ ตนถึงบอกว่าจะมีภาค 2 โดยจะมีหน่วยงานของรัฐบาลบางหน่วยเป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว เพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะต้องทำควบคู่กันไป ตนขอเวลาแล้วจะแถลงภาพรวมให้เห็นมากขึ้น

เมื่อถามว่านโยบายดังกล่าวจะนำงบประมาณจากส่วนใดมาใช้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนจะเรียนให้ทราบต่อไป แต่ตอนคิด คิดครบแล้ว และเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ต้องแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องของเงิน ดังนั้นไม่ต้องห่วงพรรคประชาธิปัตย์คิดนโยบายบนพื้นฐานของสิ่งที่ได้ทำมาแล้วส่วนหนึ่ง และทำได้จริงเพราะอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ

เมื่อถามถึงนโยบายภาคจะเปิดได้เมื่อใด นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป เพราะนโยบายภาคก็จะมีเฉพาะภาคในเรื่องสำคัญๆ ส่วนเรื่องความพร้อมในการเปิดตัวผู้สมัคร รายจังหวัด และกรุงเทพฯ จะเปิดได้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และในอีก 2-3 วันนี้พรรคฯจะไปเปิดตัวในภาคเหนือ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพรรคฯ มีความพร้อมเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ครบทั้ง 400 เขต

ต่อข้อถามว่ากังวลหรือไม่ที่คนของปชป.ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)และจะเกิดการแบ่งคะแนนกัน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะไม่มีอะไรใหม่ เป็นเรื่องที่ทราบอยู่นานแล้ว ซึ่งพรรคปชป.ก็มีผู้สมัครเตรียมการไว้แล้ว จึงไม่กระทบเป้าหมายหลัก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทพไท' ห่วง กกต. ปล่อยผี สว. รับรองไปก่อน แต่สอยใครไม่ได้

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า รับรองไปก่อน สอยทีหลัง ระวังจะซ้ำรอยเดิม!!!

'จุรินทร์' ชำแหละยิบ 'งบ 68' นักกู้ผ้าขาวม้า ซุกซ่อน 5 ประเด็นที่สุดของความขี้เหร่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนเป็นห่วงต่อสภาพการเมือง เศรษฐกิจ ทั้งระดับมหภาคและภาคประชาชน และการไม่รักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐบาล

'ชาญชัย' ย้อนเกล็ด 'วิษณุ' บอกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน

'ชาญชัย' ยก กม. ชี้ 'วิษณุ' เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. อ้างคำวินิจฉัยชี้ศาล รธน. กำหนดมาตรฐานไว้แล้ว ชี้หากไม่ทำผิดกฎหมายกลัวอะไร

'ชาญชัย' จี้ 'ภูมิธรรม-เศรษฐา' ยึดทรัพย์พร้อมตามตัว 'ยิ่งลักษณ์' กลับมารับโทษ

'ชาญชัย' แนะ 'ภูมิธรรม-เศรษฐา' ช่วยตามตัว 'ยิ่งลักษณ์' รับโทษคดีทุจริตจำนำข้าว ยุติปมข้าวค้างโกดัง ย้ำทำให้ถูกต้อง ถ้ายังเฉยผิดมาตรา 157 ติดตัวยาวแน่