นายกฯ ขอบคุณ ส.ส. ผ่านกฎหมายสำคัญ 4 ฉบับที่รัฐบาลเสนอ เพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน

นายกฯ ขอบคุณส.ส.ผ่านกฎหมายสำคัญเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน กฎหมายกู้ยืมเงิน กยศ. เก็บดอกเบี้ย 1% ต่อปี ปลดภาระผู้ค้ำประกัน
 
29 ธ.ค.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ลงมติผ่านร่างกฎหมายสำคัญที่เสนอโดยรัฐบาลทั้ง 4 ฉบับ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จากที่วันที่ 28 ธ.ค.ที่รัฐสภาได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษหยิบยกกฎหมายซึ่งเป็นร่างของครม.รวม 4 ฉบับ ได้แก่1. พิจารณากรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติสถาปนิก (ฉบับที่ ..) พ.ศ....   2. พิจารณากรณีวุฒิสภา แก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราช บัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... 3. พิจารณากรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... 4. พิจารณากรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...
 
โดยกฎหมายฉบับที่ 1, ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ผลการพิจารณาที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภา ส่วนกฎหมายฉบับที่ 4 ที่เกี่ยวกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นั้น ได้มีการแก้ไขให้เก็บดอกเบี้ยได้ 1% ต่อปี และให้มีเบี้ยปรับไม่เกิน 0.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำทุกกรณีนั้น
 
นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณประธานสภาฯ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ทุกคน ที่ลงมติผ่านร่างกฎหมายสำคัญ เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้ผู้กู้ยืมได้รับผลกระทบ ด้วยการโดนฟ้องร้อง และการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงตามกฎหมายเดิม
 
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาของประชาชน ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ เชื่อมั่นถึงประโยชน์ของการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม จึงขอขอบคุณสมาชิกสภาฯ ทุกคนที่ผ่านร่างกฎหมายสำคัญทั้ง 4 ฉบับที่เสนอโดยรัฐบาล โดยเฉพาะร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ กยศ. ครั้งนี้ เพื่อคำนึงถึงประโยชน์ และผลกระทบที่อาจเกิดแก่ประชาชน” นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่