'วราวุธ-หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา' ชู นโยบายทุกด้านเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม-ความยั่งยืน หนุนตั้ง ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญ โวลั่นเลือกตั้งคราวหน้ากวาด ส.ส. 30 ที่นั่งแน่นอน
20 พ.ย. 2564 - ที่สำนักงานสาขาพรรคชาติไทยพัฒนา อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนาจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค นายนิกร จำนง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรค นายจองชัย เที่ยงธรรม สมาชิกพรรค และอดีตรมว.แรงงาน นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด อดีต รมว.วัฒนธรรม
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ตลอดระยะ 2 ปี ที่ผ่านมาของพรรค ชทพ. ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลไม่เน้นทำงานการเมือง แต่เน้นการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ว่าจะภาคใดของประเทศไทยก็แล้วแต่ เราได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน และเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จากครั้งนี้ที่แล้วเราได้ ส.ส. 12 คน หรือ 1 โหล แต่ครั้งหน้า ชทพ.จะได้ โหลครึ่งหรือ 30 คน เพื่อที่จะเข้ามาทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม มุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประชาชน สามารถรับมือกับสถานการณ์ของโลกใบนี้และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ นี่คือ การทำงานและแนวทางของ ชทพ.
“2 ปีกว่าที่ผ่านมา การทำงานของชาติไทยพัฒนาทั้งในส่วนของผม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรคทุกคน ได้แสดงให้ประชาชนเห็นแล้วว่าเราเน้นการทำงาน ไม่เน้นเล่นการเมืองด้วยการต่อสู้ด้วยคำพูดเฉือนกันไปมา แต่อยากให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด”นายวราวุธ กล่าว
หัวหน้า พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมาที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาที่สำคัญที่สุดในสังคมไทยวันนี้คือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนและประเทศมีความยั่งยืน สามารถเดินหน้าท่ามกลางภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ ทั้งนโยบายด้านการศึกษา ด้านการเกษตร ด้านสังคม ซึ่งทุกด้านๆ จะต้องมีคำว่าสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าไปแทรกอยู่ เชื่อว่าเป็นนโยบายที่ดีเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ของประเทศและของโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งนโยบายหาเสียงของ ชทพ.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้กรอบสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อครั้งรัฐธรรมนูญปี 2540 นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขเพื่อให้มีการแต่งตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เรียกได้ว่าดีที่สุดของประเทศไทย ชทพ.เชื่อมั่นว่ารัฐธรรมนูญที่ดีนั้นต้องมาจากการฟังเสียงของประชาชนในทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานภาพ ไม่ใช่เพียงคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่เพียงคนหนึ่งแสนหรือสองแสนคน แต่ต้องฟังเสียงประชาชนทั้งประเทศกว่า 60 ล้านคน ดังนั้น ชทพ.จะยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติก่อน เพื่อให้มีการทำประชามติตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมา เชื่อว่าการตั้ง ส.ส.ร.ที่มีประสิทธิภาพเหมือนอย่างครั้งหนึ่งที่ประเทศไทยเราเคยทำมาที่เป็นต้นกำเนิดของรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกคนพูดอยู่เสมอว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด ต้นกำเนิดและจุดเริ่มต้นต้องเกิดจากตรงนั้น
เมื่อถามถึงกรณี ส.ส. ของพรรคโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จะเป็นปัญหาและชี้แจงอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เราเชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของคนหนึ่งแสนคน หรือสองแสนคน แต่การแก้รัฐธรรมนูญที่ดีจะต้องฟังเสียงจากประชาชนทั่วประเทศ เราจึงเน้นการแก้รัฐธรรมนูญในการทำประชามติ โดยมีการตั้ง ส.ส.ร.ก่อน ซึ่งในปัจจุบันมีหลายพรรคการเมืองเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในมุมของ ชทพ. เราเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ดีต้องมาจากประชาชนทั่วประเทศไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ถามวาา การลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นพรรคจะทำได้จริงๆ หรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ในกระบวนการของพรรคการเมืองมีเพียง ชทพ.พรรคเดียวที่เคยทำมาแล้วสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และเราจะยืนยันในจุดยืนของเราในการตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา เพราะเราเน้นทำไม่ได้เน้นพูด
เมื่อถามว่า การตั้งส.ส.ร.จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งก่อนใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญมาตราที่เกี่ยวกับการทำประชามติก่อน คือธงของพรรค อย่างที่นายบรรหารเคยทำมาและได้รับสิ่งตอบรับอย่างดีจากประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นเราก็จะเดินหน้าตามรอยอย่างที่นายบรรหารทำเอาไว้
ถามว่าถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่จะหาเสียงในการเรื่องตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า "ถูกต้องครับ"
ต่อข้อถามที่ว่า การตั้งส.ส.ร.จะทำในสมัยนี้หรือหลังเลือกตั้งครั้งหน้า นายวราวุธ ตอบว่าวันนี้ประเด็นที่ ชทพ.ให้ความสำคัญคือการดำรงคงอยู่ของมวลมนุษยชาติและประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ส่วนประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญ การศึกษาหรือปัญหาสังคม ก็ต้องพึงตระหนักว่าเมื่อต้นปีเราเจอภัยแล้ง เจอน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในหลายปี ใครจะรู้ว่าในอนาคตอันใกล้เราจะเจอปัญหาอะไรอีกหรือไม่
"ถามว่าถ้าเราเจอเราจะยังมาพูดแก้รัฐธรรมนูญกันหรือไม่ หรือเราจะคุยว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนคนไทยสามารถอยู่ให้ได้ด้วยความสุขโดยปราศจากภัยธรรมชาติเสียก่อน ดังนั้น เป้าหมายอันดับ 1 ของพรรค จะทำให้ประชาชนคนไทยได้ตระหนักถึงปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมมือกัน ทำให้เป้าหมายที่ประเทศไทยได้ไปประกาศต่อนานาอารยประเทศว่าจะก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 นั้น จะทำอย่างไรให้เป็นความจริง ฟังดูอาจจะเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ท้ายที่สุดก็มากระทบต่อประชาชนในทุกๆภาคของประเทศไทย เป้าหมายหลักของพรรคจึงเป็นการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุขก่อน ถึงจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และฝ่ายการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ที่เคยออกจากพรรคจะกลับมา ชทพ.เหมือนเดิมหรือไม่ นายวราวุธ บอกการทำงานทางการเมือง เปรียบเสมือนบ้านหลัง 1 สมาชิกท่านใดอยู่บ้านไหนอุ่นใจสบายใจก็จะอยู่ ส่วนสมาชิกออกไปเมื่อเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไปได้ที่ไปแล้วก็อาจจะกลับมาที่อยู่ ไม่ต่างอะไรกับสโมสรฟุตบอลที่ฤดูกาลนี้นักเตะคนนี้อาจจะอยู่กับทีมนี้ พอเปลี่ยนฤดูการก็เปลี่ยนทีม ไม่ได้แปลว่าเราเป็นศัตรูกัน หรือไม่สามารถร่วมงานกันได้ ดังนั้น การทำงานการเมืองตนเห็นมาตั้งแต่เด็กจนโต ได้เห็นการหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นการเกิดใหม่ของพรรค หรือการโยกย้ายจำนวนส.ส. ดังนั้น ชทพ.ของเราไม่เน้นการสร้างศัตรูทางการเมือง ทุกคนเป็นมิตรและส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นครอบครัวของ ชทพ.มาแล้ว
เมื่อถามว่า ตั้งเป้าหมายว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า สุพรรณบุรีมั่นใจจะได้เพิ่มอีก 5 เขต และจะยึดได้ทั้งหมด มั่นใจว่าจะมีส.ส.บัญชีรายชื่อและส.ส.เขตรวมแล้ว 30 คนแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อดีต สว.สมชาย’ ซัดเปิดบ่อนคาสิโน นโยบายสิ้นคิด แบ่งใบอนุญาตโควตาการเมือง
สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดบ่อนคาสิโน แบ่งใบอนุญาตโควตาการเมือง ขายมัดจำ
เกิดขึ้นจริงๆ ‘วรงค์’ โชว์ป้ายเมื่อสามปีที่แล้ว ‘โจรปล้นชาติจะกลับมา’
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์รูปภาพและข้อความในเฟซบุ๊กว่า #ป้ายที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว
’พุทธะอิสระ‘ วางแล้ว! ไม่ร่วมขบวนทักท้วง ‘ทักษิณ-แพทองธาร’
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ "พุทธะอิสระ" ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
เข้าใจตรงกันนะ 'ณัฐวุฒิ' ยืนยัน 'พรรคเพื่อไทย' อยู่คนละก๊กกับ 'พรรคส้ม'
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่าอันนี้ไม่ใช่แล้วครับ ข่าวลงผิดแล้ว
'อนุสรณ์' ชี้ 'มาดามหน่อย' สานต่อนโยบายเพื่อไทย พัฒนาโคราชสู่ความยั่งยืน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทย เปิดตัวนางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา เป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ในนามพรรค
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้เลือกตั้งอบจ.ระอุ! 'บ้านใหญ่' ยังขลัง-บางแห่งเสื่อมตามกาลเวลา
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ การเมืองท้องถิ่น อบจ. ระอุ บ้านใหญ่ยังขลัง แต่บางแห่งเสื่อมไปตามกาลเวลา ข้าราชการการเมือง ส.ส.ช่วยหาเสียงได้