24 ธ.ค.2565 - นายวันชัย สอนศิริ สมาขิกวุฒิสภา(ส.ว) โพสต์เฟซบุ๊ก มีรายละละเอียดดังนี้
เสียง 250 ส.ว. กับเสียง 250 ส.ส.ใครใหญ่กว่ากัน
คนมักจะเข้าใจว่าเสียงส.ว.250 ใหญ่กว่า เป็นกอบเป็นกำกว่าและก็แน่นอนกว่า เป็นภาพลวงตาที่กล่าวหากันจนทำให้คนเชื่อว่าส.ว.เป็นยักษ์เป็นมาร เป็นตัวถ่วงประชาธิปไตย
แท้ที่จริงแล้วเสียงของส.ส. 250 นั้นใหญ่กว่า เป็นอำนาจที่แท้จริงของประชาชน และรัฐบาลจะดำรงคงอยู่ได้ก็ด้วยเสียงของส.ส.เกินกว่า 250 จะมีส.ว.300 หรือ 500 คนก็ไม่สามารถที่จะทำให้รัฐบาลดำรงคงอยู่ได้
และอย่างที่ผมเคยบอกไว้แล้วว่าใครรวมเสียงส.ส.ได้เกินกว่า 250 คน คนๆนั้นก็จะต้องเป็นรัฐบาล และก็มั่นใจว่าส.ว.คงโหวตให้คนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี คงไม่มีใครกล้าสวนกระแสของประชาชนเป็นแน่
โดยตัวของส.ส.แล้วสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียงของส.ว. ถ้ารวมตัวกันให้ได้เกิน 250 จริงๆก็ไม่มีใครกล้าแข็งขืนและถ้ายืนจำนวนนี้ไว้ให้ได้ คงไม่มีใครที่จะตะบี้ตะบันไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ขืนดันทุรังก็ไปไม่รอด
หรือถ้ารวมกันให้ได้เกิน 376 เสียงก็จัดตั้งรัฐบาลได้โดยไม่ต้องอาศัยเสียงของส.ว.เลยแม้แต่เสียงเดียว หากยึดมั่นว่าเป็นคนของประชาชน มาจากการเลือกตั้ง รวมหัวรวมตัวกันให้ได้ด้วยเสียงของประชาชนเอง ไม่ต้องสนใจเสียงนอกระบบอื่นใด ก็เชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลได้โดยแท้จริง
แต่ที่มันเป็นไปไม่ได้ส่วนใหญ่จะแพ้อำนาจ อยากมีอำนาจจนตัวสั่น เลือกตั้งได้แล้วก็วิ่งหาอำนาจ วิ่งเป็นรัฐมนตรี ขอให้ได้เป็นโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นอำนาจใดที่จะทำให้ได้เป็น ที่แล้วมาก็เป็นอย่างนี้แล้วก็โยนบาปให้ส.ว.
ที่ย้ำเรื่องนี้เพื่อจะบอกว่าเสียงส.ส.250 นั้นเป็นเสียงที่ใหญ่จริงๆ มีพลังมีอำนาจมากกว่าส.ว.250 ไม่อยากจะให้พรรคการเมืองและประชาชนหลงกลต่อมายาคติในเรื่องนี้ เมื่อกฎหมายเลือกตั้งประกาศใช้แล้วและกลางเดือนหน้าเป็นต้นไปการเมืองจะเข้มข้นดุเดือดมากยิ่งขึ้น
ยิ่งฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายทั่วไป ใครจะยอมให้ตีหัวเข้าบ้านฟรีๆ คงได้เห็นดีกันบ้าง อาจยุบสภาให้ฝ่ายค้านชกลมไปก็ได้
เรื่องเสียง 250 นี้เพื่อไทยเขารู้ดี ไม่ยอมเดินไปตามกลเกมที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงหวังพังทลายด้วยแลนด์สไลด์ ในขณะที่อีกฝ่ายยังเดินตามเกมเก่า หวังเอาเสียงส.ว.เป็นตัวตั้ง ยิ่งมาแยกกันเดินด้วยยิ่งไปกันใหญ่ หวังจะได้เป็นกอบเป็นกำและหวังจะนอนมาเหมือนเดิมก็คงจะไม่ใช่ ปัจจัยการเมืองกระแสนิยมและเงื่อนไขต่างๆมันเปลี่ยนไปมาก อาจต้องนอนมาแบบมีพระนำหน้าก็เป็นไปได้
สถานการณ์ตอนนี้ ต้องตั้งสติสวดมนต์ข้ามปีที่วัดไก่เตี้ย สัมฤทธิ์สำเร็จโชคดี เป็นนายกและรัฐมนตรีแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' อ้อนชาวนครปฐม ยัน 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ใช่ประชานิยม
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่นครปฐมให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส. 6 เขต ย้ำทำงานเพื่อประชาชน ไม่หวังผลตอบแทน พร้อมแจงเหตุไม่เข้าร่วมดีเบต เพราะต้องลงพื้นที่คารวะทหารกล้า และเผยคนชายแดนได้กลับบ้านฉลองปีใหม่
เชียงใหม่คึกคัก 'มาดามหยก' นำทีมก้าวอิสระ สมัครสส. ลุยเปลี่ยนเมือง
นางสาวกชพร เวโรจน์ (มาดามหยก)หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ (Indy) นำทีมผู้สมัครสส.ของพรรคมาสมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยเขต 2 เบอร์
วันแรกคึกคัก 'ลูกหมี' นำทัพภูมิใจไทย ล้นห้องประชุมชุมพร
วันแรกรับสมัคร สส.ชุมพร เขต 1-3 “ลูกหมี” บ้านใหญ่ชุมพร นำทีมภูมิใจไทยลงครบทั้ง 3 เขต ท่ามกลางกองเชียร์แห่ให้กำลังใจแน่นห้องโถง ขณะ
กล้าธรรมเชิญ ‘ปวีณา’ ร่วมทัพ นั่งประธานที่ปรึกษาความยุติธรรม
พรรคกล้าธรรม ดึงอดีต สส.หญิงนักทำงานสังคม ร่วมขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองเด็กและสตรี พร้อมลง สส.บัญชีรายชื่อ ชูประสบการณ์กว่า 30 ปี ทำงานจริงในภาคสนาม
ไทยสร้างไทยเปิดตัว ‘น้ำมนต์’ เขต 18 กทม. จับได้เบอร์ 11
กกต.เปิดรับสมัคร สส.แบ่งเขตวันแรก ที่สนามกีฬาไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง พรรคไทยสร้างไทยส่ง “น้ำมนต์” คนรุ่นใหม่ลงชิงเก้าอี้ กทม. เขต 18 ผลจับสลากได้หมายเลข 11
‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน
“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่

