“จุรินทร์” ชี้ ส.ส.ลาออกไม่จำเป็นต้องยุบสภาตามเสมอไป คนจะเป็นนายกนอกจากมี 375 เสียงของสองสภารวมกันแล้ว ยังต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนด้วย รัฐบาลจึงจะไปรอด
18 ธ.ค.2565 – ที่ จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเมืองต่อการที่มี ส.ส. ทยอยลาออกเป็นจำนวนมาก จะเป็นแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือไม่นั้น ว่า การยุบสภาจากที่ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความเหมาะสมแต่ละสถานการณ์มากกว่า เพราะการที่มีผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งลาออก ก็ยังไม่เคยปรากฎชัดว่าจะมีผลในการกดดันให้เกิดการยุบสภา แม้บางยุคก็เคยมีการลาออกเหมือนกัน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า อย่างเช่น ในช่วงรัฐบาลชวน 2 ตอนนั้นตนเองเป็นประธานวิปรัฐบาล มี ส.ส. ฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งก็ลาออก แต่สุดท้ายรัฐบาลก็ทำหน้าที่ทั้งในการบริหารราชการแผ่นดิน และในสภาต่อไปได้ จนกระทั่งเรียกว่าเกือบจะครบเทอม เหลือเพียงสัปดาห์นิดๆ ก็มีการยุบสภา ซึ่งก็ไม่ได้ยุบเพราะเหตุนี้ แต่ยุบเพราะท่านชวน ได้สัญญาว่าจะไม่อยู่ครบเทอม เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าจะมี ส.ส. กดดัน ด้วยการลาออกเพื่อให้เกิดการยุบสภา จะต้องมีการยุบสภาเสมอไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความเหมาะสมของแต่ละกรณีมากกว่า
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ประเมินเสียง ส.ส. ในสภาหรือไม่ว่า ยังมีเสียงข้างมาก สามารถทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติไปได้นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบว่า ณ เวลานี้ รัฐบาลก็ยังมีเสียงมากกว่า
ส่วนการที่มีบางพรรคการเมืองพูดถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีการรวบรวมเสียง ส.ส. กับ ส.ว. ให้ได้เกิน 375 เสียง เพื่อผลักดัน พล.อ.ประวิตร นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองได้ตอบไปชัดแล้วว่า ต้องให้ประชาชนให้คำตอบก่อน ต้องมีผลการเลือกตั้งปรากฎออกมาก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าประชาชนให้การสนับสนุนพรรคการเมืองไหนเป็นจำนวนเท่าไหร่ และพรรคการเมืองต่างๆ รวมกันแล้วใครได้เสียงข้างมาก จึงจะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล กรณีที่จะเป็นการรวมเสียงทั้ง ส.ส. และ ส.ว. นั้น ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ หากมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 2 สภารวมกัน สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรี
“แต่ในการบริหารราชการแผ่นดินตามความเป็นจริงนั้น อย่างน้อยที่สุด คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องได้เสียงจาก ส.ส. ในสภา เกินกว่ากึ่งหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย การบริหารราชการแผ่นดินก็จะไปต่อไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้อยู่ที่เงื่อนไขเดียวว่าได้เสียง ส.ส. ส.ว. เกินครึ่งหรือไม่ แต่จะต้องมีเสียงในสภาผู้แทนฯ เกินครึ่งด้วย ไม่อย่างนั้นก็บริหารไม่ได้ เป็นนายกฯ ได้อย่างเดียว แล้วรัฐบาลก็ไปต่อไม่ได้” นายจุรินทร์ ระบุ
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีสัญญาณภายในอะไรหรือไม่ว่าจะมี ส.ส. ของพรรคย้ายออกไปอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไร มีแต่มาเล่าให้ฟังเหมือนที่เคยตอบไปแล้วว่าจะมีคนนั้นคนนี้จะมาดูด แต่ตอนนี้ ส.ส. ทั้งหมดก็ยังมั่นคง แน่นเหนียวอยู่กับพรรค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ACT เปิด '10 ทุจริต อบจ.' เสียหาย 377 ล้าน เฉพาะอุบลฯ โกงถึง 42 คดี
ACT เปิดข้อมูล '10 ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง' อบจ. ตั้งคำถาม 'ป.ป.ช.' ทำไมคดีน้อยแค่หลักสิบ สวนความเชื่อประชาชน งบท้องถิ่นโกงกันอื้อ
'คารม' สวน 'หมอเชิดชัย' เป็นแค่ผู้เล่นฟุตบอล อย่าคิดแทนเจ้าของทีม
นายคารม พลพรกลาง “รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิริน
'อนุทิน' เมิน 'หมอเชิดชัย' เสนอยุบสภา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีน.พ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์
'ภูมิธรรม' ให้ท้าย 'หมอเชิดชัย' อ้าง พท.-ภท. ยังแน่นปึ้ก
'ภูมิธรรม' ชี้ 'หมอเชิดชัย' ขู่ภูมิใจไทย ไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม อ้างแค่ความเห็น สส. แต่อำนาจยุบสภาอยู่ที่นายกฯ
'พิพัฒน์' ปัด ภท.-รทสช. ฮั้วกันหนุน 'ถาวร' ชิงนายก อบจ.สงขลา
'พิพัฒน์' ปัดข่าว ภท.-รทสช. จับมือส่ง 'ถาวร' ชิง นายก อบจ.สงขลา ยันไม่เคยคุย 'พิมพ์ภัทรา' หลังลือจ่อย้ายซบพรรคนํ้าเงิน รับภูมิใจไทยอยากครองภาคใต้เพิ่ม แต่ไม่ใช้วิธีฮั้วรวมกันตี
'อังกินันทน์' ชนะขาด! ประกาศผลนับคะแนนเลือกตั้ง 'นายก อบจ.เพชรบุรี'
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี (อย่างไม่เป็นทางการ) ณ เวลา 23.59 น. โดยนับครบแล้วทั้ง 734 หน่วยเลือกตั้ง