สะพัด 'สมคิด-สร้างอนาคตไทย' เปิดดีล รวมพรรค 'สุวัจน์-กรณ์' สอท.วงแตก- 'สุพล' เข้า ภูมิใจไทย

เปิดตัวเข้า"พรรคพลังประชารัฐ"อย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย -อดีตส.ส.พัทลุงแปดสมัย "

หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเรื่องดังกล่าวมาร่วมสองสัปดาห์ สุดท้าย ข่าวลือคือข่าวจริง นิพิฎฐ์ แยกวงกับ "สร้างอนาคตไทย" (สอท.) ที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพราะดีเอ็นเอการเมืองต่างกันเยอะ เลยต้องทางใครทางมัน

ท่ามกลางข่าวว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มสมคิด ทั้ง อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคและ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พยายาม เคลียร์ใจกับ นิพิฎฐ์ หลายรอบ เพื่อขอให้อยู่พรรคสร้างอนาคตไทยต่อ เพราะอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค อีกทั้ง ไม่อยากเปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมภาคใต้ในช่วงที่การเลือกตั้ง ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่สุดท้าย เคลียร์กันไม่ได้

เพราะข่าวว่า นิพิฎฐ์ ถอดใจ ไม่อยากร่วมเดินบนถนนการเมืองในนามสร้างอนาคตไทยอีกต่อไปแล้ว เพราะหลายเรื่องที่คุยกันไว้ โดยเฉพาะกับ สมคิด ไม่เป็นตามที่คุยไว้แต่แรก

ยิ่งเมื่อ "พลังประชารัฐ" พอทราบข่าวความระหองระแหงระหว่าง นิพิฎฐ์กับแกนนำสร้างอนาคตไทย พลังประชารํฐ ก็ส่ง "เสี่ยโต- อภิชัย เตชะอุบล "แกนนำพรรคพลังประชารัฐสายกลุ่มทุน ที่มีความคุ้นเคยกับนิพิฏฐ์ดีอยู่แล้ว เพราะทั้งสองคนเคยอยู่ประชาธิปัตย์ด้วยกันมาก่อน โดยเป็นพวก

"คนละสาย-คนละปีก"กับกลุ่ม จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ที่คุมอำนาจเบ็ดเสร็จในพรรคประชาธิปัตย์ จนทำให้ "นิพิฎฐ์-อภิชัย" เคยร่วมกันเคลื่อนไหวในพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการวางแผน "โค่นจุรินทร์" ภายใต้แผนคือเคลื่อนไหวให้กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกเกินครึ่งหนึ่ง เพื่อทำให้ จุรินทร์ พ้นจากหัวหน้าพรรคตามข้อบังคับพรรค แล้วเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่สุดท้ายแผนแตกเสียก่อน โดนกลุ่มจุรินทร์สกัด แผนเลยไม่สำเร็จ

และนับจากนั้น ทั้งนิพิฎฐ์ และ อภิชัย เลยถูกขึ้นบัญชีดำ ในประชาธิปัตย์ จนกระทั่งสุดท้าย ทั้งสองคนเลยอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ จนต้องแยกย้ายกัน

โดย "เสี่ยโต-อภิชัย" เข้ามาอยู่พลังประชารัฐ ส่วนนิพิฎฐ์ไปพรรคสร้างอนาคตไทย แต่เมื่อ นิพิฎฐ์ มีปัญหากับกลุ่ม ดร.สมคิด จนอยู่ไม่ได้ พอ อภิชัย รู้ข่าว เลยไปเจรจากับนิพิฎฐ์เพื่อให้ย้ายมาพลังประชารัฐ ด้วยเงื่อนไขที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการให้เป็น "หัวหน้าทีมพัทลุง พลังประชารัฐ" เพื่อสู้กับ ภูมิใจไทย คู่ปรับของนิพิฎฐ์ ที่เจ้าตัว อยาก "ล้างตา-สางแค้นการเมือง" อยู่แล้ว มันเลยเป็นเงื่อนไขที่ลงตัวหมด นิพิฎฐ์ จึงตัดสินใจ ย้ายเข้าพลังประชารัฐ อย่างที่เห็น

ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัว นิพิฎฐ์ เข้าพลังประชารัฐ ทางตัว "นิพิฏฐ์ "กล่าวว่า หลายคนสงสัยว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ความจริงกับ พล.อ.ประวิตร ครั้งหนึ่งทำงานร่วมกันสมัย รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ที่ตอนนั้น พล.อ.ประวิตรเป็น รมว.กลาโหม ตนเป็น รมว.วัฒนธรรม ฉะนั้นไม่ใช่เพิ่งรู้จัก แต่ด้วยวิถีการเมืองแยกย้ายกันไปอยู่คนละพรรค จนกระทั่งวันนี้ได้รับเกียรติจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ทำให้มาร่วมทำงานกับพลังประชารํฐ

ทั้งนี้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แม้พลังประชารัฐ จะสามารถเจาะพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ได้ ชนิดหักปากกาเซียน เช่นที่ตรัง -ภูเก็ต-สงขลา-ประชาธิปัตย์-ยะลา-นราธิวาส แต่สำหรับที่"พัทลุง" ผู้สมัครของพลังประชารัฐ ไม่สามารถเจาะพื้นที่พัทลุงได้แม้แต่เขตเดียว การเข้ามาของ นิพิฎฐ์ จึงน่าจะทำให้ พลังประชารัฐ แข็งแกร่งขึ้นในพัทลุง

ทำให้การเลือกตั้งรอบหน้า จังหวัดพัทลุง จะเกิดการแข่งขันกันอย่างสูสีเข้มข้น ทั้ง ภูมิใจไทย ที่เลือกตั้งรอบที่แล้ว ได้มา 2 คนจาก 3 เขตแต่เลือกตั้งรอบหน้า ต้องเปลี่ยนตัวหมดจากผลพวงเรื่องเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งคนที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ก็คือ นิพิฎฐ์ นั่นเอง

นอกจากนี้ ยังมี ประชาธิปัตย์ ที่จะนำทีมโดย "นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ห้าสมัย ว่าที่รมช.มหาดไทย" ที่ขึ้นมาเป็น"หัวหน้าทีมจังหวัดพัทลุง"ให้ประชาธิปัตย์เต็มตัวแทน นิพิฎฐ์ ที่ออกไป อีกทั้งยังมี"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ที่ได้ วิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกฯอบจ.พัทลุง มาเป็นหัวหน้าทีมหลัก ของรวมไทยสร้างชาติ และล่าสุดก็คือ พลังประชารัฐ ที่ได้ นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ มาเป็นหัวหน้าทีม

ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จังหวัดพัทลุง จะเป็นการแข่งกันของทั้ง"ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ"ดังนั้น รับประกันความเข้มข้นแน่นอน

แต่ที่น่าสนใจก็คือ การดิ้นรนทางการเมืองของ"สมคิด-สร้างอนาคตไทย"ที่ตอนนี้ข่าวว่าข้างในพรรคกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก เพราะแกนนำพรรค-ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคหลายคน เตรียมแยกทางกับ"กลุ่ม สมคิด"แล้ว

อาทิเช่น "สุพล ฟองงาม อดีตรมช.มหาดไทย อดีตส.ส.อุบลราชธานี อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย" ที่ลาออกจากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ ไปร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยกับ ดร.สมคิด แต่ตอนนี้ ข่าวว่า สุพล กำลังเตรียมชิ่งกลุ่มดร.สมคิด โดยจะย้ายไป "พรรคภูมิใจไทย" เพื่อแท็กทีมอุบลฯ ภูมิใจไทย ให้แข็งแกร่งสู้กับเพื่อไทยให้ได้

หลัง เนวิน ชิดชอบ และภูมิใจไทย ได้บ้านใหญ่จังหวัดอุบลราชธานี ไปแล้วสองตระกูลคือ ตระกูล"สมชัย"ที่ได้ แนน น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ บุตรสาว อิสระ สมชัย อดีตส.ส.อุบลราชธานี หลายสมัย ไปอยู่ด้วย และจะเปิดตัว 16 ธ.ค.นี้ กับ ตระกูล"โค้วสุรัตน์" ที่เป็นตระกูลใหญ่ของจริง ที่อุบลราชธานี ซึ่งภูมิใจไทยได้"ธนะสิทธิ์ โค้วสุรัตน์"ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเศรษฐกิจไทย ไปแล้วเช่นกัน

โดยหากดีล ระหว่าง ภูมิใจไทย กับสุพล ฟองงาม จบลงได้ด้วยดี จะทำให้ ภูมิใจไทย ได้บ้านใหญ่ตระกูล"ฟองงาม"มาด้วยอีกหนึ่งตระกูล

อีกทั้งยังมีข่าวว่า ภูมิใจไทยสายอุบลฯ กำลังติดต่อกับ"วิทูรย์ นามบุตร"อดีตส.ส.อุบลราชธานี หลายสมัยที่ตอนนี้มีน้องชาย คือ วุฒิพงษ์ นามบุตร เป็นส.ส.เขต อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้ยกทีมมาที่ภูมิใจไทยด้วย แม้จะมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า วิทูรย์ จะเข้าพรรคเพื่อไทย หลังมีการเจรจากับ เกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำเพื่อไทยสายอุบลราชธานีที่ต่อสายให้คุยกับ โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร โดยตรง จนปิดดีลเรียบร้อย แต่ตอนหลังข่าวว่า ดีลดังกล่าวเริ่มไม่นิ่ง ทำให้ ต้องจับตา ไม่แน่ กลุ่มตระกูล นามบุตร อาจมูฟมาที่ภูมิใจไทย ซึ่งถ้าออกมาแบบนี้ สนามเลือกตั้งที่อุบลราชธานี เพื่อไทย ได้สู้กับ ภูมิใจไทย ดุเดือด จนสนามเลือกตั้งอุบลราชธานี ร้อนระอุแน่

แต่ที่น่าสนใจคือ ข่าวว่า กลุ่มสมคิด กำลังเปิดดีล กับ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภและกรณ์ จาติกวณิช "สองแกนนำพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อหารือเรื่องความเป็นไปได้ในการที่ "สร้างอนาคตไทยจะไปรวมพรรคกับชาติพัฒนากล้า"

ที่ข่าวว่า ดีลนี้ คุยกันเร็ว และน่าจะได้ข้อยุติภายในเร็ววันนี้ว่าจะรวมกันได้หรือรวมกันไม่ได้ ถ้ารวมกันได้ ก็มาเร็ว เคลมเร็ว

หลังดีลระหว่างพรรคสร้างอนาคตไทยกับไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ วงแตก รวมกันไม่ติด จนกลุ่มสมคิด ต้องสวิงมาที่พรรคสุวัจน์แทน

โดยหากดีลนี้สำเร็จ ถือเป็นสีสันการเมือง ที่น่าสนใจแน่นอน หาก"สุวัจน์-กรณ์-ดร.สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์"จะมาอยู่ที่พรรคเดียวกัน