ศาลอุทธรณ์เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีแกนนำ นปช.ก่อการร้ายเป็น 9 ม.ค.2566 เหตุจำเลยมาไม่ครบ
01 ธ.ค.2565 - ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 74ปี อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายจตุพร หรือตู่ พรหมพันธุ์ อายุ 57 ปี, นายณัฐวุฒิ หรือเต้น ใสยเกื้อ อายุ 47 ปี, นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 71ปี, นายก่อแก้ว พิกุลทอง อายุ 57 ปี, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 64 ปี, นายอริสมันต์ หรือกี้ พงษ์เรืองรอง อายุ 58ปี และแนวร่วม นปช.รวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1- 24 ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืนพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวม 6 ข้อหา กรณีพวกจำเลยได้ยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 20 พ.ค. 2553 เพื่อกดดัน ต่อต้านรัฐบาล และบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ประกาศยุบสภา ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 ยกฟ้องทุกข้อหา เห็นว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่เป็นการก่อการร้าย
โดยวันนี้จำเลยทยอยเดินทางมาศาล อาทิเช่นนายณัฐวุฒิ, นพ.เหวง และนายยศวริศ
ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวก่อนขึ้นไปฟังคำพิพากษาว่า ในกระบวนการต่อสู้คดีเราก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหลาย เรายืนยันในความบริสุทธิ์ และปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อการร้ายมาโดยตลอดตั้งแต่ยังปักหลักชุมนุมจนถึงวันนี้ ดังนั้นข้อเท็จจริงเหล่านี้หากปรากฏต่อสาธารณชนก็เป็นวิจารณญาณในแต่ละบุคคลของแต่ละรุ่นแต่ละช่วงเวลาที่จะพิจารณา เพราะว่าข้อเท็จจริงย่อมมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะมีการเห็นแตกต่าง ฝักฝ่ายกันอย่างไรก็ตามถึงที่สุดเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ หรือแม้กระทั่งคำพิพากษาของศาลก็จะเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษาและพิจารณา
ด้าน นพ.เหวงกล่าวว่า เราเคารพในคำพิพากษาของศาลไม่ว่าจะออกมาแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าท่านจะคำวินิจฉัยว่ามีความผิดหรือต้องเข้าเรือนจำอีกพวกเราก็ยินดีเคารพ หรือสมมุติท่านเกิดให้ความเมตตาพิพากษายกฟ้อง ก็ให้ความเคารพ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลยกล่าวว่า วันนี้เป็นวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จากที่พนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ไป แต่ได้รับรายงานว่าวันนี้อาจจะมีการเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไป หรือไม่โดยมีปัจจัยที่เกิดขึ้นเนื่องจากตัวจำเลยที่มาไม่ครบ ศาลอาจต้องให้เวลาเเละออกหมายจับถ้าหากศาลเขื่อว่าได้รับหมายเเล้วไม่มาตามนัด
ต่อมาศาลได้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา ไปเป็นวันที่ 9 ม.ค.2565
โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงมาจากห้องพิจารณาแล้วว่า ศาลขอเลื่อนนัดเนื่องจำเลยมาไม่ครบ และหากจำเลยคนไหนไม่มาก็จะมีการออกหมายจับ แต่ศาลจะอ่านให้เร็วที่สุด เพื่อให้จำเลยบางคนที่จะเล่นการเมืองต่อ จะได้ไม่ต้องถูกคดีจำกัดในช่วงเวลาหาเสียง จึงได้กำหนดเป็นช่วงต้นเดือนหน้าวันที่ 9 ม.ค. 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป่วยทิพย์ชั้น 14 ร้อน! มวลชนยื่น 4 ข้อเรียกร้อง ป.ป.ช.อย่าทำให้สิ้นศรัทธา
'อดีตแกนนำพันธมิตร - กปปส. - จตุพร' นำมวลชนบุก ป.ป.ช.ยื่น 4 ข้อเสนอประกอบการพิจารณาคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 'ตู่' รับยังไม่ไว้วางใจกันทำหน้าที่ เลขาฯ ป.ป.ช.ขออย่ากังวล ทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน
‘อภิสิทธิ์’ ปัดข่าวลือซุ่มตั้งพรรคใหม่ ย้ำหาก ‘ปชป.’ ยังเป็นแบบนี้ ไม่มีทางคัมแบ็ก
ขณะนี้ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ที่ก็ไม่แปลกเพราะขณะนี้หาพรรคการเมืองที่เราคิดว่าเราสนิทใจในการที่จะเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้อยู่แล้ว
อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ ชำแหละข้อดีข้อเสีย ยกเลิก-ไม่ยกเลิก ‘MOU44’ แนะทางออกรบ.อิ๊งค์
อภิสิทธิ์ ชี้ข้อดี-ข้อเสีย ยกเลิก-ไม่ยกเลิก MOU2544 เสนอทางออกแก้ MOU มัดรัฐบาล ห้ามไปตกลงอะไรที่มีผลกระทบกับเขตแดน ชี้เปรี้ยง เป็นปมร้อนเพราะ คนหวาดระแวงรัฐบาลมีผลประโยชน์อื่นเหนือกว่าผลประโยชน์ของชาติหรือไม่
พรรคประชาชนได้ที! ย้อนเกล็ดทั่นเต้นหากต้านรัฐประหารยากแล้วหาเสียงไว้ทำไม
'ปกรณ์วุฒิ' ย้อน 'ณัฐวุฒิ' ถาม 'เพื่อไทย' หากต้าน 'รัฐประหาร' ยาก แล้วหาเสียงไว้ทำไม หรือมีอำนาจพรรคอื่นกดไว้ ก็ให้บอกมาตรงๆ โวถ้า 'อดีตก้าวไกล' ไม่เริ่มก็ไม่มีพรรคไหนขยับ
'ทั่นเต้น' ประกาศหนุนร่างยึดอำนาจกองทัพแม้ไม่เชื่อสกัดรัฐประหารได้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก