แกนนำยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ล้มกระดานร่างกม.เลือกตั้งฯ ฟันธงหากใช้หาร 100 เพื่อไทย-ทักษิณ ผงาดชนะเลือกตั้ง ทิ้งห่างพรรคอันดับสองกระจุย เชื่อพรรคบิ๊กป้อมพร้อมเดินเกมสวิงย้ายขั้วไปจับมือพท.ตั้งรัฐบาลร่วมกัน ทิ้งบิ๊กตู่ ให้เป็นฝ่ายค้าน
27 พ.ย.2565-นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะแกนนำสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส.ฯ ที่ให้ใช้ระบบหาร 100 คำนวณจำนวนที่นั่งส.ส.บัญชีรายชื่อในสภาฯ มีเนื้อหาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ วิเคราะห์ถึงผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ว่า หากสุดท้ายถ้าศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง โดยวินิจฉัยว่าร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส.ที่ใช้ระบบหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และระบบการเลือกตั้ง ส.ส. ใช้ระบบหาร 100 ประเมินว่าพรรคเพื่อไทยจะมีทั้งส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ โดยจะได้คะแนนเสียงมาอันดับหนึ่ง จำนวน ส.ส.จะทิ้งพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับสองแบบขาดลอย
นพ.ระวี กล่าว่า ที่บางฝ่ายไปมองว่าพล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯต่อ ขอมองตรงกันข้าม เพราะมองว่าอาจจะ50-50 โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองที่เป็นแนวร่วมเดียวกันอาจจะได้เป็นรัฐบาลในสมัยหน้า หากใช้หาร 100 แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล ยังไงก็จะมีส.ส.น้อยลง เพราะคะแนนในบัญชีรายชื่อฐานจะอยู่ที่ประมาณ 370,000 คะแนนต่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หนึ่งคน อีกทั้งส.ส.บัญชีรายชื่อเลือกตั้งรอบหน้าก็ลดลงจากตอนเลือกตั้งปี 2562 เพราะตอนนั้นมีส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 150คน แต่ครั้งหน้าเหลือ 100 คน
ส่วนพลังประชารัฐ หากพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร ถ้ายังเหนียวแน่นเหมือนเดิม มองว่าก็มีโอกาส 50-50 ที่จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัย แต่หาก3 ป.แตกกัน บิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม แยกกัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ บิ๊กป้อมอยู่พลังประชารัฐต่อ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ส.ส.ในพรรคก็จะแบ่งกัน โดยหากมองในแง่ดี พรรคบิ๊กตู่อาจได้ห้าสิบเสียง พรรคพลังประชารัฐได้มาห้าสิบเสียง ผลคือพลังประชารัฐก็จะเป็นรัฐบาลแบบเดิม ภายใต้องค์ประกอบคือพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันอย่าง ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น รวมเสียงกันแล้วมากกว่าฝ่ายเพื่อไทย ขั้วนี้ก็เป็นรัฐบาล แต่หากเพลี่ยงพล้ำ คือฝ่ายเพื่อไทยกับแนวร่วม ได้ส.ส.รวมกันแล้วเกือบจะเกิน 250 เสียง อาจเป็นไปได้ที่บิ๊กป้อมจะสวิงไปที่ฝั่งเพื่อไทย จนรวมตัวจัดตั้งรัฐบาลร่วม300 เสียง โดยบิ๊กป้อมอาจมีโอกาสเป็นนายกฯ จากการต่อรองตกลงกันอะไรหรือไม่ แต่เชื่อว่าบิ๊กป้อมจะเป็นรัฐบาลแน่นอน
“เกมนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเบรกไม่ให้ส.ส.และกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ ตามบิ๊กตู่ไปที่รวมไทยสร้างชาติ เช่น กลุ่มสุชาติ ชมกลิ่น ถึงเวลาจริงๆ จากที่บอกจะมีตามไปด้วยประมาณยี่สิบคน สุดท้ายแล้วอาจไปกับสุชาติแค่สิบคน ส่วนกลุ่มสามมิตร ก็ต้องคิดแล้วว่าจะไปรวมไทยสร้างชาติกับบิ๊กตู่ที่ไม่แน่นอนว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน หรือจะอยู่กับพลังประชารัฐต่อ ที่ก็มีโอกาสได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ที่ก็คือ อยู่กับบิ๊กป้อม ยังไง ก็ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ทำให้สามมิตรก็อาจไม่ไปไหน ก็อยู่กับบิ๊กป้อมดีกว่า เพราะอยู่ด้วย ทุนก็ไม่ต้องออก กระสุนมีให้เพียบ เกมจะพลิกทันที ดังนั้นที่บอกจะมีกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ อาจแยกตัวออกไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ ตามบิ๊กตู่อออกไปด้วย ถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่อาจไม่ไป เกมอาจพลิกได้ ไม่ใช่ว่ากระแสบิ๊กตู่ดี จะตามไปกับบิ๊กตู่ เพราะเหนืออื่นใด ส.ส.ส่วนใหญ่ต้องการอยู่ฝ่ายรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หากสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญ จนสุดท้ายกระบวนการหาทางออกของรัฐสภากลับมาเป็นว่าให้ใช้หาร 500 และให้มีส.ส.พึงมี ผลที่จะเกิดขึ้นคือ เพื่อไทย ส.ส.ก็จะหายไปจากเป้าหมายของพรรคอย่างน้อยก็ 25-30 เสียงที่หายไปจากส.ส.บัญชีรายชื่อที่เพื่อไทยเคยทำได้ ประมาณ 25-30% จากคะแนนในบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ แต่ที่หายไปจากเพื่อไทย ก็จะไปโป่งที่พรรคก้าวไกลแทน
“มองว่าวันนี้เพื่อไทยกับบิ๊กป้อมคงไม่ห่วง เพราะวันนี้ก้าวไกลคงชิ่งไปรอเป็นฝ่ายค้านหลังเลือกตั้งอีกรอบ แต่สิ่งที่บิ๊กป้อมจะได้หากใช้หาร 500 คือพรรคพลังประชารัฐ ก็จะมีส.ส.เพิ่มขึ้นมาจากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่จะทำให้ บิ๊กป้อมมีพลังไปต่อรองกับเพื่อไทย หากในอนาคตมีการจับมือกันระหว่างเพื่อไทยกับบิ๊กป้อม เทียบกับหากใช้หาร100 ส.ส.เพื่อไทยจะมีมากกว่าพลังประชารัฐแบบขาดลอย แต่หากใช้หาร 500 ก็จะทำให้เพื่อไทยส.ส.หายไปร่วมๆ 30 คน แต่พลังประชารัฐ ก็ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้นมา ขั้นต่ำก็ประมาณ 9-10 คน ทำให้บิ๊กป้อมมีพลังต่อรองในการขอเป็นนายกฯสมัยหน้า เมื่อไปจับมือกับเพื่อไทย โดยหากกลับมาใช้ระบบหาร500 จะทำให้พรรคเล็ก รอดชีวิตเข้ามาในสภาฯ อาจจะประมาณ 7-8 พรรค คงไม่มากเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่พรรคเล็กเข้ามาร่วมๆ 13 พรรค เพราะเก้าอี้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เหลือแค่ 100 คน จากเดิมตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่มี 150 คน”
นพ.ระวีกล่าวว่า ยังยืนยันอย่างที่เคยบอกไว้ หาก3 ป.แตกคอกัน ซึ่งบิ๊กป้อมกับบิ๊กตู่อาจไม่พอใจผม แต่ผมพูดความจริงก็คือถ้าแตกคอกัน 3 ป.สูญพันธุ์ เพราะโอกาสที่พรรคขั้วรัฐบาลตอนนี้จะกลับมาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งอีกครั้ง จะเหลือแค่ 40% โดยฝ่ายเพื่อไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาล 60% โดยหากเป็นแบบนี้ อนาคตของพล.อ.ประยุทธ์ที่ไปรวมไทยสร้างชาติ อาจจะเป็นฝ่ายค้าน แล้วตัวพล.อ.ประวิตร จะมั่นใจได้อย่างไรว่าถึงเวลาจริงๆ เพื่อไทยจะยอมให้บิ๊กป้อมเป็นนายกฯ ถ้าเพื่อไทย ส.ส.มาสัก 200 คน ประชาชาติ มา10 เสียง เสรีรวมไทยมา 10 -เพื่อชาติมาสัก 3 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ หากได้ส.ส.มาไม่เยอะพอ เพื่อไทยอาจไปดึงชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนา ดึงพวกนี้มา ก็อาจได้สัก 275-280 เสียง ก็ตั้งรัฐบาลได้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ทำให้พรรคทหาร จากเดิมที่พรรคทหาร อยู่ได้แค่สมัยเดียว ก็หายไปกันหมด แต่ตอนนี้อยู่มาได้หลายปี แต่ท้ายสุดอาจสูญพันธุ์ เพราะหากต้องไปเป็นฝ่ายค้านสักแค่สมัยเดียว สมัยหน้า หากหวังจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกน่าจะยากแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
แก้วสรร : ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ