'บิ๊กตู่' โวไทยพร้อมกลับมาเดินทางรับนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจ

"บิ๊กตู่" โพสต์หลังลุย ครม.สัญจรภาคใต้ ส่งสัญญาณทั่วโลก ไทยพร้อมกลับมาเดินทาง เปิดรับนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจอีกครั้ง

17 พ.ย.2564 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เนื้อหาพร้อมรูปในเพจเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-chan-o-cha" ว่าพี่น้องประชาชนที่รักครับ เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) เป็นอีกวันที่ผมรู้สึกยินดีที่ได้มาลงพื้นที่ตรวจราชการ ในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้สัมผัสถึงความพร้อมอย่างเต็มที่ ของพี่น้องประชาชน ในการต้อนรับผู้ที่มาเยือน เพื่อเดินหน้าประเทศแบบ New normal ทั้งนี้ภายหลังการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมา มีผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแล้ว 54,939 คน ในจำนวนนี้ พบว่าติดเชื้อโควิดเพียง 65 คน หรือ 0.12% ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนที่น้อย และสามารถบริหารจัดการได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อส่วนรวม

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด พร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชนนั้น ถือว่าเกิดผลสำเร็จในหลายประการ เช่น 1. การอนุญาตให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลน เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยแก่ชุมชน เนื้อที่รวม 4,105 ไร่ ใน 21 จังหวัด โดยมีพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด เพื่อลดความขัดแย้งในเรื่องการบุกรุกครอบครองผืนป่าชายเลน แล้วเพิ่มการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนต่อไป

2. การผลักดันโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี จำนวน 7 โครงการ วงเงิน 494 กว่าล้านบาท ได้แก่ (1) โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล (2) โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง (3) โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อม จังหวัดระนอง (4) โครงการ Phuket Health Sandbox จังหวัดภูเก็ต (5) โครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา จังหวัดพังงา (The Park Khaolak) (6) โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร-ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด จังหวัดกระบี่ และ (7) โครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จังหวัดกระบี่ ซึ่งทั้ง 7 โครงการนี้ จะช่วยสร้างความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในจังหวัดภาคใต้ตามนโยบายเปิดประเทศ

3. การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการงานเมกะอีเว้นท์ รวม 3 รายการ ได้แก่ (1) งาน Expo2028 Phuket-Thailand ในปี 2571 เพื่อผลักดันบทบาทของประเทศไทยและภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก (2-3) มหกรรมพืชสวนโลก 2 ครั้ง ที่จังหวัดอุดรธานี ในปี 2569 และจังหวัดนครราชสีมา ในปี 2572 เพื่อแสดงศักยภาพในการวิจัย พัฒนา และเทคโนโลยี ด้านพืชสวนแบบครบวงจรของไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ระดับโลก และต่อยอดเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และศูนย์กลางนวัตกรรมด้านการเกษตร ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง (GMS) ที่สามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจ BCG Model ทั้งนี้ หากประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ เมกะอีเว้นท์ทั้ง 3 งาน ประเมินได้ว่าจะสามารถสร้างการจ้างงาน 230,442 คน สร้างเงินสะพัดในประเทศรวม 100,173 ล้านบาท เก็บภาษีเข้ารัฐ 20,641 ล้านบาท และผลักดันการเติบโตให้จีดีพีได้ 68,520 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบให้เสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา และภูเก็ต ประกอบด้วย 6 พื้นที่อุทยาน และ 1 พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่รวมกว่า 2,908 ตารางกิโลเมตร ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ ที่นอกจากสร้างรายได้หล่อเลี้ยงชาวชุมชนแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายาก เช่น ชะนีมือขาว ค้างคาวแม่ไก่เกาะ กระเบนราหู วาฬหัวทุย โลมา เต่ามะเฟือง เต่าหญ้า ที่นับวันจะลดลงไปมาก ดังนั้น เราต้องรักษาระบบนิเวศเหล่านี้ไว้ให้ดี เพื่ออนุรักษ์สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานไทยได้ภาคภูมิใจต่อไป

“ผมเชื่อว่าในการลงมาประชุม ครม.สัญจร ที่ภาคใต้ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณต่อทั้งพี่น้องชาวไทยในประเทศ รวมถึงทั่วโลก ว่าประเทศไทยเราพร้อมที่จะกลับมาเดินทาง และเปิดรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจอีกครั้ง ภายใต้การควบคุมโรคที่เหมาะสม และประเทศไทยพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เพื่อพลิกโฉมประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเกษตร สิ่งแวดล้อม นวัตกรรม โลจิสติกส์ การคมนาคมขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานในทุกภูมิภาคของประเทศ ผมขอให้พวกเราทุกคนมาร่วมมือช่วยกัน ทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริงโดยเร็ว เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องชาวไทยทุกคนครับ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิด 24 โครงการ 'ครม.สัญจร' เทงบเอาใจ 4 จังหวัดอีสานใต้

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จ.นครราชสีมา ให้ความเห็นชอบการจัดสรรงบกลางฯ ปี 2567 โครงการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 หรือ ภาคอีสานใต้ 4 จังหวัด

ชงบูรณะพระนอนเก่าแก่ 1,300 ปี รับครม.สัญจรโคราช

1 ก.ค.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะนำเสนอเรื่องการจัดงานมหรสพสมโภชเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระช

'สุวัจน์' เตรียมพร้อมรับประชุม 'ครม.สัญจร' ที่โคราช 1-2 ก.ค.นี้

"สุวัจน์" เตรียมการจัดประชุม ครม.นอกสถานที่ พร้อมจัดอาหารโต๊ะโคราชให้ นายกฯและคณะรัฐมนตรี การันตีความอร่อย อาทิ ต้มยำไก่บ้านใบมะขามอ่อน , ขั่วหมี่โคราช , ไก่ย่างท่าช้าง , ส้มตำโคราช เป็นต้น

นายกฯ ลงร้อยเอ็ด ติดตามแก้ปัญหายาเสพติดเมืองธวัชบุรี ต้นแบบบูรณาการทุกภาคส่วน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. - 2 ก.ค. ที่จังหวัดร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่

'เศรษฐา' โต้เสียงแขวะ! ลงพื้นที่ถี่ได้ปริมาณแต่ไร้คุณภาพ

'เศรษฐา' โต้เสียงแขวะลงพื้นที่ได้ปริมาณแต่ไร้คุณภาพ ชี้เรื่องการเมืองไม่เอามารกหู รับรำคาญบ้าง ลั่นใช้เวลาวันหยุดฟังปัญหาจริง จ่อลุยทัวร์อีสาน - ครม.สัญจรโคราช