‘ชัยชนะ’ ยกโพลปลื้มผลงานจัดเอเปก ชี้ ‘บิ๊กตู่’ สร้างบทบาทจนได้รับการยอมรับทั้งคนไทยและนานาชาติ การันตี ‘จุรินทร์’ เหมาะสมท้าชิงนายกฯ
21 พ.ย. 2565 – นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-PacificEconomic Cooperation : APEC) หรือ เอเปก 2022 (APEC 2022) เมื่อวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ถือเป็นผลสำเร็จที่ประเทศไทยได้รับจากการเป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมา มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มพยายามปั่นกระแสในทางลบและพยายามด้อยค่าจนสร้างความวิตกกังวลให้กับคนไทยโดยรวม แต่ที่สุดแล้ว การประชุมฯ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับคนไทยทุกคน โดยเฉพาะการที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจทั้งหมด 21 เขต ได้ลงนาม “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว” หรือ Bangkok Goals on Bio-Circular-Green (BCG) Economy โดยมีเป้าหมายสำคัญ 4 ด้าน คือ สนับสนุนการจัดการทุกความท้าทายทางสิ่งแวดล้อม ต่อยอดการค้าการลงทุนที่ยั่งยืนและครอบคลุม ให้สอดรับกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้และจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และ เดินหน้าบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการของเสียอย่างยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายไม่เหลือทิ้ง หรือซีโรเวท (Zero Waste) ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคที่มีความผันผวนอย่างสูง ทั้งสถานการณ์ที่มีความวิตกกังวลกับโรคอุบัติใหม่ และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่มีการผันแปรของเหตุการณ์อยู่เรื่อยๆ รวมทั้งเมื่อข่าวการประชุมออกไปแล้ว ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้นำประเทศและสื่อมวลชนต่างประเทศที่มารายงานข่าว ว่าเป็นการจัดการประชุมที่ดีที่สุดเข้าขั้นระดับเวิลด์คลาส ถือเป็นการเผยแพร่เกียรติภูมิของประเทศไทยและสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ
ส่วนกรณีที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจต่อการจัดประชุมเอเปกในประเทศไทยและพอใจต่อบทบาทการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงพาณิชย์ นั้น แสดงให้เห็นว่า บทบาทของนายกรัฐมนตรีไทยในการประชุมระดับโลกได้รับการยอมรับจากคนไทยทั้งประเทศ และสร้างภาคภูมิใจให้กับประชาชน ลบล้างคำสบประมาทและการด้อยค่าของคนในหลายๆ ส่วน
ในส่วนของนายจุรินทร์นั้น เป็นการการันตีถึงบทบาทพรรคประชาธิปัตย์ในเวทีการเมืองระดับโลก ตามอุดมการณ์ของพรรคข้อที่ 10 ที่ระบุว่า พรรคจะส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างประเทศ โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีบทบาทที่โดดเด่นในเวทีระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ที่มีบทบาทสำคัญในการไม่ให้ประเทศต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.อ.(พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการก่อตั้ง “สมาคมอาเซียน” หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนพัฒนามาเป็นประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี (AEC) ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ที่มีบทบาทอย่างสูงในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ดร.ศุภชัย พาณิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด ตั้งแต่ปี 2548 – 2556 เป็นต้น ดังนั้น บทบาทของนายจุรินทร์ ในการทำหน้าที่สำคัญในการเจรจาทางการค้า จนกระทั่งสามารถพัฒนาเพื่อเตรียมจัดตั้งเป็นเขตการค้าเสรีในประเทศสมาชิกของเอเปกนั้น ก็ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญ ในการทำให้ประชาชนคนไทยได้ประโยชน์ และเป็นการแสดงให้เห็นว่า นายจุรินทร์ มีความเหมาะสมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า
สำหรับตนแล้ว การประชุมเอเปกครั้งนี้นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากผลประโยชน์ที่ได้รับในระดับชาติแล้ว ชาวบ้านคนธรรมดาก็ได้รับผลประโยชน์ในเรื่องของการผลักดันของดีในระดับพื้นที่ เช่น คาเวียร์ จากโครงการหลวง ที่ จ.เชียงใหม่ ปลากุเลาตากใบ จ.นราธิวาส ผักปลอดสารพิษของ จ.ตรัง เนื้อโคราชวากิว จ.นครราชสีมา เป็นต้น ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับบรรดาผู้นำเขตเศรษฐกิจ และมีคนตัวเล็กตัวน้อยจำนวนมากที่ภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมฯ คราวนี้ ตามคำประชาสัมพันธ์ที่ว่า ‘เพราะเจ้าบ้านที่ดีเป็นได้ทุกคน’ แต่สำหรับกลุ่มการเมืองและกลุ่มมวลชนที่ออกมาก่อความวุ่นวายเพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือแม้แต่คนที่คอยสนับสนุนหรือให้ท้ายให้มีการออกมาสร้างความไม่สบายต่อประชาชนโดยรวมนั้น ผมก็เคยเตือนแล้วว่า ควรวางเป้าหมายส่วนตัวทางการเมืองลงชั่วคราวเสียก่อน และควรมาร่วมกันทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดี เพื่อหน้าตาของประเทศและรักษาผลประโยชน์โดยรวม แต่ปรากฏว่า ยังคงดันทุรังเดินหน้าจัดการชุมนุม และต้องการให้เกิดความรุนแรงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีต่อประเทศ
“ซึ่งผลปรากฏว่า นอกจากประชาชนจะส่งเสียงชื่นชมพร้อมให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว กลุ่มมวลชนฯ ก็ได้รับคดีตามตัวบทกฎหมาย เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่า ประชาชนคนไทย ก็น่าจะทราบแล้วว่า วิถีทางทางการเมืองที่เอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว บนความสุ่มเสี่ยงที่จะเสียผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศที่จะได้รับนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและถือเป็นข้อที่ควรพิจารณาสำหรับประชาชนต่อกลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง ในการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงอีกด้วย” นายชัยชนะ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งเกาะติด 7จังหวัดภาคใต้ที่เจอฝนถล่มหนัก
นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน
นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้
เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ
เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!
'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน
‘อิ๊งค์’ตีปี๊บผลงาน100วัน
“นายกฯ อิ๊งค์” ต่อสายยินดี “ทรัมป์” พร้อมชวนมาเมืองไทย นายกฯ