ปชป. สวน 'อนุทิน' แยกมารยาทกับถูกต้อง นโยบาย รบ. ไม่มี 'กัญชาเสรี'

‘ราเมศ’ สวน ‘อนุทิน’ ต้องแยกมารยาทการเมืองออกจากคำว่าถูกต้อง ยัน ปชป. ยึดประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ของพรรคร่วม ยันนโยบายรัฐบาลไม่มีคำว่า ‘กัญชาเสรี’

18 พ.ย. 2565 – นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลกับมารยาททางการเมืองในเรื่องร่างกฎหมายกัญชาว่า หลักเรื่องนี้ที่จำเป็นต้องออกมาชี้แจงคือ สาระสำคัญของคำว่ามารยาทในทางการเมืองควรต้องแยกออกจากกันกับคำว่าถูกต้อง การร่างกฎหมายที่ออกจากสภาจำเป็นที่ ส.ส.ต้องยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล

“มารยาทที่สำคัญที่มีต่อประชาชนคือการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ถ้าเห็นแก่ประโยชน์ของคำว่าพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่ใช่สถาบันทางการเมืองที่จะเป็นหลักให้กับประเทศได้ ไม่อยากให้มาทวงบุญคุณกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยปราศจากเหตุและผล” นายราเมศ ระบุ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา ไม่มีคำว่ากัญชาเสรี ชัดเจนในนโยบาย หน้าที่ 31 ข้อ 4 ตอนท้าย ได้ระบุไว้ชัดว่า“ศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกําหนดกลไกการดําเนินงาน ที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด”

“ชัดเจนในนโยบายรัฐบาล ไม่มีคำว่ากัญชาเสรี มีหลักที่ตรงกันคือ ใช้กัญชาในทางการแพทย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยนโยบายรัฐบาลได้บอกไว้ชัดว่าให้กําหนดกลไกการดําเนินงาน ที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคม ตรงนี้จะชัดมากว่า นโยบายรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับสังคมโดยรวม เมื่อร่างกฎหมายกัญชาเข้าสู่การพิจารณาของสภา เมื่อไม่รัดกุม และมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างแน่แท้อยู่แล้ว คนที่เป็น ผู้แทนปวงชนชาวไทย ส.ส.จะปล่อยให้ผ่านไปได้อย่างไร ก็ต้องปรับต้องแก้ให้ดีที่สุด หากไม่ดีที่สุด ก็มีสิทธิ์ไม่เห็นด้วยตามกลไกของสภา” นายราเมศ กล่าว

ส่วนที่บอกว่าเยาวชนเข้าไม่ถึงแน่นอน ห้ามขายนักเรียน-นักศึกษานั้น ข้อมูลนี้แค่บางส่วน แต่ในเนื้อหาของร่างกฎหมาย ความเป็นจริงการควบคุมไม่ได้รัดกุมครอบคลุมทั้งหมด สถานศึกษาจะควบคุมอย่างไร การสูบกัญชาที่บ้านผู้จดแจ้ง ควบคุมด้วยมาตราไหน เด็กและเยาวชนไปรวมกลุ่มกันที่บ้านผู้จดแจ้งควบคุมด้วยมาตราไหน นี่คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วง

นายราเมศกล่าวตอนท้ายว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ในสภาที่ต้องว่ากันไปตามกลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ ผลจะออกมาอย่างไร ทุกพรรคควรเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน ถ้าชนะแล้วสังคมแพ้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแพ้แล้วสังคมได้ประโยชน์นั่นคือชัยชนะของสังคม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง

เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.

จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ

'สรรเพชญ' ทุบเปรี้ยง อย่าลากกันไปแก้จริยธรรม เอื้อประโยชน์พวกพ้องนักการเมือง

สส.ปชป.ชี้แก้รัฐธรรมนูญไม่ตอบโจทย์ปัญหาประชาชน ดักคออย่าลากกันไป เอื้อประโยชน์พวกพ้องนักการเมือง  จี้ตอบให้ได้ประชาชนได้ประโยชน์อะไร