'พริษฐ์'เสนอแก้รธน. ต่อ รัฐสภา ให้หยุดอ้าง 16 ล้านเสียงรับรองรธน.ปี60 ท้า ให้เห็นชอบแล้วไปวัดตอนทำประชามติ ชี้ ไทยป่วยเจอ 'ไวรัสตู่' จวก ส.ว.ไร้ความชอบธรรม-ไม่ยึดโยงปชช. เสนอโละทิ้งเหลือแค่ส.ส. ระบุ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีสืบทอดอำนาจระบอบประยุทธ์ ด้าน 'ปิยบุตร' ชงปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกม.279 จับคนทำรัฐประหารลงโทษ ป้องกันนายทหารก่อการซ้ำ
16 พ.ย.2564- ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภาร่วมกัน ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และประชาชนเข้าชื่อ จำนวน 1.3 แสนคน เป็นผู้เสนอ โดยนายพริษฐ์ กล่าวนำเสนอหลักการและเหตุในการเสนอแก้รัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยเป็นผู้ป่วยร้ายแรง 3โรค คือ 1.โรคเศรษฐกิจอ่อนแอ 2.โรคเหลื่อมล้ำเรื้อรัง 3.โรคประชาธิปไตยหลอกลวง เป็นผลจากไวรัสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่สิ่งที่อันตรายกว่าไวรัสตัวนี้คือ ระบอบประยุทธ์ ที่มีรัฐธรรมนูญปี2560 ปกป้องอยู่ เพื่อสืบทอดอำนาจให้พล.อ.ประยุทธ์ มีกลไกต่างๆที่ควบคุมได้เบ็ดเสร็จจากส.ว. องค์กรอิสระ ช่วยผูกขาดอำนาจ ไม่ว่าจะบริหารประเทศอย่างไร
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราต้องการคือการทำให้ประเทศแข็งแรงผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อฆ่าไวรัสพล.อ.ประยุทธ์ โดยต้องมีรัฐธรรมนูญภาคประชาชน เป็นการฉีดวัคซีนเข็ม 1ให้ประเทศไทย มีข้อเสนอ 4ข้อคือ 1.ยกเลิกส.ว.ให้เหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว เพราะส.ว.ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย มีอำนาจล้นฟ้า แต่ไม่มีที่มายึดโยงจากประชาชน รัฐสภาดีที่สุดคือ รัฐสภาที่ไม่มีวุฒิสภา มีข้อดีคือช่วยประหยัดงบประมาณประเทศ เงินเดือนส.ว.บวกที่ปรึกษา ผู้ติดตาม อยู่ที่ 800ล้านต่อปี รวมค่าน้ำ ค่าฟ้า ค่าประชุม มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ไม่รู้คุ้มค่าหรือไม่ และช่วยให้มีกระบวนการนิติบัญญัติรวดเร็ว กระชับ ส่วนข้อกังวลการยกเลิกส.ว.นั้น จะมีกลไกอื่นมาทดแทนได้และอาจมีประสิทธิภาพมากกว่า หากเห็นว่าควรมีส.ว.อยู่เพื่อถ่วงดุลอำนาจรัฐบาลนั้น ขอให้เพิ่มอำนาจส.ส.ฝ่ายค้านในการตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลแทน การให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลการทำงานของรัฐได้ละเอียดขึ้น การออกกฎหมายคุ้มครองประชาชนที่เปิดโปงการทุจริต ข้อทักท้วงการทุจริตต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น กรณีเรือดำน้ำ เกิดจากการทักท้วงของประชาชน ไม่ใช่การทักท้วงจากส.ว.
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า 2.การเสนอยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีและแผนการปฏิรูปประเทศ เพราะตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติไม่มีตัวแทนภาคประชาชน การกำหนดแนวทางบริหารประเทศล่วงหน้า 20ปี ในสภาวะที่โลกมีความผันผวนเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่น่ากังวลคือ การไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี จะมีความผิด กำหนดให้ลงโทษรัฐบาลที่ไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติได้ เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจรัฐบาลประยุทธ์ และเล่นงานคู่แข่งทางการเมือง ข้อเสนอเหล่านี้ไม่สุดโต่ง เป็นเรื่องปกติในประเทศประชาธิปไตย ส่วนที่ระบุร่างแก้ไขฉบับประชาชน มีความขัดแย้งกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ขัดแย้งกับร่างรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบบัตรเลือกตั้ง 2ใบนั้น เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ทำขึ้นก่อนที่ร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาฯให้ความเห็นชอบจะแก้ไขเสร็จ เรายินดีแก้ไขร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนในชั้นกมธ. ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบไป ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นระบบที่ไว้วางใจประชาชน เลือกตัวแทนเข้ามาผ่านกลไกรัฐสภา ไม่ให้ทหารเข้ามาแก้ปัญหา ขอให้หยุดยกเสียง 16 ล้านเสียง อ้างเป็นเสียงส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญปี2560 ขอให้รับร่างแก้ไขฉบับนี้ แล้วไปวัดที่การทำประชามติ
จากนั้นเวลา 10.30 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมเสนอ ชี้แจงว่า 3.การปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาแม้จะอมพระมาพูดว่า ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระมีความเป็นกลาง พูดให้ตายประชาชนก็ไม่เชื่อ เพราะมีที่มาจากคสช. องค์กรเหล่านี้มีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนชี้ชะตานักการเมืองได้ ฝ่ายการเมืองอยากเข้ามาช่วงชิงองค์กรเหล่านี้ เพราะให้คุณให้โทษได้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจึงเสนอปรับโครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญให้มีที่มาโดยให้ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอมาฝ่ายละ 6คน รวมเป็น 18คน ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาคัดเลือกเหลือ 9คน ใช้มติ 2ใน3 ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีความถ่วงดุล เพราะมาจากตัวแทนรัฐบาล ฝ่ายค้าน ศาลฎีกาฝ่ายละ 3คน นอกจากนี้ให้แก้ไขเรื่องอำนาจศาลรัฐธรรมนูญให้เหลือเฉพาะพิจารณาร่างพ.ร.บ. ใดขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ การขัดแย้งระหว่างองค์กรเท่านั้น และให้ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงให้มีระบบถอดถอนศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระได้ แต่ไม่ใช่ให้ถอดถอนกันง่ายๆ มีกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ต้องกังวลว่า ส.ส.จะครอบงำศาลรัฐธรรมนูญ แต่ออกแบบให้มีการถ่วงดุล
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า 4.การล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร โดยยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา279 ที่รับรองคำสั่งและการกระทำของคสช.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่สร้างหลุมดำและความด่างพร้อยให้รัฐธรรมนูญ เราจะเขียนคุ้มครองแบบมาตรา 279 ไม่ได้ เพราะจะหมายความว่าถ้าทำรัฐประหารสำเร็จจะไม่ถูกลงโทษ ฉะนั้น ต้องยกเลิกมาตราดังกล่าว เพื่อให้การรัฐประหารเป็นโมฆะ ให้ผู้ที่ทำรัฐประหารถูกดำเนินคดี การเสนอเช่นนี้ไม่ได้คิดล้างแค้นใคร แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นายทหารกล้าทำรัฐประหารอีกต่อไป
“ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นการออกแบบสร้างกติกาเป็นกลาง ไม่ใช่เขียนกติกาเฉพาะคนชนะ กำราบฝ่ายแพ้ให้ราบคาบ ไม่เห็นเหตุผลที่สมาชิกรัฐสภาจะไม่เห็นชอบร่างแก้ไขฉบับประชาชน หากสมาชิกให้ความเห็นชอบวาระ 1 ความเห็นที่แตกต่างกันยังมีโอกาสปรับปรุงในวาระ 2 และถ้าผ่านวาระ 3ไปได้ ก็ยังมีหนทางร้องศาลรัฐธรรมนูญและทำประชามติ ผมขอให้สมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบลงมติรับวาระหลักการไปก่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปิดประตูรับรับฟังร่างภาคประชาชน เพื่อให้ได้ศาลรัฐธรรมนูญที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ไม่มีการรับรองการทำรัฐประหาร จะได้ไม่มีคำวินิจฉัยของศาลแบบเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ก่อวิกฤติการเมือง และมีองค์กรอิสระที่เป็นกลาง” นายปิยบุตร กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
'ไอติม-กมธ.การเมือง' รุดขอความชัดเจนศาลธรน. หวังได้คำตอบปมทำประชามติ 2 ครั้ง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการการเมืองการมีส่วนร่วม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมหารือกับประธานศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า อย่างที่เราทราบกันดีว่าการ
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
'เอกนัฏ' เผย รทสช.ไม่ขัดแก้รธน. แม้ไม่มีนโยบาย แต่ขอห้ามแตะหมวด 1,2
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการพู
'ปชน.' ตีปี๊บ! 1 ปีฝ่ายค้านผลงานเพียบ เมินเรตติ้งร่วง โต้ฮั้ว พท.
'พรรคประชาชน' โวผลงานฝ่ายค้าน 1 ปี' เสนอกฎหมาย 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง 'รุก-รับ' ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' เมินผลโพลคะแนนร่วง เปรียบ 'เตะบอล' ต้องรอจบ 90 นาที