15 พ.ย.2565-นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า การประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานในวันที่ 18-19 พ.ย. มีประกาศห้ามชุมนุมบริเวณสถานที่จัดการประชุม ซึ่งตนไม่เห็นด้วย ภาคประชาชนควรได้รับพื้นที่ให้การแสดงความเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล มีสิทธิในการจัดชุมนุมโดยสันติ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนโดยรอบสถานที่จัดประชุม การออกประกาศดังกล่าวจึงเห็นได้ชัดว่า รัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงสิทธิของประชาชนเป็นหลักและไม่เห็นประโยชน์ของการเปิดเวทีภาคประชาชน นอกจากนี้ ประกาศดังกล่าวยังขัดกับหลักสากลเกี่ยวกับสิทธิการชุมนุมสาธารณะ เป็นการลิดรอนเสรีภาพในการชุมนุมและรวมกลุ่มโดยสงบ (The right of peaceful assembly) ได้รับการรับรองไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights: UDHR) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Right: ICCPR) ที่ว่าบุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพแห่งการชุมนุมและการสมาคมโดยสงบ แต่อาจถูกจำกัดสิทธิได้โดยกฎหมาย เพื่อแสดงการยอมรับและเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น และสอดคล้องกับศีลธรรมความสงบเรียบร้อยของประชาชน และสวัสดิภาพโดยทั่วไปในสังคมประชาธิปไตย
การประชุมระหว่างประเทศอื่นๆที่เกิดขึ้นในโลก ล้วนเปิดพื้นที่ชุมนุมสาธารณะคู่ขนานภายในบริเวณกับที่จัดงาน เห็นได้จากการประชุม COP27 ที่อียิปต์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ที่อนุญาตให้ภาคประชาชนจัดการชุมนุมคู่ขนานได้ โดยมีผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและผลักดันให้เกิดกลไกการเงินเพื่อโลกร้อนในระดับโลกและระดับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแสดงความรับผิดชอบการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม หรือในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในทุกๆ ปี ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันหน้าสถานที่จัดการประชุม โดยเป็นการชุมนุมเรียกร้องและต่อต้านรัฐบาลที่เดินทางเข้ามาร่วมงานและเป็นไปอย่างสงบ ปราศจากความรุนแรงใดๆ
โฆษกพรรคไทยสร้างไทยกล่าวว่า การเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนสามารถนำเสนอประเด็นที่แตกต่างจากรัฐบาล ถือเป็นการเปิดโอกาสการมีส่วนร่วมและแสดงจุดยืนให้แก่ผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมเอเปค สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่อยู่ใกล้สถานที่จัดงาน เพื่อให้ผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ จากต่างประเทศสามารถเดินทางมารับฟังและพบปะประชาชนได้สะดวก ไม่ควรปิดกั้นการมีส่วนร่วมและการสื่อสารของภาคประชาชน โดยเฉพาะประเด็นเชิงนโยบายที่ภาคประชาชนเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐบาล และควรขอความร่วมมือให้นำเสนอประเด็นที่เหมาะสม ไม่สร้างความแตกแยกบนเวทีระหว่างประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่กลัวรัฐประหาร ‘ภูมิธรรม’ ลั่น! จัดการได้รัฐบาลอยู่ครบเทอมแน่
“ภูมิธรรม” โวยเอ็มโอยู 44 ถูกปลุกปั่นไปไกล แทบจะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ไม่กังวลใจกับคำถามที่ว่าในปี 2568 สถานการณ์การเมืองจะวุ่นวายและโดนรัฐประหาร
'ภูมิธรรม' เซ็ง 'เอ็มโอยู44' ถูกปลุกปั่นจนออกนอกอวกาศ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเอ็มโอยู 44 ว่า ตนยังยึดหลักเดิม เพราะควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ เพราะเอ็มโอยู 44 ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไร
คปท. ลั่น 2568 ปีเช็กบิล!
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ปีเช็กบิล
รัฐบาลลุยขายฝันหนีบ่วงการเมือง แกนนำม็อบขยับจัดทัพเดินหน้าไล่
การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือนของ อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่สตูดิโอ 4 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)
เผยเบื้องหลัง 'คนดังต้านระบอบทักษิณ' รวมตัว ประเดิมงานแรกลุย ป.ป.ช.
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เพื่อประเทศชาติและความยุติธรรม
'ทักษิณ' สื่อสารถึง 'สนธิ' : 'การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิม'
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย