'จิรายุ'เหน็บพรรคร่วมรัฐบาลอย่าทะเลาะกันบ่อย อยากเห็นปรองดองทำนโยบายที่เคยโม้ไว้ เผย 2 สัปดาห์ที่แล้ว ยื่นเอกสารดีเอสไอ-ป.ป.ช.ฟันรมต. 5 สำนวน 4 พันหน้า ลั่นไม่ว่านายกฯ ยุบสภาตอนไหนก็จะตรวจสอบทุกวินาที
4 พ.ย.2565 - ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาล ฉะนั้น จึงขอฝากเตือนไปยังรัฐมนตรีหลายคนอย่าคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงนอนหลับ เพราะฝ่ายค้านทำงานตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อรวบรวมข้อมูลซึ่งแน่นอนว่าจะนำไปสู่การเปิดเผยในสภาและเวทีนอกสภา ทั้งนี้ การตรวจสอบไม่ใช่แค่การอภิปราย ไม่ใช่แค่การใช้วาจาในสภาเท่านั้น มีการจับจริงเกิดขึ้นมาแล้วในหลายเรื่อง โดยมี 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ยื่นเรื่องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไป 5 สำนวน ตนไปร้องไม่ได้มีกระดาษแค่ 4 แผ่น แต่ตนไปร้องเป็นหนังสือ เอกสาร พยานหลักฐานสำคัญ 4,000 กว่าหน้า จึงขอฝากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ท่านผู้นำประเทศอย่าได้นิ่งนอนใจ นอกจากนี้จะมีสำนวนสำคัญอีก 2-3 สำนวนส่งเข้าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ที่ตนเป็นประธานอยู่
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขอเตือนไปยังรัฐบาลอย่าลักหลับในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ไม่ว่าท่านจะวางแผนยุบสภาหรือไม่ หรือแม้กระทั่งที่ท่านบอกว่าจะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งผมไม่สบายใจอย่างยิ่งที่เมื่อวานนี้ (3 พฤศจิกายน) มีสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลพูดต่อกรรมาธิการว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยุบสภาภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยไม่รออยู่ครบวาระ ซึ่งผมก็บอกว่าผมไม่รู้ ผมไม่เชื่อ เพราะผมเคยเจอพล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เคยไปจับเข่าคุยกับเขา ซึ่งสมาชิกฝ่ายรัฐบาลคนนั้นก็ยังยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์อยู่ไม่ครบวาระ เนื่องจากมีเงื่อนไข 180 วัน เพราะหากยุบสภาก่อนก็จะต้องไปใช้อีกกฎหมายหนึ่ง แต่ถ้ายุบวันที่ 23 มีนาคม ก็จะครบตามที่กฎหมายบังคับคือ 180 วัน ไม่ว่าท่านจะยุบเร็วหรือยุบช้า เรื่องของท่าน แต่เรื่องของฝ่ายค้านคือการติดตามตรวจสอบในทุกวินาทีจนกว่าท่านจะยุบสภาหรือท่านจะอยู่ครบวาระก็ตาม
“ฉะนั้น ขอให้ท่านมั่นใจ ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีมั่นใจก็ขอให้ลงสมัครเป็นเบอร์หนึ่งของพรรคพลังประชารัฐไปเลย แล้วพรรคร่วมรัฐบาบวันนี้ก็รบกวนเบาๆ เรื่องการทะเลาะกันหน่อย ผมอยากจะเห็นท่านปรองดองกันและทำนโยบายที่ขี้โม้ไว้ตั้งแต่ต้นหลายอย่าง ซึ่ง 4 ปีมานี้ไม่ได้ทำเยอะแยะเลยและฝ่ายค้านตรวจสอบในเว็บก็พบว่ามีพรรครัฐบาลแอบไปลบนโยบายกันเยอะ ไม่อายกันเองก็อายประชาชนบ้าง วันนี้ขอบอกว่าไม่ใช่เวลาที่รัฐบาลจะมาทะเลาะกันเอง ควรจะเป็นเวลาที่ท่านจะทำนโยบายต่างๆ ให้เป็นผลสัมฤทธิ์ให้กับพี่น้องประชาชนในช่วง 3-4 เดือนสุดท้าย” นายจิรายุ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฆษกฯ ฝากเตือนลูกหลานช่วยกลุ่มเปราะบางที่โอนเงินหมื่นไม่สำเร็จ
“ จิรายุ ”ฝากลูกหลานช่วยเตือนญาติผู้ใหญ่คนใกล้ชิด 4 หมื่นกว่าคนที่รัฐโอนเงินหมื่นให้ไม่ได้ เหตุไม่ได้ทำพร้อมเพย์ แนะอย่าปล่อยให้เสียโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและคนพิการ หลังรัฐจะปิดโอนหมดสิทธิ 19 ธ.ค. นี้
นายกฯอิ๊งค์ลั่นประเทศไทยต้องยืนหนึ่งบนเวทีโลก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเวลา 18 นาฬิกาของวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน) ตามเวลาเปรู ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 27 ชั่วโมง โดยจะถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 11 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ดังนี้
ศปช. ยันพายุหยินซิ่งไม่เข้าไทย แจงข่าวน้ำท่วมแม่สายอีกรอบเป็นเฟกนิวส์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย
ครม. ตั้ง 'บิ๊กรอย' นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม 'คารม-ศศิกานต์' รองโฆษกรัฐบาล
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1.พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม
ครม.อนุมัติงบกลาง 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินแผนงาน
ปลื้ม ‘UN’ ชม แจก ‘สัญชาติ’ ยันไม่มี ‘สีเทา’
รัฐบาลปลื้มยูเอ็น ยกย่องไทยยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ โฆษกรัฐบาลยัน กลุ่มคนสีเทา หรือแรงงานต่างด้าว หรือผู้หลบหนีเข้าเมือง ไม่ได้สัญชาติไทย เผยเหตุให้รวดเดียว 4.8 แสนคน